10-เมษายน  |   5849

ส่วนใหญ่รถที่นำมาตกแต่งมักจะเป็นรุ่นเก่า ที่หาซื้อมาในราคาไม่แพงแล้วจึงจับมาปรับโฉมใส่ชุดบอดี้พาร์ท  สลับเครื่องยนต์ที่แรงกว่าเดิม และโมดิฟายไส้ในใส่เทอร์โบ  แต่สำหรับรถรุ่นใหม่นั้นไม่ค่อยมีให้เห็น  เพราะไม่กล้าที่จะดัดแปลงจนเกินตัว เท่าที่ทำได้ก็มักจะตกแต่งโฉมภายนอกให้ดูแตกต่างไปกว่าเดิม พร้อมกับปรับเซ็ทระบบช่วงล่างให้แน่นหนึบ เพื่อให้สามารถตอบสนองในการขับได้อย่างมั่นใจ       และนั้นก็เป็นสเตปการแต่งที่แม้แต่     TOYOTA  CAMRY 2.4 V  รถรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นโฉมปัจจุบันในเจเนเรชั่นที่ ก็ต้องยอมทำตาม ทั้งนี้เพราะเจ้าของรถยังเป็นวัยรุ่นอยู่ จึงต้องการจะปรับแต่งให้ฉีกแนวสักหน่อยด้วยการปรับโฉมในสไตล์ของ  FREE STYLE   ใส่ล้อแม็กบิ๊กไซส์ไว้อวดสายตา และที่สำคัญยังปรับเปลี่ยนช่วงล่างให้เป็นแบบถุงลม ซึ่งไม่ต่างจากระบบไฮดรอลิกที่นิยมเล่นกัน      ทางด้านขุมพลังของแคมรี่นั้นเป็นเครื่องยนต์ 1AZ-FE  แบบ  4 สูบ ขนาด 2000 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว  แบบ VVT-i ซึ่งเป็นระบบวาล์วแปรผันที่ขึ้นชื่อของโตโยต้า    สามารถให้กำลังแรงม้าสูงสุด 147  แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที  กับแรงบิดสูงสุด  190 นิวตัน-เมตร ที่ 4000 รอบต่อนาที  พร้อมระบบเกียร์แบบ  5 สปีด   ซึ่งในส่วนของเครื่องยนต์ไม่ได้ทำการปรับแต่งแต่อย่างใดแค่แต่แต้มฝาครอบเครื่องให้มีสีสันเป็นสีฟ้าลูไซส์เพื่อให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น  เสริมเท่รอบคันแบบฟรีสไตล์ ติดซันรูฟลงล้อใหญ่ไซส์ 20 นิ้ว     สำหรับ TOYOTA  CAMRY 2.4 V นั้นเป็นรถซีดานขนาดกลางของค่ายโตโยต้า ซึ่งเผยโฉมออกมาตั้งแต่ปลายปี 2549    โดยรูปลักษณ์แล้วได้รับการออกแบบมาให้ทันสมัยดูหรูหรามีระดับเหมาะกับผู้บริหาร   แต่คันนี้เจ้าของรถยังวัยรุ่นจึงไม่ชอบเดิม ๆ ดังนั้นจึงต้องการความโดดเด่นให้กับรถของตนด้วยการปรับแต่งเพิ่มความเป็นสปอร์ตให้มากยิ่งขึ้นด้วยชุดบอดี้พาร์ทที่ดีไซน์จาก FREE STYLE   สำนักแต่งชื่อดังของชลบุรี ที่ชอบแต่งรถแปลกแหวกแนว    เริ่มจากกันชนหน้าที่เป็นของเดิมแต่ได้เสริมครอบสเกิร์ตหน้าเข้าไป ทำให้หน้าตาเปลี่ยนไปทันทีดู เพราะการออกแบบสเกิร์ตหน้านั้นได้ทำเป็นลิ้นหน้ายื่นออกมากำลังดี และช่องตรงกลางดักลมได้ติดตะแกรงให้สไตล์เรซซิ่งแทน กับช่องด้านข้างที่ทำเป็นตัวครอบไฟสปอร์ตไลท์ทรงกลมได้อย่างลงตัวทำให้ดูมีมิติมากขึ้น   ต่อมาที่กระจังหน้าของเดิมติดรถเป็นแบบ 3 ซี่ร่อง โลโก้โตโยต้าอยู่ตรงกลาง  แต่ได้เปลี่ยนมาเป็นกระจังหน้าแต่งในแบบ 4 ซี่โครเมียม  ส่วนด้านข้างได้สร้างมุมมองที่แตกต่างด้วยล้อแม็กขนาดใหญ่แบบบิ๊กไซส์ ที่สามารถดึงดูดสายตาผู้คนให้หันมามองได้ไม่ยาก เพราะเล่นยัดล้อขนาด  20 นิ้ว  ดีไซน์แบบ 5 ก้านคู่ในสไตล์ตัว V  ที่เงางามด้วยโครเมียม  พร้อมกับยางหน้ากว้างแก้มเตี้ยมาช่วยให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนทำได้ดียิ่งขึ้น   แนบสเกิร์ตข้างติดฟิล์มปรอทดำ เจาะซันรูฟใส่สเกิร์ตกับสปอยเลอร์      ส่วนสเกิร์ตข้างที่แนบติดอยู่ที่ชายล่างนั้นไม่ได้ออกแบบให้หวือหวามากนัก แต่เน้นความเรียบหรูที่ดูดีเล่นขอบสันแต่พอสวยงาม   พร้อมกันนั้นที่กระจกข้างได้อินเทรนด์ด้วยการติดฟิลม์กรองแสงที่ไม่เหมือนกัน โดยกระจกข้างที่ประตูหน้าสะใจในแบบปรอทมันวาว ส่วนที่กระจกข้างประตูหลังชอบแบบดุดันจึงตัดด้วยฟิลม์กันแสงแบบเข้มจัดที่ออกดำสนิททำให้มองไม่เห็นภายในห้องโดยสารแม้แต่น้อย และเพื่อขยับขึ้นไปบนหลังคาจะเห็นว่าเปลี่ยนไปเพราะรุ่นนี้ไม่มีหลังคาซันรูฟ แต่ได้ลงทุนทำการเจาะหลังคาเพื่อติดตั้งซันรูฟขึ้นมาใหม่  ที่สามารถปรับได้สองระดับทั้งแบบเขยิบขึ้น และเปิดกว้างเต็มที่เพื่อให้สามารถรับลมชมบรรยากาศได้  ต่อมาที่ด้านท้ายก็ตกแต่งไม่น้อยเช่นกัน โดยติดสเกิร์ตหลังเข้าไปทำให้ดูบั้นท้ายใหญ่ขึ้น ซึ่งได้ออกแบบให้ยื่นออกมาพอประมาณและเว้าทางด้านขวาเพื่อเป็นช่องให้ปลายท่อไอเสียสแตนเลสทรงสี่เหลี่ยมที่ฮิตกันอยู่ได้โผล่ออกมาโชว์ และที่ฝากระโปรงหลังยังได้แปะด้วยสปอย์เลอร์ในแบบ DUCKSPOILER  หรือมักจะเรียกว่าตูดเป็ด ช่วงล่างแบบถุงลมปรับสูง-ต่ำ เบรกมั่นใจคุณภาพ ENDRESS     ในส่วนของระบบกันสะเทือนของรุ่นนี้ทางด้านหน้าจะเป็นแม็คเฟอร์สันสตรัท  ส่วนด้านหลังเป็นแบบดูอัลลิงค์สตรัท     ซึ่งมีประสิทธิภาพในการทรงตัวเยี่ยมมั่นใจได้ในทุกสภาพถนน ให้ความนุ่มนวลนั่งสบายเวลาขับขี่   แต่เพื่อให้เกาะกระแสอินเทรนด์ในแบบรถโลว์ไรเดอร์ หรือเรียกว่ารถเตี้ยติดดิน โดยเมื่อก่อนจะเล่นระบบไฮดรอลิก      เวลานี้ได้หันมาปรับแต่งช่วงล่างใหม่ให้ออกมาในแบบระบบถุงลม หรือ AIR  SUPPENSION  ซึ่งประกอบไปด้วย ถุงลมจำนวน 4 ลูก   สายต่อ  ถังลมเพื่อกักเก็บลมไว้  และเครื่องปั๊มลมทำหน้าที่ปั๊มลมให้เข้าไปเก็บไว้ในถังลม สุดท้ายชุดรีเลย์ควบคุมลม            และในส่วนของถังลม ซึ่งได้ติดตั้งไว้ด้านท้ายที่ห้องเก็บสัมภาระได้ทำพ่นสีสันเป็นสีฟ้าเล่นแอร์บรัชลวดลายเป็นเส้นด้วยสีบรอนด์ กับยี่ห้อ FREE STYLE    สำหรับระบบถุงลมนั้น เท่าที่ดูก็แทบจะไม่แตกต่างไปจากระบบไฮดรอลิกมากนัก   เพราะจะต้องมีชุดสวิทช์ควบคุม เพื่อใช้ในการปรับระดับของตัวรถให้สูงต่ำได้ตามชอบใจ   แต่ที่เหนือกว่าก็ตรงที่ระบบถุงลมสามารถใช้งานได้ทนทานกว่า เพราะที่สำนักแต่งฟรีสไตล์เขากล้ารับประกันตลอดอายุการใช้งาน      สำหรับการทำงานของระบบถุงลมนั้นสามารถปรับระดับลงให้เตี้ยแบบเกือบติดพื้นยังได้ หรือจะปรับระดับให้ด้านหน้าสูงท้ายเตี้ย และสลับมาปรับให้ท้ายโด่งหน้าทิ่มก็ทำได้หมด  นอกจากนี้ระบบเบรกก็ได้ให้ความสำคัญเช่นกัน โดยได้ปรับเปลี่ยนคาลิเปอร์เบรกใหม่หมด ซึ่งได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชื่อดังของ ENDLESS  ที่เบรกด้านหน้า ซึ่งเห็นชัดกับฝาคาร์ลิเปอร์แบบสีแดง มาในแบบข้างละ 4 พอร์ท ที่มีประสิทธิภาพเยี่ยมเป็นที่ยอมรับของบรรดารถซิ่งทั้งหลาย ส่วนเบรคหลังพอใจที่ใช้ของแต่งจาก TRD   ที่มาในแบบข้างละ 1 พอร์ท และสุดท้ายในส่วนของเครื่องเสียงคันนี้ก็ไม่น้อยหน้าใครเช่นกัน เพราะแค่เปิดฝากระโปรงท้ายเท่านั้นก็จะเห็นถึงการติดตั้งชุดเครื่องเสียงแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งจะเล่นตีตู้ในแบบอะคีลิกใส เพื่อโชว์ให้เห็นลำโพงซับวูฟเฟอร์ดอกใหญ่ขนาดประมาณ 18 นิ้ว จำนวน 1 คู่ และลำโพงแยกชิ้นกลางแหลมอีกหลายตัว ที่สำคัญเน้นเอนเตอร์เทนอย่างเต็มที่ด้วยการติดตั้งทีวีที่ภายในฝากระโปรงหลัง โดยมีถึง 3 ตัวขนาบข้างด้วยจอใหญ่ของซูเล็กซ์จำนวน  2 ตัว และตรงกลางเป็นจอขนาดเล็ก           ถึงจะเป็นแคมรี่รุ่นใหม่แต่ใช่ว่าจะไม่กล้าฉีกแนว ซึ่งสามารถปรับโฉมออกมาได้โฉบเฉี่ยวเร้าใจ และสนุกทุกระดับกับช่วงล่างแบบถุงลม  เพียงเท่านี้ก็สะใจในอารมณ์แล้ว ทีมงาน : CarShowciety