ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Home Car Show Super Car & Import Car Off Road Car Stereo Eenergy Business Wheel & Tires Classifieds Webboard
Sport World Home & Condo Motor Cycle Cycle Bike Review & TestDrive Classic Car Motor Sport Pretty Show Sexy Lady Society News





ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 (Porsche 911 Carrera 4) และ 911 ทาร์ก้า 4 (911 Targa 4) เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่
หน้าแรก » รีวิวรถ/Review -TestDrive » PORSCHE » ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 (Porsche 911 Carrera 4) และ 911 ทาร์...

19-ตุลาคม  |   2027





ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 (Porsche 911 Carrera 4) และ 911 ทาร์ก้า 4 (911 Targa 4) เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่

เพิ่มประสิทธิภาพในการออกตัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ล่าสุด       สตุ๊ดการ์ท. กว่า 1 ใน 3 ของผู้ขับขี่รถยนต์ปอร์เช่ 911 ตัดสินใจเลือกรถสปอร์ตรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อเพื่อเป็นพาหนะคู่ใจ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) และ 911ทาร์ก้า 4 (911 Targa 4) รุ่นใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่มากยิ่งขึ้นพร้อมเอกลักษณ์แห่งยานยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยนวัตกรรมเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จให้พละกำลังเพิ่มขึ้นแต่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและความมั่นใจในการขับขี่ ติดตั้งระบบช่วงล่างอัตโนมัติ PASM (Porsche Active Suspension Management) ซึ่งลดระดับความสูงของตัวรถลง 10 มิลลิเมตร เป็นอุปกรณ์มาตรฐานรองรับทุกรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่อย่างจริงจังในสนามแข่งขัน หรือการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างความสะดวกสบาย สำหรับ ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง (Rear-axle steering) สามารถเลือกติดตั้งเป็นอุปกรณ์พิเศษเพิ่มในรุ่นคาร์เรร่า 4 เอส (Carrera 4 S) เพื่อการบังคับควบคุมที่ดียิ่งขึ้น ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับระบบ Porsche Communication (PCM) ควบคุมการทำงานด้วยหน้าจอสัมผัส

ไม่เพียงประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) รุ่นใหม่ ยังสรรสร้างรูปลักษณ์ภายนอกที่สง่างามและแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของ 911 มากยิ่งขึ้น ด้วยแถบคาดไฟท้ายใหม่แบบ 3 มิติ ซึ่งมองเห็นได้เด่นชัดแม้ในระยะไกล สามารถสังเกตได้ถึงความคมชัดและมิติแสงสว่าง เส้นสายจากไฟท้ายบ่งบอกถึงตัวตนของรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมปีกหลังขยายขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 44 มิลลิเมตร โคมไฟหน้าใหม่ติดตั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ 4 ดวง (four-point daytime running lights) มือจับเปิดประตูและช่องระบายอากาศเครื่องยนต์แนวตั้งดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟท้ายติดตั้งสัญญาณไฟเบรกแบบ 4 ดวง
ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่งามสง่า สะท้อนความเป็นตัวตนที่ไม่เหมือนใครของ 911 ทาร์ก้า (911 Targa) จากดีไซน์ตัวถังที่ให้มุมมองระหว่างรถสปอร์ตคูเป้และรถสปอร์ตเปิดประทุน ผสมผสานความคลาสสิคด้วยแนวคิดการออกแบบที่มีสไตล์เฉกเช่นเดียวกันกับ 911 ทาร์ก้า (911 Targa) ทุกรุ่นที่ผ่านมา แนวคานขวางติดตั้งแทนเสา B ช่วยให้สามารถเปิดหลังคาได้โดยยังคงไว้ซึ่งกระจกบังลมด้านหลัง ผู้ขับขี่สามารถเปิด-ปิดหลังคาผ่านปุ่มควบคุมด้วยปลายนิ้วสัมผัส

อัตราเร่งที่รวดเร็วขึ้นพร้อมความประหยัดที่เพิ่มมาถึง 12% ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 4 ทศวรรษ ในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีเครื่องยนต์สูบนอน ติดตั้งระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จ ทั้งในรถแข่งและรถสปอร์ตสมรรถนะสูงต่างๆ ส่งผลให้ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) รุ่นใหม่นี้ สามารถแสดงศักยภาพและสมรรถนะออกมาได้มากขึ้น พร้อมด้วยประสิทธิภาพในการขับขี่ ต้องขอบคุณระบบอัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่ (bi-turbocharging) ที่ได้รับการติดตั้งในเครื่องยนต์ 6 สูบนอนขนาดความจุ 3 ลิตร ทำให้ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) และ 911 ทาร์ก้า 4 (911 Targa 4) ผลิตพละกำลังสูงสุดได้กว่า 370 แรงม้า (272 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดที่ 450 นิวตันเมตร สำหรับ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (911 Carrera 4S) และ 911 ทาร์ก้า 4 เอส (911 Targa 4S) สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้กว่า 420 แรงม้า (309 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดที่ 500 นิวตันเมตร ด้วยพละกำลังที่มากกว่ารุ่นเดิมถึง 20 แรงม้า (15 กิโลวัตต์) ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสถึงความแรงที่เพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจน โดยทั้งหมดนี้เกิดจากการพัฒนาระบบเทอร์โบชาร์จ ระบบระบายไอเสีย และการปรับจูนเครื่องยนต์ใหม่
ด้วยการทำงานผสมผสานกันระหว่างเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ ร่วมกับระบบช่วงล่างและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ ทำให้ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) สามารถสร้างอัตราเร่งได้ดีกว่า 911 รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เมื่อติดตั้งเกียร์ PDK และชุดแต่ง Sport Chrono package ส่งผลให้ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) ใหม่เร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปถึงความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.1 วินาที (เร็วกว่ารุ่นเดิม 0.4 วินาที) ขณะที่ในรุ่น S สามารถทำได้ภายใน 3.8 วินาที (เร็วกว่ารุ่นเดิม 0.3 วินาที) สำหรับรุ่นคาบริโอเลต (cabriolet S) และ 911 ทาร์ก้า 4 (911 Targa 4) ใช้เวลามากกว่าเพียง 0.2 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ระหว่าง 287 – 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์พิเศษติดตั้งเพิ่มเติม
เป็นเรื่องปกติของเครื่องยนต์สมรรถนะสูงจากปอร์เช่ เมื่อให้พละกำลังที่มากกว่าเดิมย่อมมาพร้อมความประหยัดที่ดียิ่งขึ้นด้วย อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ 911 คาร์เรร่า 4 คาบริโอเลต (911 Carrera 4 Cabriolet) เกียร์ PDK อยู่ที่ 7.9 ลิตร/100 กิโลเมตร (12.65 กิโลเมตร/ลิตร) โดยดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 0.8 ลิตร สำหรับ 911 คาร์เรร่า 4 เอส คาบริโอเลต (911 Carrera S Cabriolet) และ 911 ทาร์ก้า 4 เอส (911 Targa 4S) เกียร์ PDK มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 8.0 ลิตร/100 กิโลเมตร (12.5 กิโลเมตร/ลิตร) ซึ่งดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 1.2 ลิตร
ชุดแต่ง Sport Chrono package พร้อมสวิทช์เลือกรูปแบบการขับขี่ ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจาก 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) เมื่อติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ ชุดแต่ง Sport Chrono package ครั้งแรกในรถสปอร์ต 911 รุ่นใหม่ มาพร้อมสวิทช์เลือกรูปแบบการขับขี่บนพวงมาลัย ที่สุดแห่งเทคโนโลยี ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากซูเปอร์คาร์ไฮบริด 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) สวิทช์โรตารี่ 4 ตำแหน่งบนพวงมาลัย ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกสไตล์การขับที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละสภาวะได้ถึง 4 รูปแบบ คือ “Normal”, “Sport”, “Sport Plus” และ “Individual” ซึ่งในรูปแบบ Individual ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับแต่งลักษณะการทำงานได้ตามความต้องการ ตั้งแต่การปรับตั้งระบบ PASM แท่นเครื่องยนต์แบบปรับการทำงานได้ (active engine mounts) การทำงานของเกียร์ PDK และระบบระบายไอเสียแบบสปอร์ต พิเศษสุดสำหรับรถรุ่นที่ติดตั้งเกียร์ PDK เสริมประสิทธิภาพของยนตกรรมสปอร์ตด้วยระบบควบคุม “Sport Response Button” เมื่อกดปุ่มดังกล่าว ระบบเครื่องยนต์และระบบเกียร์จะทำการตั้งค่าตัวรถให้เตรียมพร้อมทำงานเพื่อสมรรถนะสูงสุดเป็นเวลา 20 วินาที สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างทันทีทันใด

ระบบ PASM ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ลดระดับความสูงของช่วงล่างลง 10 มิลลิเมตร สิ่งที่วิศวกรผู้ออกแบบรถยนต์ปอร์เช่ 911 รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือสมรรถนะและการยึดเกาะถนนที่เหนือชั้น รวมทั้งความสามารถในการตอบสนองครอบคลุมทุกลักษณะการขับขี่ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังคงได้รับการสรรสร้างลงในรถยนต์ปอร์เช่ 911 รุ่นใหม่ ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อควบคุมด้วย electro-hydraulic เทคโนโลยีจากสุดยอดรถสปอร์ต 911 เทอร์โบ (Porsche 911 Turbo) ให้การตอบสนองที่แม่นยำในทุกระดับความเร็ว พร้อมประสิทธิภาพในการบังคับควบคุมทิศทางที่เที่ยงตรงทุกรูปแบบการขับขี่ จากการทำงานที่สอดคล้องกันของระบบช่วงล่าง PASM ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ให้ลดระดับความสูงของตัวรถลง 10 มิลลิเมตร เพิ่มเสถียรภาพในการทรงตัว ร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้ความมั่นคงในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง แต่ยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวลในทุกสภาพถนนและตอบสนองสไตล์การขับขี่แบบสปอร์ตด้วยโช๊คอัพแบบใหม่
ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง (active rear-axle steering) สามารถเลือกติดตั้งเป็นอุปกรณ์พิเศษในรุ่นคาร์เรร่า เอส (Carrera S) ด้วยเทคโนโลยีจาก 911 เทอร์โบ (911 Turbo) และ 911 จีที3 (911 GT3) ช่วยเพิ่มความเที่ยงตรงแม่นยำในการเข้าโค้งด้วยการขับขี่ที่ความเร็วสูง โดยเฉพาะการหักเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนช่องจราจรอย่างกะทันหัน นอกจากนี้ระบบดังกล่าวยังช่วยลดรัศมีวงเลี้ยวลงได้ถึง 0.4 เมตร เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานแม้ในการสภาพการจราจรที่ติดขัด พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ในรูปลักษณ์เดียวกับซูเปอร์คาร์ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) โดยในรุ่นพื้นฐานติดตั้งพวงมาลัยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 375 มิลลิเมตร ส่วนพวงมาลัยสั่งติดตั้งเป็นอุปกรณ์พิเศษสไตล์ GT สปอร์ตมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 360 มิลลิเมตร และเพื่อการใช้งานอย่างเต็มที่ในชีวิตประจำวัน ปอร์เช่ได้ติดตั้งระบบไฮดรอลิกพร้อมกับชุดสตรัทของช่วงล่างด้านหน้า ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มความสูงใต้ท้องรถได้ถึง 40 มิลลิเมตร ด้วยการทำงานเพียง 5 วินาที เป็นการป้องกันการกระแทกบริเวณใต้ท้องรถเมื่อต้องขับขี่ผ่านเส้นทางที่ไม่เหมาะสม เช่น เนินลูกระนาดต่างๆ เป็นต้น
ระบบติดต่อสื่อสารและความบันเทิง: ควบคุมการทำงาน PCM ผ่านหน้าจอแบบสัมผัส ระบบติดต่อสื่อสารและความบันเทิง PCM ใหม่ ควบคุมทุกฟังก์ชั่นการทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบนำทางใหม่ด้วยรูปแบบการสั่งงานใกล้เคียงกับโทรศัพท์มือถือ สามารถป้อนข้อมูลด้วยการเขียนผ่านหน้าจอได้ทันที เพิ่มอรรถประโยชน์ในการใช้งานด้วยการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น ด้วย Wi-Fi, Bluetooth หรือแม้แต่การติดต่อด้วยสายเคเบิ้ล

รถยนต์ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) และ 911 ทาร์ก้า (911 Targa 4) จะเปิดตัวในประเทศเยอรมนี ช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2016
รุ่น 911 (Porsche 911): อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.7–7.4 ลิตร/100 กิโลเมตร, (7.87-13.51 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในเมือง 19.2–9.9 ลิตร/100 กิโลเมตร, (5.20-10.10 กิโลเมตร/ลิตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 8.9–6.0 ลิตร/100 กิโลเมตร; (11.23-16.66 กิโลเมตร/ลิตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อยู่ที่ 296–169 กรัม/กิโลเมตร
911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4): อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 8.7-7.7 ลิตร/100 กิโลเมตร, (11.50-16.66 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในเมือง 12.2-10.1 ลิตร/100 กิโลเมตร, (8.20-9.90 กิโลเมตร/ลิตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 6.7-6.3 ลิตร/100 กิโลเมตร; (14.92-15.87 กิโลเมตร/ลิตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อยู่ที่ 201-177 กรัม/กิโลเมตร
911 ทาร์ก้า (911 Targa 4): อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 8.9-7.9 ลิตร/100 กิโลเมตร, (11.23-12.65 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในเมือง 12.4-10.3 ลิตร/100 กิโลเมตร, (8.06-9.70 กิโลเมตร/ลิตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 6.9-6.5 ลิตร/100 กิโลเมตร; (14.50-15.38 กิโลเมตร/ลิตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อยู่ที่ 206-182 กรัม/กิโลเมตร

911 คาร์เรร่า 4 เอส (911 Carrera 4S): อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 8.9-7.9 ลิตร/100 กิโลเมตร, (11.23-12.65 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในเมือง 12.4-10.3 ลิตร/100 กิโลเมตร, (8.06-9.70 กิโลเมตร/ลิตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 6.8-6.6 ลิตร/100 กิโลเมตร; (14.70-15.15 กิโลเมตร/ลิตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อยู่ที่ 204-180 กรัม/กิโลเมตร
911 คาร์เรร่า 4 คาบริโอเลต (911 Carrera 4 Cabriolet): อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 8.9-7.9 ลิตร/100 กิโลเมตร, (11.23-12.65 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในเมือง 12.4-10.3 ลิตร/100 กิโลเมตร, (8.06-9.70 กิโลเมตร/ลิตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 6.9-6.5 ลิตร/100 กิโลเมตร; (14.50-13.38 กิโลเมตร/ลิตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อยู่ที่ 206-182 กรัม/กิโลเมตร
911 คาร์เรร่า 4 เอส คาบริโอเลต (911 Carrera 4 S Cabriolet): อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.0-8.0 ลิตร/100 กิโลเมตร, (11.11-12.5 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในเมือง 12.6-10.4 ลิตร/100 กิโลเมตร, (7.93-9.61 กิโลเมตร/ลิตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 6.8-6.7 ลิตร/100 กิโลเมตร; (14.70-14.92 กิโลเมตร/ลิตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อยู่ที่ 208-184 กรัม/กิโลเมตร

911 ทาร์ก้า 4 เอส (911 Targa 4S): อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.0-8.0 ลิตร/100 กิโลเมตร, (11.11-12.5 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในเมือง 12.6-10.4 ลิตร/100 กิโลเมตร, (7.93-9.61 กิโลมตร/ลิตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 6.8-6.7 ลิตร/100 กิโลเมตร; (14.70-14.92 กิโลเมตร/ลิตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อยู่ที่ 208-184 กรัม/กิโลเมตร;
918 สไปเดอร์ (918 Spyder): อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 3.1–3.0 ลิตร/100 กิโลเมตร; (32.2-33 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย: 12.7 กิโลวัตต์/100 กิโลเมตร; ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อยู่ที่ 72–70 กรัม/กิโลเมตร
911 เทอร์โบ (911 Turbo) และ 911 เทอร์โบ เอส คูเป้/คาบริโอเลต (911 Turbo S Coupé/ Cabriolet): อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.9–9.7 ลิตร/100 กิโลเมตร; (10.10-10.30 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในเมือง 13.4-13.2 ลิตร/100 กิโลเมตร; (7.46-7.57 กิโลเมตร/ลิตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 7.8–7.7 ลิตร/100 กิโลเมตร; (11.49-12.98 กิโลเมตร/ลิตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อยู่ที่ 231–227 กรัม/กิโลเมตร 911 จีที3 (911 GT3) อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.4 ลิตร/100 กิโลเมตร; (8.06 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในเมือง 18.9 ลิตร/100 กิโลเมตร; (5.29 กิโลเมตร/ลิตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 8.9 ลิตร/100 กิโลเมตร; (11.23 กิโลเมตร/ลิตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์อยู่ที่ 289 กรัม/กิโลเมตร
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อก้าวเข้าสู่คำว่า AAS The Name you can Trust ความไว้วางใจที่ให้คุณได้มากกว่า ตลอดระยะเวลาดำเนินการมา กว่า 20 ปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th
Porsche Centre Bangkok PR
Public Relations and Media
ปวราภา ดุพัสกูล
Phone: +662 522 6655 ext. 448
e-mail: pawarapa@porsche.co.th

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

 E-mail : carshowsociety@gmail.com
              : ceosociety1998@gmail.com
   Tel      : 084-659-4999
              : 099-973-9969

ทีมงาน carshowsociety ได้ประชาสัมพันธ์ข่าวให้แล้วนะคะ และช่วยกดไลค์ให้หน่อยนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจแก่ทีมงานค่ะ
(Thank you)











        Video Clip


The new Porsche 911 Carrera – High-performance systems
  ทั้งหมด -»»


        เรื่องอื่นๆ ในหมวด

New Audi A7 Sportback 2018 ใหม่

Mercedes-Benz SLC
In March 2016, 20 years on from the birth of its segment..
Mercedes-Benz SLC43 AMG
There need be no contradiction between high driving dynamics and low fuel consumption...
Mercedes-Benz S600 Pullman Maybach Guard
The absolute flagship model from Mercedes-Maybach with face-to-face..
TRA สถาบันสอนขับรถแข่ง ที่กล้ายืนยัน ว่าดีที่สุดในเมืองไทย
TRA สถาบันสอนขับรถแข่ง ที่กล้ายืนยัน ว่าดีที่สุดในเมืองไทย..
  ทั้งหมด -»»









 


แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.

©2013 carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com

789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999