ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Home Car Show Super Car & Import Car Off Road Car Stereo Eenergy Business Wheel & Tires Classifieds Webboard
Sport World Home & Condo Motor Cycle Cycle Bike Review & TestDrive Classic Car Motor Sport Pretty Show Sexy Lady Society News





ประวัติตำนาน และ เครื่องรางของขลัง ขุนพันธรอัครราชเดช
หน้าแรก » Movie And Music » ประวัติตำนาน และ เครื่องรางของขลัง ขุนพันธรอัครราชเดช...

7-ธันวาคม  |   3684





 ประวัติตำนาน และ เครื่องรางของขลัง ขุนพันธรอัครราชเดช
       เราจะย้อนอดีตกลับไปถึง ประวัติ อันโชกโชนของ ขุนพันธ์ เมื่อประมาณ 70-80 ปีที่แล้ว สู่ยุค “ไอ้เสือ...บุก!!” อีกครั้ง เวลานี้หากเอ่ยชื่อ “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช” นายตำรวจร่างเล็กใจใหญ่ อันมีจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จัก แต่นอกจากชื่อจริงดังกล่าวแล้ว ขุนพันธ์ ยังมีฉายาอันสื่อถึงความกล้าหาญพ่วงท้ายอีกมากมาย
...เราจะย้อนอดีตกลับไปถึง ประวัติ อันโชกโชนของ ขุนพันธ์ เมื่อประมาณ 70-80 ปีที่แล้ว สู่ยุค “ไอ้เสือ...บุก!!” อีกครั้ง เวลานี้หากเอ่ยชื่อ “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช” นายตำรวจร่างเล็กใจใหญ่ อันมีจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จัก แต่นอกจากชื่อจริงดังกล่าวแล้ว ขุนพันธ์ ยังมีฉายาอันสื่อถึงความกล้าหาญพ่วงท้ายอีกมากมาย อาทิ ขุนพันธ์ดาบแดง ขุนพันธ์ดาบคู่ ขุนพันธ์จอมขมังเวท ขุนพันธ์หนังเหนียว วีรบุรุษตำรวจแดนใต้ มือปราบสิบทิศ เป็นต้น ฉายาต่าง ๆ นั้น เกิดขึ้นจากการทำงานด้วยความสำนึกต่อหน้าที่บนพื้นฐานของความทรหดอดทน ไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ที่สำคัญ ความกล้าหาญไม่เกรงกลัวหรือตกอยู่ใต้อิทธิพลนอกกฎหมายทุกรูปแบบ เรียกว่าได้มาเพราะฝีมือและการเสียสละทุ่มเททำงานในหน้าที่อย่างแท้จริง !!


       ในอดีต บรรดาเสือร้าย หรือขุนโจรชื่อดังจะกระจายกันอยู่ทั่วประเทศ รวมตัวกันเป็น “ชุมโจร” จุดประสงค์ไม่มีอะไรมาก ปล้น ปล้น ปล้น แล้วก็ปล้น !!! โจรดังภาคใต้ เช่น เสือสังข์ เสืออะแวสะดอตา และ ส่วนเสือในภาคกลาง เรียกว่า “สี่เสือสุพรรณ” ประกอบด้วย เสือฝ้าย เสือใบ เสือมเหศวร และ เสือดำ เสือร้ายเหล่านี้เคยมีชื่อเสียงในทางปล้นฆ่า มีอิทธิพลจนไม่รู้จะเอาใครไปปราบ ไม่มีตำรวจหน้าไหนหาญกล้าจะต่อกรด้วย เรียกว่าเป็นยุค “โจรครองเมือง” ก็ว่าได้ ขุนพันธ์จึงถูกส่งตัวไปปราบชุมโจรร้ายที่ว่า จนราบคาบ วงการตำรวจและชาวบ้าน ต่างยกย่องชื่นชมขุนพันธ์อย่าง กว้างขวาง


     นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช บุตรชายคนที่ 9 ของ ขุนพันธรักษ์ราชเดช เปิดเผยวีรกรรมที่บิดาเคยเล่าให้ฟังว่า โจรหรือเสือร้ายในสมัยก่อนมีพฤติกรรมปล้นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา เช่น ขุนโจรอะแวสะดอ ตาและ หรือ “เจ้าพ่อเขาบูโด” ทั้งกระสุนปืน คมหอก คมดาบ ที่ตำรวจระดมสาดเข้าใส่ร่างของมัน แต่ทำอะไรมันไม่ได้ พอ กระสุนหมดทั้งคู่ คุณพ่อก็วิ่งไล่จับขุนโจรชื่อก้องได้ด้วยมือเปล่า กระโจนเข้าไปชกต่อยพัลวัน ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็จับเจ้าพ่อเขาบูโดใส่กุญแจมือ ลากคอเข้าคุกได้ และจากการตรวจสอบพบว่ากระสุนที่ยิงใส่ตามลำตัวไม่ถูกมันเลย และที่ยิงบริเวณปาก 9 นัด มันอมกระสุนไว้ในปากโดยไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ ฟันก็ไม่หัก มันคายหัวกระสุนทั้ง 9 เม็ดลงกลางโต๊ะสอบสวน !!?? นับเป็นเรื่องที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้จนทุกวันนี้


     การสยบขุนโจรแห่งขุนเขาบูโดด้วยมือเปล่า โดยไม่รู้ว่าใช้คาถาอาคมอะไร ทำให้ขุนพันธ์ได้รับการยกย่องสรรเสริญจากคนไทยมุสลิม และพวกแขกมลายู (มาเลเซีย) เสียงดังกระหึ่มไปทั่ว จึงตั้งสมญานามให้ขุนพันธ์ ว่า “รายอกะจิ” หมายถึง ราชาร่างเล็ก หรืออัศวินพริกขี้หนู

“คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าการปราบเสือแต่ละคนไม่ง่ายเลย สมัยก่อนต้องใช้เวลาติดตามด้วยความยากลำบาก ไม่สะดวกเหมือนสมัยนี้ เพราะต้องบุกป่าฝ่าดงไล่ล่ากันเป็นเดือนเป็นปี พ่อบอกว่าเสือภาคใต้ปราบยากกว่าเสือภาคกลางเพราะเสือภาคใต้มีวิชา มีของดี ของขลังติดตัว ผิดกับเสือภาคกลางที่อาศัยสมัครพรรคพวกมากเป็นสำคัญ บรรดาชุมโจรหรือขุนโจรที่เกรงกลัวขุนพันธรักษ์ราชเดช เนื่องจากเป็นคนเอาจริงเอาจังกับการปราบปราม ไม่ท้อ จิตใจทรหดอดทน หากมันไม่ตายเราก็ตาย” บุตรชายคนที่ 9 ของขุนพันธ์ กล่าว

ปี พ.ศ.2485 ขุนพันธรักษ์ราชเดช ย้ายไปเป็นผู้กำกับการตำรวจเมืองสุราษฎร์ธานี ก็ดำเนินการปราบ “เสือสาย” ผู้มีอิทธิพลในเมืองสุราษฎร์ฯ มานานกว่า 8 ปี จากนั้นบุกทลายซ่อง “ไม้ไผ่งาช้าง” ของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จนถูกย้ายไปเป็นผู้บังคับกองเมืองพิจิตร พอไปอยู่เมืองพิจิตร ก็ปราบเสือโน้ม อ.พรานกระต่าย และได้รู้จักกับ “หลวงกล้ากลางณรงค์” นายทหารลูกหลานตระกูล “พระยาพิชัยดาบหัก” ที่มารับราชการที่เมืองพิจิตร ขุนพันธ์จึงฝากตัวเป็นบุตรบุญธรรม หลวงกล้ากลางณรงค์ได้มอบดาบคู่เหล็กน้ำพี้ให้กับขุนพันธ์ จนกลายเป็นอาวุธประจำตัว ดังฉายา “ขุนพันธ์ดาบคู่”


     ถัดมาในปี พ.ศ.2489 ขุนพันธ์ย้ายไปเป็นผู้กำกับการตำรวจเมืองชัยนาท ลุยปราบชุมโจรสุพรรณบุรี โดยเฉพาะ “เสือฝ้าย” ถือเป็นก๊กเสือร้ายที่มีอิทธิพลมากที่สุด มีสมุนอยู่ทั่วใน จ.สุพรรณบุรี ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักคือ 4 เสือสุพรรณ ประกอบด้วย เสือฝ้าย เสือใบ เสือมเหศวร และเสือดำ ทางกรมตำรวจจึงคัดเลือกนายตำรวจ เพื่อตั้งเป็น “กองปราบปรามพิเศษ” ต่อสู้กับเสือร้ายภาคกลาง มี พ.ต.อ.สวัสดิ์ กันเขต เป็นผู้อำนวยการ และขุนพันธ์ เป็นรองผู้อำนวยการ จนชุมโจรเมืองสุพรรณถูกปราบปรามอย่างราบคาบ ส่วนเสือฝ้ายตัดสินใจเข้ามอบตัวในที่สุด

    เมืองพัทลุงร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้งในปี พ.ศ.2490 ปัญหาโจรผู้ร้ายชุกชุม คดีปล้นฆ่าผุดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก จึงมีการทำหนังสือขอตัวขุนพันธ์กลับพัทลุง มาต่อกรกับโจรร้ายก๊กใหม่ กระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 8 จ.นครศรีธรรมราช และเกษียณอายุราชการเมื่อปี พ.ศ. 2511
ตลอดชีวิตรับราชการในอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ทำทุกอย่างในคำว่า “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” จะแปลความหมายได้ แม้จะอยู่ในวัยเกษียณ แต่ชื่อยังถูกจารึกไว้ในจิตใจของตำรวจทุกยุคทุกสมัย และเคยได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี พ.ศ.2512 โดยได้รับการบันทึกว่าเป็น ส.ส.ที่มีคะแนนสูงสุดของประเทศในสมัยนั้น !! จวบจนขุนพันธ์ถึงแก่กรรมด้วยโรคชราที่บ้านพักเลขที่ 764/5 ซอยราชเดช ถนนราชดำเนิน ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ด้วยวัย 108 ปี


     ในฐานะที่ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นปูชนียบุคคลที่ได้ประกอบคุณงามความดีต่อประเทศชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไว้เป็นอย่างมาก สมควรที่จะได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลของแผ่นดิน นอกจาก พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช จะได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบของตำรวจน้ำดีแล้ว ท่านยังเป็นต้นแบบของผู้ที่ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม จารีตประเพณี กฎกติกาของบ้านเมือง ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้จัดสร้าง อนุสาวรีย์ ของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ ราชเดช ประดิษฐานไว้ ณ บริเวณหน้าที่ทำการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นที่เคารพสักการบูชาของตำรวจและประชาชนทั่วไป ที่สำคัญเพื่อกระตุ้นเตือนจิตสำนึกของผู้ที่เป็น “ตำรวจ” ให้ประพฤติปฏิบัติตนอย่างสมศักดิ์ศรีของการเป็น “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อย่างแท้จริง.



   
     
   
     
   
     
   
     
   
     
   
     
   
     







        Video Clip


ขุนพันธ์รักราชเดช
  ทั้งหมด -»»


        เรื่องอื่นๆ ในหมวด

น้ำหวาน ดาวดึงส์ สุดปลื้มเพลงฮิตติดกะแส ขึ้นแท่นไอดอล เก้ง-กวาง โดนใจแฟนเพลงทุกเพศ

รายการ หัวใจนักสู้ คว้ารางวัลโทรทัศน์ทองคำรายการส่งเสริมกีฬาดีเด่น
รายการ “หัวใจนักสู้” คว้ารางวัลโทรทัศน์ทองคำรายการส่งเสริมกีฬาดีเด่น..
สืบสานตำนานพ่อเจ้าทิพย์ช้าง วีรบุรุษแห่งเขลางค์นคร
สืบสานตำนานพ่อเจ้าทิพย์ช้าง ..
หนุ่มสมิหลา 2017 Mister Samila 2017
หนุ่มสมิหลา 2017 Mister Samila 2017..
สนุก มหัศจรรย์ ที่พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์ เปิดรับสมัครเยาวชนคนรักทำหนัง
สนุก มหัศจรรย์ ที่พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์ เปิดรับสมัครเยาวชนคนรักทำหนัง..
  ทั้งหมด -»»









 


แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.

©2013 carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com

789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999