ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Home Car Show Super Car & Import Car Off Road Car Stereo Eenergy Business Wheel & Tires Classifieds Webboard
Sport World Home & Condo Motor Cycle Cycle Bike Review & TestDrive Classic Car Motor Sport Pretty Show Sexy Lady Society News





ขับรถขึ้น-ลงเขาจะต้องใช้เทคนิคการขับอย่างไร
หน้าแรก » Motor Technic » ขับรถขึ้น-ลงเขาจะต้องใช้เทคนิคการขับอย่างไร...

4-มีนาคม  |   408





ช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ ใครที่ไม่อยากเล่นน้ำสงกรานต์ อยากหนีร้อนไปเที่ยวเขา ขึ้นดอย มาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนขับรถขึ้นเขา ขึ้นดอย กันดีกว่า ...

เมื่อมีความคิดอยากไปเที่ยวป่าหรือขึ้น ดอย อยากจะแนะนำเทคนิคการขับรถขึ้น-ลงเขาสำหรับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติอย่างไรให้ ปลอดภัย การขับรถขึ้นเขาโดยใช้เกียร์อัตโนมัติในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยควรใช้ความเร็ว ต่ำ เมื่อเจอทางชันมากให้เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์จาก D เป็น D3 (มีในบางรุ่น) และเมื่อทางชันมากขึ้น ให้ผู้ขับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ 2 ตามความสัมพันธ์ของรอบเครื่องยนต์และความเร็วควรสังเกตุว่าถ้าหากเกียร์ เปลี่ยนบ่อยครั้งในการขึ้นทางชันแสดงว่าทางชันมากหรือใช้ความเร็วมากเกินไป ควรรักษารอบเครื่องยนต์ให้คงที่

อย่างไรก็ดี ทางแก้ไขคือใช้ความเร็วต่ำและใช้เกียร์ 2 แต่ไม่ควรใช้รอบเครื่องยนต์สูงเกินไปเพราะจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและ สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ในการเลี้ยวเข้าโค้งนั้นไม่ควรทับเลนฝั่งตรงข้าม อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จึงควรปฏิบัติตามป้ายเตือนที่แสดงไว้ข้างทางอย่างเคร่งครัเพื่อความปลอดภัย

ส่วน การขับรถลงเขานั้นก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการขับขึ้นเขาซึ่งสิ่งที่ สังเกตเห็นได้จากข้างทางคือป้ายเตือนว่าไม่ควรใช้ความเร็วสูง การขับรถลงเขาที่มีความชันความัชันมากกว่าปกตินั้นผู้ขับต้องใช้ความเร็วต่ำ เปลี่ยนเกียร์จาก D มาเป็น  2 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และรอบเครื่องยนต์อาจจะสูงเป็นการใช้แรงฉุดของเครื่องยนต์เพื่อ ช่วยในการเบรกด้วยไม่ควรเหียบเบรกค้างไว้เป้นเวลานานๆ เพราะความร้อนจากหน้าสัมผัสระหว่างผ้าเบรกและจานเบรกจะทำให้ผ้าเบรกไหม้ เบรกไม่อยู่ และน้ำมันเบรกมีความสะสมมากเกินไปซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการเบรกต่ำลง  สำหรับการขับแซงรถคันหน้านั้ต้องแน่ใจว่าด้านหน้าของคันที่จะแซงว่างๆจริงๆ และไม่ใช่ทางโค้ง เพราะความเร็วกับแรงโน้มถ่วงจะทำให้ใช้กำลังในการเบรกมากกว่าปกติ อาจจะเบรกไม่อยู่อย่างที่ผู้ขับตั้งใจไว้

อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญนอกเหนือเทคนิคการขับขี่ คือการผักผ่อนอย่างเพียงพอการที่ร่างกายอ่อนเพลียจะเป็นอันตรายต่อตนเองและ ผู้ใช้รถใช้ถนนคันอื่นๆ และหากต้อวขับรถทางไกลผู้ขับควรพักทุก 2 ชั่วโมงหรือประมาณ 200 กิโลเมตรหรือเมื่อรู้ตัวว่าง่วง ก็ควรปฏิบัติตนตามสโกแสนที่ว่า "ง่วงไม่ขับ"จะดีที่สุด

 

ขอบคุณบทความดีๆจากหนังสือ Honda Automobile












        Video Clip


เส้นทางสู่ อ.ปาย
  ทั้งหมด -»»


        เรื่องอื่นๆ ในหมวด

เทคนิคการใช้เกียร์ออโต้เมติค

วิธีดูแลรถเบื้องต้นแบบง่ายๆ
รถใครใครก็รักจริงไหมคะ ถึงแม้ว่าทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เราต้องนำรถไปตรวจสภาพก็ตาม แต่บางครั้งมันก็มิวายเกิดปัญหาจุกจิกระหว่างที่เราใช้..
“ใบปัดน้ำฝน“ เรื่องสำคัญที่ห้ามมองข้าม
ช่วงนี้หลายคนที่อยู่ในเขตกรุงเทพ คงจะหวั่นใจไม่น้อยหลังจากที่ฟ้าฝนเทกระหน่ำลงมา..
วิธีขับรถขณะฝนตกอย่างปลอดภัย
ฤดูฝนเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติ เนื่องจากถนนเปียกลื่นกว่าปกติ..
เผื่อไว้ฉุกเฉิน !! อุปกรณ์รถยนต์ที่ต้องมีติดรถ
ปัจจุบัน รถยนต์กลายเป็นสิ่งหนึ่งที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน และหลายๆ คนน่าจะได้เป็นเจ้าของมากขึ้นเรื่อยๆ..
  ทั้งหมด -»»









 


แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.

©2013 carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com

789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999