ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Home Car Show Super Car & Import Car Off Road Car Stereo Eenergy Business Wheel & Tires Classifieds Webboard
Sport World Home & Condo Motor Cycle Cycle Bike Review & TestDrive Classic Car Motor Sport Pretty Show Sexy Lady Society News





สภาผู้ส่งออกร่วมมือธนาคารแห่งประเทศไทยช่วยเหลือผู้ส่งออกฝ่าวิกฤติค่าเงินบาทแข็งค่า
หน้าแรก » Lifestyle Society News » สภาผู้ส่งออกร่วมมือธนาคารแห่งประเทศไทยช่วยเหลือผู้ส่งออกฝ่าว...

14-มกราคม  |   187





สภาผู้ส่งออกร่วมมือธนาคารแห่งประเทศไทยช่วยเหลือผู้ส่งออกฝ่าวิกฤติค่าเงินบาทแข็งค่า

     นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ แห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก
 ร่วมกับคุณวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธาน สรท. คุณมานะผล ภู่สมบุญ รองประธาน สรท.ดร.ชัยชาญ เจริญสุข เลขาธิการ สรท. และคุณคงฤทธิ์ จันทริกผู้อานวยการบริหาร สรท. ได้เข้าพบเพื่อมอบหนังสือข้อเสนอแนะ การแก้ไขปัญหาความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนต่อภาคการส่งออกของไทย และหารือกับ ดร.วีรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย และคณะฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2561 ณ ห้องิวิวัฒน์ชัย ธนาคารแห่งประเทศไทย

โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ชี้แจงเหตุผลซึ่งทาให้ค่าเงินบาทต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเป็นอย่างมากว่าเกิดจากการ
อ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จากปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจภายในสหรัฐอเมริกาเอง แต่ทิศทางของ
ค่าเงินบาทซึ่งแข็งค่าขึ้น 11.4% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นปี 2560 ถึงปัจจุบัน เป็นไปในทิศทางเดียวกับ
สกุลเงินอื่น อาทิ เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 12.7% เงินโคเรียนวอนแข็งค่าขึ้น 12.7% เงินมาเลเซียนริงกิตแข็งค่าขึ้น 12.1% เงิน
ปอนด์สเตอริงแข็งค่าขึ้น 9.6% เงินดอลลาร์ไต้หวันแข็งค่าขึ้น 9.0% เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 8.4% และเงิน
ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าขึ้น 8.2% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเวลาเดียวกัน และอีกประการหนึ่งเกิดจากดุล
บัญชีเดินสะพัดของไทยที่เกินดุลอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2559 เกินดุลเท่ากับ 48,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และปี 2560 คาด
ว่าเกินดุล 48,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของไทยและเป็นแรงกดดันให้เงิน
บาทแข็งค่าขึ้น

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยและสภาผู้ส่งออก เห็นพ้องให้ร่วมมือกันพัฒนาผู้ส่งออกไทยให้มีความเข้าใจถึงความเสี่ยง
การประเมินความเสี่ยง และการเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อลดผลกระทบ
จากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เช่น การกาหนดการซื้ออัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า (Fx Forward) และการซื้อสิทธิ
ในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า (Fx Option) ของธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น โดย จะร่วมมือกันจัดอบรมให้ความรู้
แก่ผู้ประกอบการในภาคการส่งออกของไทย รวมถึงการแนะนาโครงการบริหารความเสี่ยง FX ของผู้ประกอบการ SMEs
ภายใต้ความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการในภาคการ
ส่งออกได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ในการบริหารความเสี่ยงค่าเงิน โดยผู้เข้าร่วมจะได้รับสิทธิในการได้รับวงเงิน
ค่าธรรมเนียมในการทาประกันความเสี่ยง 30,000 บาท (เทียบเท่ามูลค่าการนาเข้า/ส่งออก ประมาณ 3 ล้านบาท)

นอกจากนี้ สภาผู้ส่งออก จะผลักดันให้สมาชิกเลือก Invoicing แบบ Direct Exchange Rate และ Direct Forward โดย
ใช้สกุลเงินของคู่ค้า โดยไม่ต้องอ้างอิงเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะเงินสกุลที่แข็งค่าใกล้เคียงกับเงินบาท อาทิ อาทิ ยูโร
ปอนด์สเตอริง โคเรียนวอน เป็นต้น และใช้วิธีการทา Direct Quote ในสกุลเงินซึ่ง ธปท. มีการทาข้อตกลงให้ดาเนินการ
ร่วมกัน อาทิ หยวน มาเลเซียนริงกิต อินโดนีเซียนรูเปียะห์ โดยที่สามารถแปลงค่าเงินเป็นเงินบาทได้ทันที ไม่ต้องแปลง
เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อน และอยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติมในสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น รวมถึงให้เลือกใช้เงินสกุลท้องถิ่น
สาหรับการค้ากับชาติสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะทาให้สามารถลดต้นทุนและความเสี่ยงจาก
จากการแลกเปลี่ยนผ่านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน ทั้งสององค์กรเห็นร่วมกันว่าภาคเอกชนควรใช้โอกาสในขณะที่เงินบาทแข็งค่า เร่งการลงทุนในปัจจัยทุน
พื้นฐานของธุรกิจ เช่น การนาเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิต เพื่อลดต้นทุน รวมถึงเพิ่มมูลค่าของ
สินค้า ซึ่งจะทาให้ผู้ประกอบการภายในประเทศมีความสามารถในการแข่งขันทางการค้าเพิ่มขึ้น และสามารถรับมือกับการ
ผันผวนของค่าเงินบาทได้ในระยะยาว.










        เรื่องอื่นๆ ในหมวด

ประกาศ ยกเลิกการจัดงาน “บางกอก ยูสคาร์โชว์ ปี 2020

ไปเชียงใหม่ต้องการรถเช่าทำงาน เที่ยว อย่าลืม..
ไปเชียงใหม่ต้องการรถเช่าทำงาน เที่ยว อย่าลืม....
ลัมโบร์กินีร่วมแก้วิกฤตของไวรัสโคโรนา ผลิตหน้ากากอนามัยและเฟซชิลด์เพื่อเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์
ลัมโบร์กินีร่วมแก้วิกฤตของไวรัสโคโรนา ผลิตหน้ากากอนามัยและเฟซชิลด์เพื่อเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ..
scglogistics
“เอสซีจี” เผยแนวทางชูเทคโนโลยีดิจิทัลเสริมแกร่ง “ธุรกิจโลจิสติกส์”..
GM Power Train HERO 500K
จีเอ็ม พาวเวอร์เทรน ประเทศไทย เฉลิมฉลองความสำเร็จ ในการผลิตเครื่องยนต์ครบ 500,000 เครื่องยนต์..
  ทั้งหมด -»»









 


แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.

©2013 carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com

789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999