ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Home Car Show Super Car & Import Car Off Road Car Stereo Eenergy Business Wheel & Tires Classifieds Webboard
Sport World Home & Condo Motor Cycle Cycle Bike Review & TestDrive Classic Car Motor Sport Pretty Show Sexy Lady Society News





10 สัญญาณเตือนภัยของรถคุณ
หน้าแรก » Motor Technic » 10 สัญญาณเตือนภัยของรถคุณ...

21-กุมภาพันธ์  |   258





    คนใช้รถทุกวันนี้ บางคนอาจจะแค่ขับไปทำงานแล้วกลับบ้าน บางคนก็ขับไปไกลๆ
    ถึงต่างจังหวัด มีหลายคนที่ขับอย่างเดียว โดยที่ไม่สนใจหรือเอาใจใส่รถของตัวเอง
    ว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรบ้าง ทั้งที่รถทุกคันควรได้รับการดูแลและตรวจเช็คก่อนออก
    เดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต
      "ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง" จึงแนะนำวิธีตรวจเช็ครถของคุณเบื้องต้น กับ 10 สัญญาณ เตือนที่จะบ่งบอกได้ว่ารถของคุณนั้นอาการน่าเป็นห่วง

    1. สัญญาณเตือน

       เราสามารถรับสัญญาณบอกอาการผิดปกติของรถได้ โดยใช้ประสาททั้ง 5 คือ การเห็น การฟังเสียง การได้กลิ่น การจับต้องชิ้นส่วนนั้น ๆ และการลองขับดู ถ้าสังเกตพบสิ่งผิดปกติต่อไปนี้ ให้รีบทำการตรวจเช็คและซ่อมแซมโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดความเสียหายต่อไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ มากขึ้นกว่าเดิม

    2. เครื่องยนต์

       เครื่องยนต์คือหัวใจของรถ ถ้าเครื่องยนต์มีอาการดังนี้
       - เครื่องร้อนจัดเกินไป ขับไปได้ไม่เท่าไร ความร้อนก็ขึ้นสูงเสียแล้ว
       - เครื่องเย็นเกินไป แม้จะขับมาระยะทางไกลพอสมควรแล้ว เข็มวัดอุณหภูมิยังไม่กระดิก
       - มีเสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนต์
       ควรนำเข้าตรวจสภาพที่ศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ

    3. ยาง

       การสึกหรอของดอกยางแบบต่าง ๆ บอกเราได้ว่ายางผิดปกติไปอย่างไร
       - ดอกยางตรงกลางล้อ สึกหรอมากกว่าขอบ แสดงว่าเติมลมแข็งเกินไป
       - ดอกยางขอบล้อ สึกหรอมากกว่าตรงกลาง แสดงว่าเติมลมอ่อนเกินไป
       - ดอกยางสึกหรอข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่ามุมแนวตั้งของยางไม่ตรง
       - ดอกยางเป็นบั้ง ๆ แสดงว่าแนวของยางไม่ขนานกับแนวเคลื่อนที่ของรถ
       นำรถเข้าอู่เพื่อตั้งศูนย์ล้อ หรือปรับแรงดันลมยางใหม่

    4. คลัตซ์

       คลัตซ์ที่มีปัญหา จะทำให้ควบคุมเกียร์ไม่ได้ อย่าละเลยอาการเหล่านี้
       - คลัตซ์ลื่น หรือเข้าคลัตซ์ไม่สนิท หรือเหยียบแป้นคลัตซ์แล้ว แต่ยังเข้าเกียร์ได้ยาก
       - คลัตซ์มีเสียงดัง เมื่อเหยียบแป้นคลัตซ์
       - แป้นคลัตซ์สั่นขึ้น ๆ ลง ๆ ขณะกำลังขับ
       ควรนำรถเข้าอู่ซ่อมช่วงล่าง หรือศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ

    5. เกียร์

       เกียร์จะทำหน้าที่เปลี่ยนแรงบิดของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับความเร็ว
       สัญญาณบอกเหตุว่าเกียร์มีปัญหาคือ
       - มีเสียงดังทั้งในขณะอยู่ที่เกียร์ว่าง หรือเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่งอยู่
       - เปลี่ยนเกียร์ยาก มีอาการติดขัด หรือต้องขยับอยู่นาน
       - มีเสียงดังขณะเข้าเกียร์ ทั้ง ๆ ที่เหยียบคลัตซ์แล้ว
       - ห้องเกียร์มีน้ำมันหล่อลื่นไหลออกมา
       ควรนำรถเข้าอู่ตรวจสอบห้องเกียร์

   
   

    6. พวงมาลัย
       พวงมาลัยที่มีปัญหาเหล่านี้ จะทำให้อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ยางเฟืองท้ายชำรุดตามไปด้วย
       - พวงมาลัยหนัก หรือต้องใช้แรงมากผิดปกติในการบังคับเลี้ยว
       - พวงมาลัยหลวมเกินไป โดยมีระยะฟรีเกิน 1 นิ้ว
       - พวงมาลัยสั่นในขณะขับ
       ควรนำเข้าศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ
    7. เบรก
       ถ้าพบว่าเบรกมีอาการผิดปกติ ต้องรีบแก้ไขทันที เพราะเบรกชำรุดนำมาซึ่งอุบัติภัยได้ง่ายที่สุด
       ยางเฟืองท้ายชำรุดตามไปด้วย
       - เบรกลื่น หยุดรถไม่อยู่ แม้จะไม่ได้ลุยน้ำ
       - เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง
       - แป้นเบรกยังจมลึกลงไปทั้ง ๆ ที่ถอนเท้าออกมาแล้ว
       ควรนำรถเข้าอู่ซ่อมเบรกทันที

    8. ไฟชาร์จ

       ไฟชาร์จ ควรจะปรากฏขึ้นที่แผงหน้าปัดทุกครั้งที่เราสตาร์ทเครื่อง และเมื่อสตาร์ทติดแล้ว ครู่หนึ่งก็จะดับลง แต่ถ้าไฟชาร์จไม่สว่าง หรือสว่างแล้วไม่ยอมดับ อาจเกิดจากไดชาร์จผิดปกติหรือสาเหตุอื่น ๆ ก็ได้ ที่แน่ ๆ คือไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ รีบนำรถเข้าอู่ไดชาร์จหรือระบบไฟ

    9. หลอดไฟ

       หลอดไฟขาดบ่อย ๆ หรือต้องเติมน้ำกลั่นในหม้อแบตเตอรี่บ่อยเกินไป แสดงว่าอุปกรณ์ที่เราเรียกว่า "เรกูเลเตอร์" ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกระแสไฟให้เหมาะสมชำรุด  ควรนำรถเข้าอู่ระบบไฟ เพื่อซ่อมเรกูเลเตอร์ หรือหากชำรุดก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่

    10. น้ำมันหล่อลื่น

       ถ้าสัญญาณไฟเตือนระบบน้ำมันหล่อลื่นสว่างขึ้นในขณะขับขี่รถยนต์ หมายถึงว่า เครื่องยนต์กำลังทำงาน โดยปราศจากน้ำมันหล่อลื่น รีบนำรถไปยังอู่ที่ใกล้ที่สุดทันที

    ถ้าอู่อยู่ไกล ให้เติมน้ำมันเครื่องใส่ลงในถังน้ำมันหล่อลื่นไปก่อนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ถ้าเป็นสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่น้ำมันหล่อลื่นแห้ง ควรใช้รถลากไปอู่ซ่อม










        เรื่องอื่นๆ ในหมวด

เทคนิคการใช้เกียร์ออโต้เมติค

วิธีดูแลรถเบื้องต้นแบบง่ายๆ
รถใครใครก็รักจริงไหมคะ ถึงแม้ว่าทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เราต้องนำรถไปตรวจสภาพก็ตาม แต่บางครั้งมันก็มิวายเกิดปัญหาจุกจิกระหว่างที่เราใช้..
“ใบปัดน้ำฝน“ เรื่องสำคัญที่ห้ามมองข้าม
ช่วงนี้หลายคนที่อยู่ในเขตกรุงเทพ คงจะหวั่นใจไม่น้อยหลังจากที่ฟ้าฝนเทกระหน่ำลงมา..
วิธีขับรถขณะฝนตกอย่างปลอดภัย
ฤดูฝนเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติ เนื่องจากถนนเปียกลื่นกว่าปกติ..
เผื่อไว้ฉุกเฉิน !! อุปกรณ์รถยนต์ที่ต้องมีติดรถ
ปัจจุบัน รถยนต์กลายเป็นสิ่งหนึ่งที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน และหลายๆ คนน่าจะได้เป็นเจ้าของมากขึ้นเรื่อยๆ..
  ทั้งหมด -»»









 


แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.

©2013 carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com

789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999