|
|
สยามอินเตอร์เนชั่นแนล จับมือนักธุรกิจสปป.ลาว
ก่อตั้ง “บริษัท บีเอ็ม กรุ๊ป” ทุ่มงบกว่า 3,500 ล้านบาท เปิดศูนย์การค้า “LAO DUTY FREE MALL” ศูนย์กลางช็อปปิ้งปลอดภาษีระดับไฮเอนด์ รองรับ AEC (กรุงเทพฯ : 15 กรกฎาคม 2558) - กลุ่มทุนไทย “สยามอินเตอร์เนชั่นแนล” เดินหน้ารับ AEC จับมือนักธุรกิจจากสาธารณรัประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ก่อตั้ง “บริษัท บีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด” (BM Group) ทุ่มงบกว่า 3,500 ล้านบาท ปักธงธุรกิจค้าปลีกปลอดภาษีในสปป.ลาว สร้างศูนย์การค้า “LAO DUTY FREE MALL” (LDF) ศูนย์กลางการค้ารูปแบบปลอดภาษี บนพื้นที่กว่า 37,000 ตารางเมตร หวังปั้นเป็นแหล่งช็อปปิ้งระดับไฮเอนด์ รองรับ AEC และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใต้คอนเซปต์ศูนย์กลางการค้าใหม่ของอาเซียน ที่รวบรวมแบรนด์ดังและบริการแบบครบวงจร ตั้งเป้ารายได้ปีละกว่า 3,500 ล้านบาท คาดคุ้มทุนภายใน 5 ปี ![]() ผู้ถือหุ้น บริษัท บีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนในกลุ่มประเทศ AEC มาแล้ว ตั้งแต่ปี 1996 และนับเป็นนักลงทุนกลุ่มแรกๆ ที่ได้เข้าไปบุกเบิกการลงทุนในประเทศลาว ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 ปี ได้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจด้านต่างๆ ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากแผนกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะการเปิดเขตเศรษฐกิจเฉพาะ (Specific Economic Zone) ที่มีนโยบายให้ ผู้ลงทุนในเขตเศรษฐกิจเฉพาะ ได้รับสิทธิประโยชน์หลายประการ และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ![]() เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน รวมถึงการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว ทำให้บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการลงทุนด้านธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะในรูปแบบของการเป็นศูนย์กลางการค้ารูปแบบปลอดภาษี จึงร่วมกับบริษัท บีเอ็มเอ็ม กรุ๊ป (BMM Group) ก่อตั้ง บริษัท บีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด ใช้งบประมาณกว่า 3,500 ล้านบาท พัฒนาพื้นที่กว่า 200 ไร่ ในเขตเศรษฐกิจเฉพาะสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (จังหวัดหนองคาย) ให้เป็นศูนย์การค้า LAO DUTY FREE MALL ศูนย์กลางการค้ารูปแบบปลอดภาษี บนพื้นที่กว่า 37,000 ตารางเมตร ที่พร้อมจะเป็นแหล่งช็อปปิ้งระดับไฮเอนด์ รองรับ AEC และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใต้ คอนเซปต์ ศูนย์กลางการค้าใหม่ของอาเซียน ที่รวบรวมแบรนด์ดังและบริการแบบครบวงจร” ![]() นายสยาม รามสูต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หนึ่งใน “สาเหตุที่บริษัทฯ เลือกลงทุนในเขตเศรษฐกิจเฉพาะ เพราะมีข้อได้เปรียบที่อยู่ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (จังหวัดหนองคาย) ซึ่งมีมูลค่าตลาดการค้าชายแดนมากกว่าปีละ 100,000 ล้านบาท และยังใกล้จุดเชื่อมต่อของรถไฟความเร็วสูง ส่งผลให้นักลงทุนได้รับความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้นักลงทุนยังได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีต่าง ๆ อาทิ ชาวต่างชาติสามารถเปิดธุรกิจในเขตเศรษฐกิจเฉพาะสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 (จังหวัดหนองคาย) โดยมีผู้ถือหุ้นเป็นชาวต่างชาติได้เต็มที่ 100 % อีกทั้งการอำนวยความสะดวกด้านการจัดบริการจดทะเบียนการค้า, การขออนุญาตทำธุรกิจ ฯลฯ ![]() แบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว หรือ One Stop Service รวมถึงภาคการค้าได้รับการยกเว้นภาษีการค้า ภาษีการนำเข้าสินค้า และการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อนำเงินเข้า-ออก และด้วยศักยภาพของโครงการ LAO DUTY FREE MALL ทั้งด้านทำเลที่ตั้ง ที่เป็นเขตเศรษฐกิจเฉพาะ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ นักธุรกิจ สามารถขยายกิจการไปสู่กลุ่มประเทศ AEC ได้ง่าย ช่วยเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาส ในการเริ่มต้นทำธุรกิจในต่างประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่าง ๆ ที่สนับสนุนด้านการลงทุนและการท่องเที่ยว คาดว่าศูนย์การค้าปลอดภาษีแห่งนี้ จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาซื้อสินค้าและรับบริการด้านต่างๆ ปีละกว่า 4 ล้านคน และสามารถสร้างรายได้กว่า 3,500 ล้านบาทต่อปี และจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 5 ปี โดยในขณะนี้ก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า ![]() นายพิสิฐ บัญญาดิษฐ์ ประธาน บริษัท บีเอ็มเอ็ม กรุ๊ป (BMM Group) ผู้คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจของสปป.ลาว หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท บีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด และโครงการ LAO DUTY FREE MALL กล่าวว่า “การร่วมทุนในครั้งนี้กับกลุ่มทุนไทย จึงถือเป็นการนำเอาศักยภาพด้านการค้าระหว่างประเทศที่สยามอินเตอร์เนชั่นแนล ทำธุรกิจมาแล้วทั่วทุกภูมิภาค AEC มาผนวกร่วมกับความเชี่ยวชาญ ในการทำธุรกิจค้าปลีกปลอดภาษีของเรา ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นในกับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี” นายสมคิด ตันทัดวาณิชย์กุล ผู้ก่อตั้ง บริษัท ธิงค์เวิร์ค จำกัด ผู้บริหารงานขายโครงการ LAO DUTY FREE MALL กล่าวว่า “โครงการมีพื้นที่ขายกว่า 20,000 ตารางเมตร มุ่งมั่นสู่การเป็น The New Shopping Capital of ASEAN ท ภายในโครงการจัดสรรให้มีพื้นที่ร้านค้า และบริการกว่า 200 ร้านค้า เฉลี่ยพื้นที่ร้านค้าประมาณ 20-200 ![]() ตารางเมตรต่อร้าน สำหรับกลุ่มสินค้า Fashion & Accessories และ Luxury Brand ร้านอาหารและคาเฟ่ ร้านสินค้าไลฟ์สไตล์ บริการด้านสุขภาพและความงาม สินค้า Packaged Food และของที่ระลึกที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ รวมไปถึงซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยมีสิ่งอำนวย ความสะดวกอย่างครบครัน อาทิ ลาดจอดรถขนาดใหญ่สำหรับรถบัสนักท่องเที่ยว และพื้นที่จอดรถยนต์ส่วนบุคคลกว่า 300 คัน ระบบรักษาความปลอดภัย และบริการต่างๆ รองรับกำลังซื้อมหาศาลจากลูกค้า และนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ทั้งจากสปป.ลาว คนไทย ชาวจีน เวียดนาม และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้วางแผนงานทางการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้แก่นักท่องเที่ยวผ่านช่องทางต่าง ๆ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ![]() E-mail : carshowsociety@gmail.com : ceosociety@gmail.com Tel : 084-659-4999 : 099-973-9969 ทีมงาน carshowsocirty ได้ประชาสัมพันธ์ข่าวให้แล้วนะค่ะ และช่วยกดไลร์ให้หน่อยนะค่ะ เพื่อเป็นกำลังใจแก่ทีมงานค่ะ ( Thank you ) |
| เรื่องอื่นๆ ในหมวด |
![]() |
ซีคอนโฮม เปิดบ้านตัวอย่าง ชูบ้านคุณภาพ และความหลากหลาย ตอบโจทย์ ความต้องการของทุกไลฟ์สไตล์ .. |
![]() |
เปิดหลักสูตร The NEXT Real รุ่นที่ 7 และ 8 ชวนนักอสังหาฯ เข้าคอร์สรับประสบการณ์กูรูมือเก๋า ฝ่าสถานการณ์ปี 62.. |
![]() |
อนันดาฯ จับมือ SCB ปล่อยหมัดเด็ด จัดแคมเปญ “ANANDA KNOCKOUT DEALS!”.. |
![]() |
“AIRES” เปิดตัวยิ่งใหญ่ บน 3 ทำเลศักยภาพ.. |
| ทั้งหมด -»» |
|
|
แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome 1440*900 resolutions. ©2013 carshowsociety.com Web Creative Design by Qisza.com |
789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 มือถือ : 08-4659-4999 |