20-กุมภาพันธ์  |   4206

ช่วงปลายทศวรรษที่ 50 รถยนต์ขนาดเล็กรูปร่างกะทัดรัดฉายา “รถตู้เย็น” หรือชื่ออย่างเป็นทางการ BMW 600 คือ คู่แข่งของเจ้าเต่าโฟล์กสวาเกน ในกลุ่มรถยนต์ 4 ที่นั่ง ซึ่งได้รับความนิยมในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก เพราะประหยัดพื้นที่สำหรับการจอดและมีความคล่องตัวในการใช้งาน        หลังจากได้รับคำติชมเกี่ยวกับจำนวนที่นั่งของโมเดลรถยนต์ตระกูล isetta สายรหัส 300 ว่ามีไม่เพียงพอสำหรับการบรรทุกผู้โดยสารจากเดิม 2 ที่นั่ง จึงมาสู่การพัฒนาของบีเอ็มดับเบิลยูในโฉม 4 ที่นั่ง ภายใต้ชื่อรุ่นที่ตัดคำว่า isetta ทิ้งไป เหลือเพียง BMW 600 และได้เพิ่มประตูทางเข้า-ออกอีกหนึ่งแห่งด้านข้างฝั่งขวา (ฝั่งซ้ายไม่มีประตู) โดยที่ไม่ลืมประตูด้านหน้าเพื่อคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของรถตู้เย็นเช่นเดิม                ทางด้านข้อมูลเทคนิคเจ้าตู้เย็น 4 ที่นั่ง ใช้เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขนาด 582 ซีซี 2 สูบวางนอน เร่งพลังได้สูงสุด 19.5 แรงม้า ระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา 4 สปีด เปลี่ยนตำแหน่งจากจากเดิมต้องใช้มือซ้ายโยกคันเกียร์ แต่มาโฉมนี้ต้องใช้มือขวาเท่านั้น(หากใช้มือซ้ายคงพิลึกน่าดู) ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติการขับขี่ของรถยนต์สายพันธุ์นี้โดยสิ้นเชิง ขณะที่รูปทรงโดยรวมหรือมิติตัวรถมีระยะฐานล้อ 1,700 มม. ความยาว 2,900 มม. กว้าง 1,400 และสูง 1,375 ส่วนน้ำหนักชั่งโดยไม่รวมของเหลวภายในอยู่ที่ 515 กก.        สำหรับที่มาของการออกแบบโดยมีประตูเปิด-ปิดที่ด้านหน้าตัวรถ มาจากหัวหน้าแผนกโปรดักต์ดีไซน์เคยทำงานที่บริษัทผลิตตู้เย็น รวมถึงงบประมาณในการผลิตที่มีจำกัด ส่งผลให้โปรเจกต์ดังกล่าวมีรูปร่างหน้าตาออกมาตามที่เห็น ส่วนทางด้านสายการผลิตมีระยะเวลาค่อนข้างสั้น เพียงแค่ปี 1957-1959 โดยเผยโฉมออกมาเพียง 34,813 คัน ซึ่งตัวเลขนี้ไม่ได้จงใจให้เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่น เพียงแต่ช่วงที่ผลิตออกมา ผู้บริโภคในตลาดกำลังนิยมรถเต่า โฟล์กสวาเกน โดยมีจุดเด่นที่ลักษณะตัวรถโค้งมนสวยงาม อีกทั้งมีราคาค่าตัวที่ต่ำกว่าด้วย                อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเผยโฉมของ BMW 600 จะต้องยกธงขาวยุติการผลิตก่อนเวลาอันควร แต่บีเอ็มดับเบิลยูใช่ว่าจะล้มเลิกความตั้งใจในการพัฒนาต่อไป เพราะได้แก้เกมด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบรถยนต์ 4 ที่นั่ง ภายใต้ชื่อรุ่น BMW 700 ขึ้นมาแทนในปี1959