CIVIC SYTLE FERIO
บล็อกนอกตัวแรง B16A
เป็นอีกกลุ่มที่รวมตัวกันสำหรับคนที่ชอบเล่นซีวิค สี่ประตู ในนามของ FERIO CLUB ซึ่งเวลานี้สมาชิกอยู่ไม่น้อย โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นรถที่แต่งเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ผ่านการปรับแต่งทั้งภายนอกและภายใน พร้อมกันนั้นก็มักจะวางเครื่องของซีวิคตัวนอก ที่ดูแล้วไม่เสียรถ เพราะไม่ต้องดัดแปลงที่สำคัญเป็นการเพิ่มสมรรถนะให้กับรถรุ่นได้แรงขึ้นอย่างทันใจ
และหากใครที่มีซีวิค 4 ประตูก็สามารถเข้ามาร่วมแจมกับทางกลุ่มนี้ได้ เพราะทุกคนเปิดกว้างที่จะให้ข้อมูล โดยเฉพาะในเรื่องการปรับแต่ง และนี่ก็อีกคันที่พอเป็นตัวอย่างให้ได้ ซึ่งเป็นของ คุณไพศาล เอี่ยมบำรุง หรือ “ศาล” ที่มาในสไตล์ซีวิคตัวนอก โดยจะมีสเกิร์ตหน้า-สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลัง พร้อมกับภายในที่แทบจะไม่หลงเหลือของเดิมอยู่เลย และในส่วนของเครื่องยนต์ได้ไปยืมความแรงมาจากบล็อกตระกูลเดียวกันในรหัส B16A แบบวีเทค ที่สามารถตอบสนองได้เต็มที่
เสริมลิ้นหน้าลงล้อนอกติดซันรูฟ
กระจกรอบคันสีชาจากซีวิคนอก
การปรับแต่งโฉมให้กับซีวิค โฉมเตารีดนั้น ส่วนใหญ่ไม่เน้นหวือหวามากนัก ไม่ว่าจะเป็นที่กันชนหน้าที่ได้เสริมลิ้นหน้าของ MUGEN พร้อมกันนั้นได้ฝังไฟสปอร์ตไลท์กลมพร้อมกับเบ้า ในขณะที่ไฟหน้าก็สลับเปลี่ยนจากโคมแก้วมาเป็นพลาสติคแทน ซึ่งมีขนาดเท่ากับของเดิมแต่ให้ความสว่างกว่า และถ้าไปมองที่ล้อแม็กขาวของ MUGEN รุ่น RNR แบบ 5 ก้าน โค้ง ขนาดขอบ 15 นิ้ว กว้าง 6.5 นิ้ว รัดด้วยยางคุณภาพ YOKOHAMA รุ่น S- DRIVE ขนาด 195/50/15 พร้อมกับน็อตล้อดำแบบยาว
ถัดมาที่ขอบประตูได้แปะติดเวทเธอร์การ์ดของแต่งเฉพาะรุ่นในแบบสีชา และในส่วนของกระจกรอบคันไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านข้างทั้งสี่บาน และบานหลังที่มีที่ปัดน้ำฝนและไล่ฝ้าในตัว ทั้งหมดได้ปลี่ยนมาเป็นของซีวิคตัวนอกที่มาในแบบสีชา และที่กระจกข้างบานหลังยังติดหูช้างของ FERIO ส่วนหลังคารถยังได้ยกเอาหลังคาของซีวิค รุ่น EG -9 มาแทนที่ ซึ่งเป็นแบบ Moon Roof ที่เลื่อนเข้าในหลังคาสามารถปรับได้สองระดับ
และด้านท้ายรถเดิมทีว่างเปล่า จึงได้เพิ่มความโดดเด่นด้วยสปอยเลอร์ฝากระโปรงหลังแบบตูดเป็ดพร้อมไฟเบรคดวงที่สาม แต่งานนี้ต้องลงทุนยกมาทั้งฝากระโปรงหลัง และยังมีช่องติดป้ายทะเบียนขนาดใหญ่กว่าเดิม นอกจากนี้ที่กันชนหน้า-หลังยังติดตั้งเสากะยะ ที่ช่วยให้เวลาจอดได้ง่ายไม่ไปชนสิ่งกีดขวาง พร้อมกับเสาอากาศไฟฟ้าของ Half และที่กันชนหลังยังได้มีไฟหรี่และทับทิมนอกด้วย
เทียบแรง B16A จากตัวนอก 3 D
กรองท๊อปฟิวล์ปรับระบบไฟเต็มที่
สำหรับการปรับแต่งเครื่องยนต์ของซีวิคนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งของรุ่นนี้จากเดิมเครื่องยนต์ใช้รหัส D16Y แบบหัวฉีด ที่ให้แรงม้ามาแค่ 105 ตัวเท่านั้น แน่นอนว่ามันดูน้อยเกินไป สำหรับหนุ่มวัยแรงเลยได้หาทางออก ด้วยการคว้าเอาบล็อกเครื่องตระกูลเดียวกัน เพื่อให้ได้สมรรถนะที่ดีกว่า โดยเครื่องของ CIVIC 3 DOOR ปี 1999 รหัส B16 A ขนาด 1600 ซีซี แบบ DOHC 16 VALVE- VTEC ซึ่งสามารถถ่ายทอดแรงม้าออกมาที่ 170 ตัวที่ 7,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 16 กก.-ม. ที่ 7,300 รอบ/นาที พร้อมกับเกียร์ออโตเมติกแบบ 4 สปีด
ในส่วนของฝาสูบรุ่นนี้ข้อดีคือมีแคมชาร์ฟที่องศาสูง ทำให้วาล์วเปิดได้นานขึ้น รวมไปถึงในส่วนของท่อไอดีที่ไหลลงช่วยให้อากาศเข้าได้เร็วขึ้น โดยปรับแต่งด้วยการเปลี่ยนเป็นกรองอากาศเปลือยพร้อมท่ออากาศแบบงูเหลือมของ TOP FUEL ที่ช่วยให้อากาศไหลเข้าได้เร็วขึ้น สำหรับระบบไฟได้ปรับแต่งพอตัวเริ่มจากเปลี่ยนมาใช้คอยล์แยก ซึ่งเป็นของเครื่องโรตารี่ในมาสด้า อาร์เอ็กซ์-เซเว่น ที่ระบายความร้อนได้ดีและให้กระแสได้มากกว่า
ต่อมาได้สลับหัวเทียนมาเป็นของ NGK เบอร์ 7 แบบ อีเรเดี่ยม ที่เป็นหัวเทียนแบบเข็ม จึงสามารถให้ประกายไฟได้แม่นยำส่งผลให้ระบบจุดระเบิดดีขึ้น และสายหัวเทียนของ NGK แบบสีฟ้า ซึ่งค่อนข้างจะหายากที่ช่วยให้นำกระแสไฟได้สมบูรณ์ รวมไปถึงสายกราวด์ของ E-SPEC ที่มาเสริมทัพให้กระแสไฟเดินได้สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังได้ขยายท่อไอเสียเป็นขนาด 2.2 นิ้วกับหม้อพักใบปลายของ VISION R และเรกูเลเตอร์กับปั๊มจ่ายน้ำมัน รวมไปถึงหม้อน้ำล้วนแต่ของ B16A
ยัดโช้คของ CUSCO กับค้ำโช้คคู่
ใส่เบรคสปอร์ตพรีลูดมีหม้อลม
ทางด้านช่วงล่างของรุ่นนี้เป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน แต่ในส่วนระบบกันสะเทือนได้ปรับเซ็ทใหม่ โดยโช้คอัพด้านหน้าคบหาของ CUSCO รุ่น ZERO 2 แบบสตรัทปรับเกลียวพร้อมกับกระบอกสไลด์ ซึ่งนอกจากสตรัทปรับเกลียวสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้แล้ว ในส่วนกระบอกสไลด์ก็ยังปรับสูง-ต่ำได้ด้วย และยังมีสตรัทค้ำโช้คหน้าแบบอลูมิเนียมของ INTREGA TYPE R ส่วนโช้คหลังก็เป็นของ CUSCO รุ่น ZERO 2 เช่นกัน กับค้ำโช้คหลังของ SPOON โดยได้ปรับให้สูงกว่าด้านหน้า ตามสไตล์หน้าทิ่มท้ายโด่ง
ส่วนระบบเบรคนั้นได้ปรับแต่งใหม่ เพราะของเดิมเอาไม่อยู่แน่ ดังนั้นจึงได้ไปพึ่งเบรคที่มีมีประสิทธิภาพมากกว่า โดยเป็นของรถสปอร์ตในฮอนด้า พรีลูด ที่มีจานดิสถ์ใหญ่ขึ้นและคาลิปเปอร์เบรคหน้าแบบพอร์ทเดียวใหญ่ ซึ่งเคยหยุดแรงม้าระดับ 200 ตัวได้อย่างสบาย ส่วนเบรคด้านหลังนั้นเป็นของเดิม เพราะซีวิครุ่นสุดท้ายนี้เป็นแบบดิสถ์เบรคอยู่แล้ว แต่ได้ขยับหม้อลมเบรคให้ใหญ่ขึ้นเป็นของ B16A เพียงเท่านี้ก็มากพอที่จะสั่งการให้หยุดได้แล้ว
พวงมาลัยอินเทก้าจับคู่คอนโซลซีวิค
เบาะกับแผงลายตุ๊กแกติดเครื่องเสียง
เข้ามาภายในก็ไม่ถึงกับเรียบง่ายแต่ต้องดูเป็นถึงจะรู้ว่าแตกต่างไปกว่าเดิม โดยเริ่มจากพวงมาลัยที่แอบเอาของ INTEGA TYPE R (DC2) แบบทรงสปอร์ต 3 ก้านหุ้มหนังดำที่มีแอร์แบคมาด้วย ตามมาด้วยคอนโซลหน้าของซีวิคตัวนอกที่ยกมาทั้งแผง เพียงแค่ของเดิมเป็นสีเทาจึงไม่เท่เท่าสีดำของนอก พร้อมกับหน้าปัดขาวที่เห็นชัดขึ้น โดยมาตรวัดความเร็วน้อยกว่าเดิมแบบ 180 กม./ชม. กับมาตรวัดรอบเครื่องเรดไลท์ที่ 8,000 รอบ/นาที ถัดมาเป็นคอนโซลกลางที่ของเดิมไม่มี แต่สามารถนำเอาซีวิคตัวนอกมาใส่ได้พอดี หรือมักเรียกกันว่า” ช่องชา” เพราะจะมีช่องสำหรับเก็บแผ่นซีดีที่มีฝาปิดสีชา
ต่อมาได้หาครอบบันไดสแตนเลสของแต่งตรงรุ่นจาก Honda Acces ส่วนเบาะนั่งเป็นของซีวิคตัวนอกแบบผ้าลายตุ๊กแก ทั้งหน้า-หลัง โดยที่เบาะหลังจะมีที่พักแขนและเป็นกล่องเก็บของแถมมีช่องเปิดไปที่ส่วนเก็บของท้ายรถได้ ส่วนแผงข้างประตูก็เป็นลายตุ๊กแกแบบเดียวกัน แต่แผงข้างด้านหน้าเป็นแบบมีทวิตเตอร์ในตัว ซึ่งค่อนข้างหายากและยังมีเครื่อฟองอากาศแบบตรงรุ่นด้วย สุดท้ายเครื่องเสียงได้ติดตั้งฟรอนเอนด์ ของ SONY ทำงานร่วมกับพาวเวอร์แอมป์ของ SAGA ขนาด 1200 WATTS แบบ 4 แชลแนล เพื่อขับลำโพง 6X9 ของ JBL จำนวน 2 ตัวอยู่ที่แผงหลังแบบ Garthers และทวิตเตอร์ 2 ตัวที่แผงประตู
เป็นไปตามสไตล์ FERIO ที่ส่วนใหญ่เจ้าซีวิค 4 ดอร์มักจะนิยมแต่งกันแบบนี้ ยกเว้นบางพวกที่ชอบฉีกแนวออกไป แต่อย่างไรก็ตามที่นำมาอวดกันนี้รับรองดูไม่เบื่อตา สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ WWW.RZ-RACING .COM /FERIO CLUB
ปรึกษาการปรับแต่งซีวิคได้ที่ BEAR R แถวรามอินทรา 87 โทร.086-882-5469