ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Home Car Show Super Car & Import Car Off Road Car Stereo Eenergy Business Wheel & Tires Classifieds Webboard
Sport World Home & Condo Motor Cycle Cycle Bike Review & TestDrive Classic Car Motor Sport Pretty Show Sexy Lady Society News









ผู้เขียน หัวข้อ: หากคิดจะแต่งรถให้ออกแนวเรซิ่ง คงต้องมีรูปแบบเฉพาะตัวของแต่ละรุ่น ><  (อ่าน 781 ครั้ง)

กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
 :thinking: :thinking: :thinking: :thinking: :thinking: :thinking: :thinking:

CK 4 A กลายพันธุ์แรลลี่     ตัวแข่ง EVOLUTION VI     หากคิดจะแต่งรถให้ออกแนวเรซิ่ง คงต้องมีรูปแบบเฉพาะตัวของแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นชุดแอโร่พาร์ท และขุมพลังเครื่องยนต์ ซึ่งนักเลงรถในบ้านเราส่วนใหญ่ก็มักจะทำตามกัน โดยเฉพาะรถมิตซูบิชิ แลนเซอร์นั้นต่างก็อาศัยต้นแบบจากตระกูลอีโวลูชั่น  เพราะได้ชื่อว่าเป็นรถแข่งแรลลี่ระดับโลก ที่เวลานี้สามารถปรับแต่งได้เหมือนกันอย่างกับฝาแฝดทีเดียวจนแยกแทบไม่ออกว่าคันไหนตัวจริง    เช่นเดียวกับ MITSUBISHI EVOLUTION VI คันสีขาวนี้ ที่เดิมทีนั้นเป็นเพียงรถมิตซูบิชิ แลนเซอร์ ท้ายเบนซ์ ที่อยู่ในบอดี้ CK 4A แต่มาบัดนี้ได้กลายพันธุ์มาเป็น EVO VI ได้อย่างสง่าผ่าเผย ซึ่งนั่นก็เป็นความภูมิใจของ หนุ่มทอม ผู้เป็นเจ้าของ ที่อุตส่าห์สร้างตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก โดยใช้ชิ้นส่วนของอีโว 6 ทั้งหมด พร้อมกันนั้นขุมพลังภายใต้ฝากระโปรงก็จับเอามาใส่ด้วย รวมไปถึงระบบขับเคลื่อนที่ขยับมาเป็น 4 WD แบบ Full-Time     สวมร่างบอดี้ EVO VI แท้     เท่ล้อ OZ ลงปลายท่อใหญ่       มาดูที่ฝากระโปรงหน้าก็จัดการสลับให้ท้าทายในแบบอะลูมิเนียม ที่ให้น้ำหนักเบา พร้อมการดีไซน์ทำเป็นช่องลมสองช่องระหว่างกลางฝากระโปรง โดยด้านในจะเห็นเป็นบานเกล็ดเพื่อเป็นทางออกให้ความร้อนจากเครื่องยนต์ระบายออกมา ในขณะที่ด้านข้างตัวรถก็เป็นโป่งล้ออะลูมิเนียมเช่นกัน ซึ่งยื่นออกมาเพื่อคุมฐานล้อที่กว้างขึ้น แต่ขอเท่ด้วยล้ออัลลอยขอบ17 นิ้ว ซึ่งเป็นของ OZ RACING ในแบบ 15 ก้าน ที่รัดด้วยยาง POTENZA G III ขนาด 225/45 ZR 17    ส่วนกระจกรอบคันนั้นต้องสังเกตให้ดี ได้เปลี่ยนไปเป็นสีเขียว ซึ่งจะเห็นได้ชัดตอนที่โดนฝนตกและสะท้อนกับแสงแดดเช่นเดียวกับกระจกส่องข้าง เลยขึ้นมาที่หลังคาได้ยกหลังคาเก่าออกแล้วเอาของ EVOVIแบบมีซันรูฟมาสวมแทน ถัดลงมาที่สเกิร์ตข้างเป็นทรงขอบสันกลมมนไปถึงโป่งล้อหลังที่อาศัยแปะยึดเข้าไปแทน และรับกับกันชนหลังทรงอวบใหญ่ โดยระหว่างกันชนกับชายล่างยังได้ออกแบบให้เป็นช่องแนวนอนแบ่งเป็นสี่ช่อง แถมชายล่างยังเล่นเป็นเส้นขอบไล่เป็นแนวยาวไปเกือบถึงปลายข้างกันชน นอกจากนี้ชายล่างบริเวณข้างซ้ายได้เว้าเป็นที่โผล่ของหม้อพักใบปลายขนาดใหญ่แบบสเตนเลสผลิตภัณฑ์จาก OTOP    ทางด้านไฟท้ายนั้น รูปทรงไม่ได้เปลี่ยนไป ยังเป็นทรงสามเหลี่ยมท้ายเบนซ์แต่ต่างกันที่ตัวกรอบไฟท้ายเป็นแบบเพชร โดยเฉพาะที่ไฟถอยหลัง เช่นเดียวกับฝากระโปรงหลังก็จำเป็นต้องยกเอาของ EVO VI มาด้วย เพราะจะมีจุดยึดให้กับสปอยเลอร์ฝากระโปรงหลังได้ ซึ่งโดดเด่นด้วยปีกสองชั้น โดยปีกล่างจะเป็นทรงสามเหลี่ยมพร้อมไฟเบรก ส่วนปีกชั้นบนจะเป็นอะลูมิเนียมที่สามารถปรับระดับได้ตามต้องการ     ภายในแต่งครบชุด EVO VI      เกจวัดเพียบติดปรับบูสต์ไฟฟ้า    เข้ามาสำรวจภายใน ได้ทำการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดให้เป็นของ EVO VI โดยคอนโซลหน้าออกแบบได้เข้าตากว่า ทั้งหน้าปัดเป็นแบบสีน้ำเงินทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้น ส่วนแอร์คอนดิชั่นขยับมาเป็นแบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ และฝั่งซ้ายมือของคอนโซลจะมีแอร์แบ็ก ในขณะที่พวงมาลัยหนังแท้ทรงสปอร์ตสไตล์สามก้านเป็นของ MOMO แบบด้ายคู่สีฟ้า เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาแต่งให้เฉพาะอีโวลูชั่น หรือแม้ตัวหัวเกียร์หนังยังดีไซน์ออกมาให้จับได้เต็มมือคู่กับถุงหุ้มเกียร์แบบด้ายคู่สีฟ้า ตามมาด้วยเบาะนั่งทรงบัคเก็ตซีตของ RECARO เป็นแบบถักสีน้ำเงินกับดำ พร้อมเล่นขอบด้านข้างด้วยผ้ากำมะหยี่สีเทาอ่อนกับเทาเข้ม ส่วนเบาะหลังที่ยกมาให้ครบชุด รวมไปถึงแผงประตูทั้งสี่บานก็ยังเป็นของอีโวด้วย    สำหรับเกจวัดต่างๆ ที่นำมาติดตั้งโชว์อยู่บนคอนโซลหน้า ได้เพิ่มเติมขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์ของ RAV คล้าย ๆ กับรุ่นหน้ามืดของ DEFI แต่เกจของยี่ห้อนี้มีแก๊ปติดมาให้ด้วย ซึ่งจะช่วยบังแสงทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้นเวลากลางวัน ส่วนเกจแต่ละตัวนั้นมีดังนี้คือเกจวัด EXT TEMP. เกจวัด OLI TEMP. เกจวัด WATER TEMP. เกจวัด OLI PRESS เกจ์วัด BOOST และเกจวัด RPM และที่คอพวงมาลัยได้ติดตั้งตัวปรับบูสต์ไฟฟ้าของ GREDDY รุ่น PROFEC-B SPEC II ซึ่งมีรูปทรงกะทัดรัดขนาดพอเหมาะกว่ารุ่นก่อน พร้อมติดคู่กับเทอร์โบไทเมอร์ของ GREDDY เช่นกัน     แรงเครื่อง 4G63T ลงเทอร์โบ     ขับสี่ยกแพทั้งชุดติดเบรกเบรมโบ    ในส่วนของเครื่องยนต์ ถ้าจะให้แรงเทียบเท่ากับEVO 6.5 แน่นอนต้องยกของเก่าอย่าง 4G15E ออก เพราะให้ม้ามาวิ่งแค่110 ตัวเท่านั้น แต่เมื่อหันมาฝังรหัสร้อนแรง 4G63T ในแบบมีเทอร์โบติดมาด้วย รับรองได้ว่าสามารถกระชากความแรงได้ไม่จำกัดด้วยแรงม้าที่ออกมาป้วนเปี้ยนที่ 280 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดที่ช่วยออกตัวได้เร็ว 36.5 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ/นาที     นอกจากนี้ในห้องเครื่องยังหาค้ำโช้กมาไว้ใช้งานด้วย หรือแม้แต่ฝาน้ำมันเครื่องกับฝาหม้อน้ำก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นของ RALLI ART   ส่วนกรองอากาศเปลือยเป็นของ HERRICANE แบบสเตนเลส ที่ถักทอขึ้นมาอย่างละเอียด จึงสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ แต่จะให้อากาศไหลผ่านได้มากกว่ากรองแบบผ้าสังเคราะห์ และขยายท่อไอเสียแบบสเตนเลส     ในขณะเดียวกันต้องยกชุดเกียร์มาด้วยเพื่อจะได้ส่งกำลังให้สามารถขับเคลื่อนได้ทั้งสี่ล้ออยู่ตลอดเวลา แต่ในการนี้ก็ต้องยอมเปลี่ยนคานเกียร์และคานแร็คพวงมาลัยด้วย ตามมาด้วยแพหน้า แพหลัง ที่มาพ่วงเอาปีกนกที่ทำด้วยอะลูมิเนียม รวมไปถึงเบรกหน้าที่มีดิสก์เบรกและคาลิเปอร์ของ BREMBO ในแบบข้างละ 4 พอร์ท ส่วนหลังข้างละ 2 พอร์ท    สำหรับเพลาหลังก็ไม่เว้นด้วย แต่ในการติดตั้งนั้นไม่ง่าย ตามคอนเซ็ปต์แล้วจำเป็นต้องเลาะตะเข็บพื้นท้ายใต้เบาะหลังของเดิมออกแล้วเอาพื้นท้ายของ EVOVI มาแปะแทน เพราะจะมีหูหิ้วเฟืองท้ายกับตัวยึดเพลากลางติดมาด้วย ตลอดจนระบบกันสะเทือนก็เปลี่ยนทั้งโช้กหน้า-หลังของรุ่นนี้ด้วย    จัดว่าเป็นมิตซูบิชิ แลนเซอร์ ท้ายเบนซ์ ที่แปลงร่างเป็น EVOLUTION VI ได้สมบูรณ์แบบอีกคันหนึ่ง ที่สำคัญแจ้งเปลี่ยนจากขนส่งเรียบร้อยแล้ว ซิ่งได้ปลอดภัย สนใจอยากได้ไว้ในครอบครองโทร.0-1777-7199       ปรึกษาวางเครื่องและปรับแต่งติดต่อ D.AUTO SERVICE ซอยราษฎร์บูรณะ 36 โทร.0-2463-5528                                                                                                                           




 







 


แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.

©2013 carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com

789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999