ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Home Car Show Super Car & Import Car Off Road Car Stereo Eenergy Business Wheel & Tires Classifieds Webboard
Sport World Home & Condo Motor Cycle Cycle Bike Review & TestDrive Classic Car Motor Sport Pretty Show Sexy Lady Society News









ผู้เขียน หัวข้อ: NEW MAZDA ASTINA ดีไซน์สเปกนอก..ดูดีมีระดับ ><  (อ่าน 5603 ครั้ง)

กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
NEW MAZDA ASTINA ดีไซน์สเปกนอก..ดูดีมีระดับ ><
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2014, 01:05:27 PM »
 :whistle: :whistle: :whistle: :whistle: :whistle: :whistle:

 NEW MAZDA ASTINA  ดีไซน์สเปกนอก..ดูดีมีระดับ      อาจจะไม่หวือหวามากนักกับรถซีดานอย่าง MAZDA ASTINA ซึ่งที่ผ่านมาเคยนำเอารุ่นไฟป๊อปอัพมาอวดโชว์กันกับขุมพลังแรงของตระกูล BP 1800 TURBO เพราะดูจะเป็นเครื่องที่นิยมวางกันในหมู่ของนักเลงรถ ASTINA แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนที่ต้องการความแตกต่าง จึงทำให้ NEW ASTINAหันไปคบหากับพลังของบล็อกเครื่องใหญ่ V6 แทนที่ สามารถปล่อยม้าออกมาพยศได้ถึง 200 ตัวพร้อมกับปรับแต่งเฉพาะตัวที่เป็นไปตามสเปกนอก     เมื่อเป็นดังเช่นที่กล่าวมาเลยทำให้ ASTINA ตาตี่ รถปี 1997 ถูกมองโดยรวมแล้วเหมือนไม่ใช่รถซิ่งเท่าไหร่ ซึ่งก็เป็นไปตามใจของณัฐดนัย มะโนทัย หรือ หนุ่มเดชŽ ที่รู้จักกันดีในกลุ่มมาสด้าคลับ ว่าเน้นการตกแต่งให้มีมาดเดียวกับรถแอสทิน่าในยุโรป ที่เรียกว่า MAZDA 323 F เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่ถูกใช้ชื่อว่า MAZDA LANTIS โดยทั้งสองรุ่นได้ถูกนำไปปรับแต่งได้อย่างลงตัวทีเดียว     ชุดบอดี้พาร์ทแต่งแบบ 323 F    เปิดหลังคาติดแก๊ปแนบกันสาด       จากเปลือกนอกที่เห็นแทบดูไม่ออกว่าได้ตกแต่งอะไรลงไปบ้าง เพราะถ้าไม่ใช่คนเล่น MAZDA ASTINA แล้วคงจะเดายากสักหน่อย เพราะแต่ละชิ้นไม่ได้โดดเด่นนัก โดยด้านหน้ากันชนเดิมแค่เสริมสเกิร์ตหน้าแบบดำด้านเข้าไป ซึ่งเป็นชิ้นส่วนติดรถของ MAZDA 323 F รุ่นท็อปสุด เช่นเดียวกับสเกิร์ตข้างชิ้นเล็กทรงสามเหลี่ยมที่แนบอยู่กับปลายของชายล่าง หรือแม้แต่สปอยเลอร์หลังและไฟตัดหมอกที่มาแทนไฟถอยหลังข้างขวา ล้วนแต่เป็นของสเปกยุโรปที่มาช่วยยกระดับให้ ASTINAตาตี่เทียบเท่ารถตัวนอกได้ไม่ยาก    ส่วนไฟเลี้ยวหน้าเดิมทีเป็นแบบฝาขาวที่ฮิตกันอยู่ แต่เพื่อให้แตกต่างจากของติดรถ เลยต้องหันมาใช้ไฟเลี้ยวฝาส้มของ LANTIS แทน และอีกอย่าง ใบปัดน้ำฝนข้างขวาได้เปลี่ยนให้เป็นแบบมีสปอยเลอร์ในตัว ซึ่งไว้ช่วยกดเวลาที่วิ่งความเร็วสูง สำหรับเวทเธอร์การ์ดหรือกันสาดแบบยาวชิ้นเดียวกันนั้นเป็นอุปกรณ์แต่งของLANTIS ที่มาเสริมให้น่ามองยิ่งขึ้น แต่โดดเด่นสุดก็เห็นจะเป็นเบื้องบน (หลังคา) เพราะงานนี้ลงทุนยกหลังคาของ LANTIS มาทั้งบาน ด้วยเหตุที่มีซันรูฟ เพื่อไว้เปิดกว้างมองท้องฟ้าหรือจะแค่กระดกก็ได้  ในขณะเดียวกันยังติดแก๊ปไว้ที่หน้าซันรูฟให้เท่ไม่ซ้ำใคร        โชว์เบาะเรคาโร่แดงด้ายคู่     พวงมาลัยกับหัวเกียร์แต่งพอตัว     จากตัวรถที่เป็นสีบรอนซ์ เมื่อมองทะลุเข้าไปด้านในจะเห็นการตกแต่งที่ตัดด้วยสีแดงเข้ม โดยเฉพาะเบาะนั่งด้านหน้า ซึ่งเป็นของRECARO รุ่น STYLE แต่ได้หุ้มหนังแท้สีแดงเข้มแบบด้ายคู่แทนผ้าดำ จึงให้ความหรูคลาสสิกเหมือนกับรถสปอร์ตของเยอรมนี และที่สำคัญ เบาะรุ่นนี้มีลูกเล่นพอตัว ไม่ว่าจะเป็นการปรับสูง-ต่ำด้วยไฟฟ้า และปรับพนักพิงหลังให้นูนขึ้นด้วยปั๊มลมเพื่อรองรับกับกระดูกสันหลัง ทำให้ขับทางไกลแล้วไม่ปวดหลัง หรือแม้แต่ปีกข้างก็สามารถปรับให้โอบกระชับได้ตามต้องการ รวมไปถึงขยับที่หนุนต้นขาได้อีกด้วย    ส่วนเบาะหลังเป็นของติดรถ แต่เพื่อให้เข้ากับเบาะหน้าเลยต้องสั่งหุ้มหนังแท้แบบเดียวกัน พร้อมกับปลอกหุ้มเข็มขัดนิรภัยเป็นของMAZDASPEED ตามมาด้วยพวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบสามก้านของ MOMO รุ่น DAYTONA ยกเว้นหัวเกียร์หนังดำของ LANTIS ที่ประดับด้วยถุงเกียร์เป็นหนังแท้สีแดงเข้ม เลยขึ้นมาที่หน้าปัดตกแต่งด้วยลายคาร์บอน และติดแอร์ดิจิตอลที่หยิบยืมมาจากLANTISเพราะสามารถปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ แถมแปะโลโก้ MAZDA SPEED ที่คอนโซลกลาง ตลอดจนที่เท้าแขนคอนโซลกลางเป็นแบบที่วางแก้ว เพียงเท่านี้ก็สามารถยกระดับได้แล้ว        แรงเอาเรื่อง KL-ZE แบบ V6    ปาดฝาขัดลื่นติดปลายท่อ TANABE     มาถึงหัวใจของรถที่จะเป็นตัวสร้างความมันส์ในอารมณ์ได้มากน้อยแค่ไหนคงต้องขึ้นอยู่กับความแรงของเครื่องเป็นสำคัญ แต่สำหรับเจ้า ASTINA ตาตี่ กลับไม่ได้เน้นความแรงจัดจ้านมากนัก เพราะงานนี้เล่นเครื่องแบบ NA ที่ไม่ต้องพึ่งเทอร์โบ ซึ่งก็ให้ความเร้าใจไปอีกแบบด้วยเครื่องขนาดใหญ่ V6 รหัส KL-ZE ขนาด 2500 ซี.ซี. แบบ DOHC 24 VALVE ที่สามารถรวบรวมกำลังออกมาวิ่งได้ 200 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 22.8 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที จึงส่งผลให้มีแรงบิดในการออกตัวได้เร็ว หรือจะเร่งแซงก็ทำได้ง่าย ไม่ต้องเล่นเกียร์    ในขณะเดียวกัน ได้ทำการโมดิฟายอีกเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นการปาดฝาสูบเพื่อเพิ่มกำลังอัดให้มากขึ้นพร้อมกับขัดพอร์ทไอดี-ไอเสียให้ลื่นซึ่งช่วยให้อากาศไหลเข้าได้รวดเร็วขึ้น ควบคู่กับกรองอากาศเปลือยของ K&N และเดินท่ออากาศอะลูมิเนียม นอกจากนี้ก็ต้องปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้เข้ากับเครื่องด้วย เช่น หม้อน้ำกับพัดลมไฟฟ้าก็เอาของ LANTIS V6 มาใช้แทน รวมไปถึงสายหัวเทียนสีฟ้าของ SPLITFIRE ก็สามารถช่วยให้กระแสไฟในการจุดระเบิดดีขึ้น  แถมด้วยขยายท่อ 2.5 นิ้ว และหม้อพักใบปลายของ TANABE แบบวางขวาง      สวมเกียร์ใหม่ V6 มีเฟืองรอบจัด    ช่วงล่างมาสด้าสปีดติดเบรก RX7    สำหรับเกียร์เดิมทีเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ แต่เล่นหนักไปหน่อยจนเกียร์ไหม้ เลยต้องหันมาอาศัยเกียร์ของ LANTIS V6 ซึ่งได้ทดเฟืองอยู่ที่ 4.375 จึงให้รอบที่จัดจ้านขึ้น ผิดกับเกียร์เดิมแบบ 4.1 ที่รอบจะค่อย ๆ ไหลมากกว่า แถมยังมีลิมิเต็ดสลิปไว้ใช้เวลาที่ล้อหนึ่งล้อใดลื่นอีกล้อก็ยังสามารถหมุนได้ ส่วนระบบคลัตช์ได้ปรับเปลี่ยนแผ่นคลัตช์มาเป็นแบบ 3 แฉกที่จับ-ปล่อยได้แน่นอนกว่า    สำหรับระบบช่วงล่างก็ไม่ด้อย เพราะเล่นโช้กแก๊สหน้า-หลังของ MAZDA SPEED ซึ่งสามารถปรับความหนืดแข็ง-อ่อนได้ถึง5 ระดับ พร้อมกับสปริงคุณภาพของ EIBACH ที่ต้องเป็นของสเปกเครื่อง V6 เท่านั้น เพราะถ้าขืนใช้ของสเปกเครื่อง 4 สูบ มีหวังหน้าทิ่มแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องคุมด้วยสตรัทค้ำโช้กของMAZDA SPEED รวมไปถึงเหล็กกันโคลงได้จับเอา LANTIS V6 มาใช้เช่นกัน ส่วนระบบเบรกก็ต้องมั่นใจว่าสามารถหยุดม้าที่มีอยู่ได้ ดังนั้นจึงเลือกที่จะใช้ของ MAZDA RX7 FD ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 4พอร์ท กับจานดิสก์เบรกขนาดใหญ่ ส่วนเบรกหลังแบบพอร์ทเดียวเป็นของ LANTIS V6 เช่นเดียวกับหม้อลมเบรกด้วย    เป็นอีกคันในตระกูล MAZDA ASTINA ตาตี่ซึ่งมีรูปแบบการตกแต่งที่ไม่ออกนอกลู่นอกทาง แต่สามารถยกระดับตัวรถให้มีคุณค่าเทียบเท่ากับสเปกนอกได้เช่นกัน 

กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
Re: NEW MAZDA ASTINA ดีไซน์สเปกนอก..ดูดีมีระดับ ><
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 15, 2014, 02:50:38 PM »
 :wonder: :wonder: :wonder: :wonder: :wonder: :wonder: :wonder: :wonder:

 NEW MAZDA ASTINA  ดีไซน์สเปกนอก..ดูดีมีระดับ      อาจจะไม่หวือหวามากนักกับรถซีดานอย่าง MAZDA ASTINA ซึ่งที่ผ่านมาเคยนำเอารุ่นไฟป๊อปอัพมาอวดโชว์กันกับขุมพลังแรงของตระกูล BP 1800 TURBO เพราะดูจะเป็นเครื่องที่นิยมวางกันในหมู่ของนักเลงรถ ASTINA แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนที่ต้องการความแตกต่าง จึงทำให้ NEW ASTINAหันไปคบหากับพลังของบล็อกเครื่องใหญ่ V6 แทนที่ สามารถปล่อยม้าออกมาพยศได้ถึง 200 ตัวพร้อมกับปรับแต่งเฉพาะตัวที่เป็นไปตามสเปกนอก     เมื่อเป็นดังเช่นที่กล่าวมาเลยทำให้ ASTINA ตาตี่ รถปี 1997 ถูกมองโดยรวมแล้วเหมือนไม่ใช่รถซิ่งเท่าไหร่ ซึ่งก็เป็นไปตามใจของณัฐดนัย มะโนทัย หรือ หนุ่มเดชŽ ที่รู้จักกันดีในกลุ่มมาสด้าคลับ ว่าเน้นการตกแต่งให้มีมาดเดียวกับรถแอสทิน่าในยุโรป ที่เรียกว่า MAZDA 323 F เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่ถูกใช้ชื่อว่า MAZDA LANTIS โดยทั้งสองรุ่นได้ถูกนำไปปรับแต่งได้อย่างลงตัวทีเดียว     ชุดบอดี้พาร์ทแต่งแบบ 323 F    เปิดหลังคาติดแก๊ปแนบกันสาด       จากเปลือกนอกที่เห็นแทบดูไม่ออกว่าได้ตกแต่งอะไรลงไปบ้าง เพราะถ้าไม่ใช่คนเล่น MAZDA ASTINA แล้วคงจะเดายากสักหน่อย เพราะแต่ละชิ้นไม่ได้โดดเด่นนัก โดยด้านหน้ากันชนเดิมแค่เสริมสเกิร์ตหน้าแบบดำด้านเข้าไป ซึ่งเป็นชิ้นส่วนติดรถของ MAZDA 323 F รุ่นท็อปสุด เช่นเดียวกับสเกิร์ตข้างชิ้นเล็กทรงสามเหลี่ยมที่แนบอยู่กับปลายของชายล่าง หรือแม้แต่สปอยเลอร์หลังและไฟตัดหมอกที่มาแทนไฟถอยหลังข้างขวา ล้วนแต่เป็นของสเปกยุโรปที่มาช่วยยกระดับให้ ASTINAตาตี่เทียบเท่ารถตัวนอกได้ไม่ยาก    ส่วนไฟเลี้ยวหน้าเดิมทีเป็นแบบฝาขาวที่ฮิตกันอยู่ แต่เพื่อให้แตกต่างจากของติดรถ เลยต้องหันมาใช้ไฟเลี้ยวฝาส้มของ LANTIS แทน และอีกอย่าง ใบปัดน้ำฝนข้างขวาได้เปลี่ยนให้เป็นแบบมีสปอยเลอร์ในตัว ซึ่งไว้ช่วยกดเวลาที่วิ่งความเร็วสูง สำหรับเวทเธอร์การ์ดหรือกันสาดแบบยาวชิ้นเดียวกันนั้นเป็นอุปกรณ์แต่งของLANTIS ที่มาเสริมให้น่ามองยิ่งขึ้น แต่โดดเด่นสุดก็เห็นจะเป็นเบื้องบน (หลังคา) เพราะงานนี้ลงทุนยกหลังคาของ LANTIS มาทั้งบาน ด้วยเหตุที่มีซันรูฟ เพื่อไว้เปิดกว้างมองท้องฟ้าหรือจะแค่กระดกก็ได้  ในขณะเดียวกันยังติดแก๊ปไว้ที่หน้าซันรูฟให้เท่ไม่ซ้ำใคร        โชว์เบาะเรคาโร่แดงด้ายคู่     พวงมาลัยกับหัวเกียร์แต่งพอตัว     จากตัวรถที่เป็นสีบรอนซ์ เมื่อมองทะลุเข้าไปด้านในจะเห็นการตกแต่งที่ตัดด้วยสีแดงเข้ม โดยเฉพาะเบาะนั่งด้านหน้า ซึ่งเป็นของRECARO รุ่น STYLE แต่ได้หุ้มหนังแท้สีแดงเข้มแบบด้ายคู่แทนผ้าดำ จึงให้ความหรูคลาสสิกเหมือนกับรถสปอร์ตของเยอรมนี และที่สำคัญ เบาะรุ่นนี้มีลูกเล่นพอตัว ไม่ว่าจะเป็นการปรับสูง-ต่ำด้วยไฟฟ้า และปรับพนักพิงหลังให้นูนขึ้นด้วยปั๊มลมเพื่อรองรับกับกระดูกสันหลัง ทำให้ขับทางไกลแล้วไม่ปวดหลัง หรือแม้แต่ปีกข้างก็สามารถปรับให้โอบกระชับได้ตามต้องการ รวมไปถึงขยับที่หนุนต้นขาได้อีกด้วย    ส่วนเบาะหลังเป็นของติดรถ แต่เพื่อให้เข้ากับเบาะหน้าเลยต้องสั่งหุ้มหนังแท้แบบเดียวกัน พร้อมกับปลอกหุ้มเข็มขัดนิรภัยเป็นของMAZDASPEED ตามมาด้วยพวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบสามก้านของ MOMO รุ่น DAYTONA ยกเว้นหัวเกียร์หนังดำของ LANTIS ที่ประดับด้วยถุงเกียร์เป็นหนังแท้สีแดงเข้ม เลยขึ้นมาที่หน้าปัดตกแต่งด้วยลายคาร์บอน และติดแอร์ดิจิตอลที่หยิบยืมมาจากLANTISเพราะสามารถปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ แถมแปะโลโก้ MAZDA SPEED ที่คอนโซลกลาง ตลอดจนที่เท้าแขนคอนโซลกลางเป็นแบบที่วางแก้ว เพียงเท่านี้ก็สามารถยกระดับได้แล้ว        แรงเอาเรื่อง KL-ZE แบบ V6    ปาดฝาขัดลื่นติดปลายท่อ TANABE     มาถึงหัวใจของรถที่จะเป็นตัวสร้างความมันส์ในอารมณ์ได้มากน้อยแค่ไหนคงต้องขึ้นอยู่กับความแรงของเครื่องเป็นสำคัญ แต่สำหรับเจ้า ASTINA ตาตี่ กลับไม่ได้เน้นความแรงจัดจ้านมากนัก เพราะงานนี้เล่นเครื่องแบบ NA ที่ไม่ต้องพึ่งเทอร์โบ ซึ่งก็ให้ความเร้าใจไปอีกแบบด้วยเครื่องขนาดใหญ่ V6 รหัส KL-ZE ขนาด 2500 ซี.ซี. แบบ DOHC 24 VALVE ที่สามารถรวบรวมกำลังออกมาวิ่งได้ 200 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 22.8 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที จึงส่งผลให้มีแรงบิดในการออกตัวได้เร็ว หรือจะเร่งแซงก็ทำได้ง่าย ไม่ต้องเล่นเกียร์    ในขณะเดียวกัน ได้ทำการโมดิฟายอีกเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นการปาดฝาสูบเพื่อเพิ่มกำลังอัดให้มากขึ้นพร้อมกับขัดพอร์ทไอดี-ไอเสียให้ลื่นซึ่งช่วยให้อากาศไหลเข้าได้รวดเร็วขึ้น ควบคู่กับกรองอากาศเปลือยของ K&N และเดินท่ออากาศอะลูมิเนียม นอกจากนี้ก็ต้องปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้เข้ากับเครื่องด้วย เช่น หม้อน้ำกับพัดลมไฟฟ้าก็เอาของ LANTIS V6 มาใช้แทน รวมไปถึงสายหัวเทียนสีฟ้าของ SPLITFIRE ก็สามารถช่วยให้กระแสไฟในการจุดระเบิดดีขึ้น  แถมด้วยขยายท่อ 2.5 นิ้ว และหม้อพักใบปลายของ TANABE แบบวางขวาง      สวมเกียร์ใหม่ V6 มีเฟืองรอบจัด    ช่วงล่างมาสด้าสปีดติดเบรก RX7    สำหรับเกียร์เดิมทีเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ แต่เล่นหนักไปหน่อยจนเกียร์ไหม้ เลยต้องหันมาอาศัยเกียร์ของ LANTIS V6 ซึ่งได้ทดเฟืองอยู่ที่ 4.375 จึงให้รอบที่จัดจ้านขึ้น ผิดกับเกียร์เดิมแบบ 4.1 ที่รอบจะค่อย ๆ ไหลมากกว่า แถมยังมีลิมิเต็ดสลิปไว้ใช้เวลาที่ล้อหนึ่งล้อใดลื่นอีกล้อก็ยังสามารถหมุนได้ ส่วนระบบคลัตช์ได้ปรับเปลี่ยนแผ่นคลัตช์มาเป็นแบบ 3 แฉกที่จับ-ปล่อยได้แน่นอนกว่า    สำหรับระบบช่วงล่างก็ไม่ด้อย เพราะเล่นโช้กแก๊สหน้า-หลังของ MAZDA SPEED ซึ่งสามารถปรับความหนืดแข็ง-อ่อนได้ถึง5 ระดับ พร้อมกับสปริงคุณภาพของ EIBACH ที่ต้องเป็นของสเปกเครื่อง V6 เท่านั้น เพราะถ้าขืนใช้ของสเปกเครื่อง 4 สูบ มีหวังหน้าทิ่มแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องคุมด้วยสตรัทค้ำโช้กของMAZDA SPEED รวมไปถึงเหล็กกันโคลงได้จับเอา LANTIS V6 มาใช้เช่นกัน ส่วนระบบเบรกก็ต้องมั่นใจว่าสามารถหยุดม้าที่มีอยู่ได้ ดังนั้นจึงเลือกที่จะใช้ของ MAZDA RX7 FD ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 4พอร์ท กับจานดิสก์เบรกขนาดใหญ่ ส่วนเบรกหลังแบบพอร์ทเดียวเป็นของ LANTIS V6 เช่นเดียวกับหม้อลมเบรกด้วย    เป็นอีกคันในตระกูล MAZDA ASTINA ตาตี่ซึ่งมีรูปแบบการตกแต่งที่ไม่ออกนอกลู่นอกทาง แต่สามารถยกระดับตัวรถให้มีคุณค่าเทียบเท่ากับสเปกนอกได้เช่นกัน

กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
Re: NEW MAZDA ASTINA ดีไซน์สเปกนอก..ดูดีมีระดับ ><
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 05, 2014, 06:13:22 PM »
 :)) :)) :)) :)) :)) :)) :)) :)) :)) :))

NEW MAZDA ASTINA  ดีไซน์สเปกนอก..ดูดีมีระดับ      อาจจะไม่หวือหวามากนักกับรถซีดานอย่าง MAZDA ASTINA ซึ่งที่ผ่านมาเคยนำเอารุ่นไฟป๊อปอัพมาอวดโชว์กันกับขุมพลังแรงของตระกูล BP 1800 TURBO เพราะดูจะเป็นเครื่องที่นิยมวางกันในหมู่ของนักเลงรถ ASTINA แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนที่ต้องการความแตกต่าง จึงทำให้ NEW ASTINAหันไปคบหากับพลังของบล็อกเครื่องใหญ่ V6 แทนที่ สามารถปล่อยม้าออกมาพยศได้ถึง 200 ตัวพร้อมกับปรับแต่งเฉพาะตัวที่เป็นไปตามสเปกนอก     เมื่อเป็นดังเช่นที่กล่าวมาเลยทำให้ ASTINA ตาตี่ รถปี 1997 ถูกมองโดยรวมแล้วเหมือนไม่ใช่รถซิ่งเท่าไหร่ ซึ่งก็เป็นไปตามใจของณัฐดนัย มะโนทัย หรือ หนุ่มเดชŽ ที่รู้จักกันดีในกลุ่มมาสด้าคลับ ว่าเน้นการตกแต่งให้มีมาดเดียวกับรถแอสทิน่าในยุโรป ที่เรียกว่า MAZDA 323 F เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่ถูกใช้ชื่อว่า MAZDA LANTIS โดยทั้งสองรุ่นได้ถูกนำไปปรับแต่งได้อย่างลงตัวทีเดียว     ชุดบอดี้พาร์ทแต่งแบบ 323 F    เปิดหลังคาติดแก๊ปแนบกันสาด       จากเปลือกนอกที่เห็นแทบดูไม่ออกว่าได้ตกแต่งอะไรลงไปบ้าง เพราะถ้าไม่ใช่คนเล่น MAZDA ASTINA แล้วคงจะเดายากสักหน่อย เพราะแต่ละชิ้นไม่ได้โดดเด่นนัก โดยด้านหน้ากันชนเดิมแค่เสริมสเกิร์ตหน้าแบบดำด้านเข้าไป ซึ่งเป็นชิ้นส่วนติดรถของ MAZDA 323 F รุ่นท็อปสุด เช่นเดียวกับสเกิร์ตข้างชิ้นเล็กทรงสามเหลี่ยมที่แนบอยู่กับปลายของชายล่าง หรือแม้แต่สปอยเลอร์หลังและไฟตัดหมอกที่มาแทนไฟถอยหลังข้างขวา ล้วนแต่เป็นของสเปกยุโรปที่มาช่วยยกระดับให้ ASTINAตาตี่เทียบเท่ารถตัวนอกได้ไม่ยาก    ส่วนไฟเลี้ยวหน้าเดิมทีเป็นแบบฝาขาวที่ฮิตกันอยู่ แต่เพื่อให้แตกต่างจากของติดรถ เลยต้องหันมาใช้ไฟเลี้ยวฝาส้มของ LANTIS แทน และอีกอย่าง ใบปัดน้ำฝนข้างขวาได้เปลี่ยนให้เป็นแบบมีสปอยเลอร์ในตัว ซึ่งไว้ช่วยกดเวลาที่วิ่งความเร็วสูง สำหรับเวทเธอร์การ์ดหรือกันสาดแบบยาวชิ้นเดียวกันนั้นเป็นอุปกรณ์แต่งของLANTIS ที่มาเสริมให้น่ามองยิ่งขึ้น แต่โดดเด่นสุดก็เห็นจะเป็นเบื้องบน (หลังคา) เพราะงานนี้ลงทุนยกหลังคาของ LANTIS มาทั้งบาน ด้วยเหตุที่มีซันรูฟ เพื่อไว้เปิดกว้างมองท้องฟ้าหรือจะแค่กระดกก็ได้  ในขณะเดียวกันยังติดแก๊ปไว้ที่หน้าซันรูฟให้เท่ไม่ซ้ำใคร        โชว์เบาะเรคาโร่แดงด้ายคู่     พวงมาลัยกับหัวเกียร์แต่งพอตัว     จากตัวรถที่เป็นสีบรอนซ์ เมื่อมองทะลุเข้าไปด้านในจะเห็นการตกแต่งที่ตัดด้วยสีแดงเข้ม โดยเฉพาะเบาะนั่งด้านหน้า ซึ่งเป็นของRECARO รุ่น STYLE แต่ได้หุ้มหนังแท้สีแดงเข้มแบบด้ายคู่แทนผ้าดำ จึงให้ความหรูคลาสสิกเหมือนกับรถสปอร์ตของเยอรมนี และที่สำคัญ เบาะรุ่นนี้มีลูกเล่นพอตัว ไม่ว่าจะเป็นการปรับสูง-ต่ำด้วยไฟฟ้า และปรับพนักพิงหลังให้นูนขึ้นด้วยปั๊มลมเพื่อรองรับกับกระดูกสันหลัง ทำให้ขับทางไกลแล้วไม่ปวดหลัง หรือแม้แต่ปีกข้างก็สามารถปรับให้โอบกระชับได้ตามต้องการ รวมไปถึงขยับที่หนุนต้นขาได้อีกด้วย    ส่วนเบาะหลังเป็นของติดรถ แต่เพื่อให้เข้ากับเบาะหน้าเลยต้องสั่งหุ้มหนังแท้แบบเดียวกัน พร้อมกับปลอกหุ้มเข็มขัดนิรภัยเป็นของMAZDASPEED ตามมาด้วยพวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบสามก้านของ MOMO รุ่น DAYTONA ยกเว้นหัวเกียร์หนังดำของ LANTIS ที่ประดับด้วยถุงเกียร์เป็นหนังแท้สีแดงเข้ม เลยขึ้นมาที่หน้าปัดตกแต่งด้วยลายคาร์บอน และติดแอร์ดิจิตอลที่หยิบยืมมาจากLANTISเพราะสามารถปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ แถมแปะโลโก้ MAZDA SPEED ที่คอนโซลกลาง ตลอดจนที่เท้าแขนคอนโซลกลางเป็นแบบที่วางแก้ว เพียงเท่านี้ก็สามารถยกระดับได้แล้ว        แรงเอาเรื่อง KL-ZE แบบ V6    ปาดฝาขัดลื่นติดปลายท่อ TANABE     มาถึงหัวใจของรถที่จะเป็นตัวสร้างความมันส์ในอารมณ์ได้มากน้อยแค่ไหนคงต้องขึ้นอยู่กับความแรงของเครื่องเป็นสำคัญ แต่สำหรับเจ้า ASTINA ตาตี่ กลับไม่ได้เน้นความแรงจัดจ้านมากนัก เพราะงานนี้เล่นเครื่องแบบ NA ที่ไม่ต้องพึ่งเทอร์โบ ซึ่งก็ให้ความเร้าใจไปอีกแบบด้วยเครื่องขนาดใหญ่ V6 รหัส KL-ZE ขนาด 2500 ซี.ซี. แบบ DOHC 24 VALVE ที่สามารถรวบรวมกำลังออกมาวิ่งได้ 200 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 22.8 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที จึงส่งผลให้มีแรงบิดในการออกตัวได้เร็ว หรือจะเร่งแซงก็ทำได้ง่าย ไม่ต้องเล่นเกียร์    ในขณะเดียวกัน ได้ทำการโมดิฟายอีกเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นการปาดฝาสูบเพื่อเพิ่มกำลังอัดให้มากขึ้นพร้อมกับขัดพอร์ทไอดี-ไอเสียให้ลื่นซึ่งช่วยให้อากาศไหลเข้าได้รวดเร็วขึ้น ควบคู่กับกรองอากาศเปลือยของ K&N และเดินท่ออากาศอะลูมิเนียม นอกจากนี้ก็ต้องปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้เข้ากับเครื่องด้วย เช่น หม้อน้ำกับพัดลมไฟฟ้าก็เอาของ LANTIS V6 มาใช้แทน รวมไปถึงสายหัวเทียนสีฟ้าของ SPLITFIRE ก็สามารถช่วยให้กระแสไฟในการจุดระเบิดดีขึ้น  แถมด้วยขยายท่อ 2.5 นิ้ว และหม้อพักใบปลายของ TANABE แบบวางขวาง      สวมเกียร์ใหม่ V6 มีเฟืองรอบจัด    ช่วงล่างมาสด้าสปีดติดเบรก RX7    สำหรับเกียร์เดิมทีเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ แต่เล่นหนักไปหน่อยจนเกียร์ไหม้ เลยต้องหันมาอาศัยเกียร์ของ LANTIS V6 ซึ่งได้ทดเฟืองอยู่ที่ 4.375 จึงให้รอบที่จัดจ้านขึ้น ผิดกับเกียร์เดิมแบบ 4.1 ที่รอบจะค่อย ๆ ไหลมากกว่า แถมยังมีลิมิเต็ดสลิปไว้ใช้เวลาที่ล้อหนึ่งล้อใดลื่นอีกล้อก็ยังสามารถหมุนได้ ส่วนระบบคลัตช์ได้ปรับเปลี่ยนแผ่นคลัตช์มาเป็นแบบ 3 แฉกที่จับ-ปล่อยได้แน่นอนกว่า    สำหรับระบบช่วงล่างก็ไม่ด้อย เพราะเล่นโช้กแก๊สหน้า-หลังของ MAZDA SPEED ซึ่งสามารถปรับความหนืดแข็ง-อ่อนได้ถึง5 ระดับ พร้อมกับสปริงคุณภาพของ EIBACH ที่ต้องเป็นของสเปกเครื่อง V6 เท่านั้น เพราะถ้าขืนใช้ของสเปกเครื่อง 4 สูบ มีหวังหน้าทิ่มแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องคุมด้วยสตรัทค้ำโช้กของMAZDA SPEED รวมไปถึงเหล็กกันโคลงได้จับเอา LANTIS V6 มาใช้เช่นกัน ส่วนระบบเบรกก็ต้องมั่นใจว่าสามารถหยุดม้าที่มีอยู่ได้ ดังนั้นจึงเลือกที่จะใช้ของ MAZDA RX7 FD ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 4พอร์ท กับจานดิสก์เบรกขนาดใหญ่ ส่วนเบรกหลังแบบพอร์ทเดียวเป็นของ LANTIS V6 เช่นเดียวกับหม้อลมเบรกด้วย    เป็นอีกคันในตระกูล MAZDA ASTINA ตาตี่ซึ่งมีรูปแบบการตกแต่งที่ไม่ออกนอกลู่นอกทาง แต่สามารถยกระดับตัวรถให้มีคุณค่าเทียบเท่ากับสเปกนอกได้เช่นกัน

กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
Re: NEW MAZDA ASTINA ดีไซน์สเปกนอก..ดูดีมีระดับ ><
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2014, 07:31:40 PM »
 :whistle: :whistle: :whistle: :whistle: :whistle: :whistle:

 NEW MAZDA ASTINA  ดีไซน์สเปกนอก..ดูดีมีระดับ      อาจจะไม่หวือหวามากนักกับรถซีดานอย่าง MAZDA ASTINA ซึ่งที่ผ่านมาเคยนำเอารุ่นไฟป๊อปอัพมาอวดโชว์กันกับขุมพลังแรงของตระกูล BP 1800 TURBO เพราะดูจะเป็นเครื่องที่นิยมวางกันในหมู่ของนักเลงรถ ASTINA แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนที่ต้องการความแตกต่าง จึงทำให้ NEW ASTINAหันไปคบหากับพลังของบล็อกเครื่องใหญ่ V6 แทนที่ สามารถปล่อยม้าออกมาพยศได้ถึง 200 ตัวพร้อมกับปรับแต่งเฉพาะตัวที่เป็นไปตามสเปกนอก     เมื่อเป็นดังเช่นที่กล่าวมาเลยทำให้ ASTINA ตาตี่ รถปี 1997 ถูกมองโดยรวมแล้วเหมือนไม่ใช่รถซิ่งเท่าไหร่ ซึ่งก็เป็นไปตามใจของณัฐดนัย มะโนทัย หรือ หนุ่มเดชŽ ที่รู้จักกันดีในกลุ่มมาสด้าคลับ ว่าเน้นการตกแต่งให้มีมาดเดียวกับรถแอสทิน่าในยุโรป ที่เรียกว่า MAZDA 323 F เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่ถูกใช้ชื่อว่า MAZDA LANTIS โดยทั้งสองรุ่นได้ถูกนำไปปรับแต่งได้อย่างลงตัวทีเดียว     ชุดบอดี้พาร์ทแต่งแบบ 323 F    เปิดหลังคาติดแก๊ปแนบกันสาด       จากเปลือกนอกที่เห็นแทบดูไม่ออกว่าได้ตกแต่งอะไรลงไปบ้าง เพราะถ้าไม่ใช่คนเล่น MAZDA ASTINA แล้วคงจะเดายากสักหน่อย เพราะแต่ละชิ้นไม่ได้โดดเด่นนัก โดยด้านหน้ากันชนเดิมแค่เสริมสเกิร์ตหน้าแบบดำด้านเข้าไป ซึ่งเป็นชิ้นส่วนติดรถของ MAZDA 323 F รุ่นท็อปสุด เช่นเดียวกับสเกิร์ตข้างชิ้นเล็กทรงสามเหลี่ยมที่แนบอยู่กับปลายของชายล่าง หรือแม้แต่สปอยเลอร์หลังและไฟตัดหมอกที่มาแทนไฟถอยหลังข้างขวา ล้วนแต่เป็นของสเปกยุโรปที่มาช่วยยกระดับให้ ASTINAตาตี่เทียบเท่ารถตัวนอกได้ไม่ยาก    ส่วนไฟเลี้ยวหน้าเดิมทีเป็นแบบฝาขาวที่ฮิตกันอยู่ แต่เพื่อให้แตกต่างจากของติดรถ เลยต้องหันมาใช้ไฟเลี้ยวฝาส้มของ LANTIS แทน และอีกอย่าง ใบปัดน้ำฝนข้างขวาได้เปลี่ยนให้เป็นแบบมีสปอยเลอร์ในตัว ซึ่งไว้ช่วยกดเวลาที่วิ่งความเร็วสูง สำหรับเวทเธอร์การ์ดหรือกันสาดแบบยาวชิ้นเดียวกันนั้นเป็นอุปกรณ์แต่งของLANTIS ที่มาเสริมให้น่ามองยิ่งขึ้น แต่โดดเด่นสุดก็เห็นจะเป็นเบื้องบน (หลังคา) เพราะงานนี้ลงทุนยกหลังคาของ LANTIS มาทั้งบาน ด้วยเหตุที่มีซันรูฟ เพื่อไว้เปิดกว้างมองท้องฟ้าหรือจะแค่กระดกก็ได้  ในขณะเดียวกันยังติดแก๊ปไว้ที่หน้าซันรูฟให้เท่ไม่ซ้ำใคร        โชว์เบาะเรคาโร่แดงด้ายคู่     พวงมาลัยกับหัวเกียร์แต่งพอตัว     จากตัวรถที่เป็นสีบรอนซ์ เมื่อมองทะลุเข้าไปด้านในจะเห็นการตกแต่งที่ตัดด้วยสีแดงเข้ม โดยเฉพาะเบาะนั่งด้านหน้า ซึ่งเป็นของRECARO รุ่น STYLE แต่ได้หุ้มหนังแท้สีแดงเข้มแบบด้ายคู่แทนผ้าดำ จึงให้ความหรูคลาสสิกเหมือนกับรถสปอร์ตของเยอรมนี และที่สำคัญ เบาะรุ่นนี้มีลูกเล่นพอตัว ไม่ว่าจะเป็นการปรับสูง-ต่ำด้วยไฟฟ้า และปรับพนักพิงหลังให้นูนขึ้นด้วยปั๊มลมเพื่อรองรับกับกระดูกสันหลัง ทำให้ขับทางไกลแล้วไม่ปวดหลัง หรือแม้แต่ปีกข้างก็สามารถปรับให้โอบกระชับได้ตามต้องการ รวมไปถึงขยับที่หนุนต้นขาได้อีกด้วย    ส่วนเบาะหลังเป็นของติดรถ แต่เพื่อให้เข้ากับเบาะหน้าเลยต้องสั่งหุ้มหนังแท้แบบเดียวกัน พร้อมกับปลอกหุ้มเข็มขัดนิรภัยเป็นของMAZDASPEED ตามมาด้วยพวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบสามก้านของ MOMO รุ่น DAYTONA ยกเว้นหัวเกียร์หนังดำของ LANTIS ที่ประดับด้วยถุงเกียร์เป็นหนังแท้สีแดงเข้ม เลยขึ้นมาที่หน้าปัดตกแต่งด้วยลายคาร์บอน และติดแอร์ดิจิตอลที่หยิบยืมมาจากLANTISเพราะสามารถปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ แถมแปะโลโก้ MAZDA SPEED ที่คอนโซลกลาง ตลอดจนที่เท้าแขนคอนโซลกลางเป็นแบบที่วางแก้ว เพียงเท่านี้ก็สามารถยกระดับได้แล้ว        แรงเอาเรื่อง KL-ZE แบบ V6    ปาดฝาขัดลื่นติดปลายท่อ TANABE     มาถึงหัวใจของรถที่จะเป็นตัวสร้างความมันส์ในอารมณ์ได้มากน้อยแค่ไหนคงต้องขึ้นอยู่กับความแรงของเครื่องเป็นสำคัญ แต่สำหรับเจ้า ASTINA ตาตี่ กลับไม่ได้เน้นความแรงจัดจ้านมากนัก เพราะงานนี้เล่นเครื่องแบบ NA ที่ไม่ต้องพึ่งเทอร์โบ ซึ่งก็ให้ความเร้าใจไปอีกแบบด้วยเครื่องขนาดใหญ่ V6 รหัส KL-ZE ขนาด 2500 ซี.ซี. แบบ DOHC 24 VALVE ที่สามารถรวบรวมกำลังออกมาวิ่งได้ 200 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 22.8 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที จึงส่งผลให้มีแรงบิดในการออกตัวได้เร็ว หรือจะเร่งแซงก็ทำได้ง่าย ไม่ต้องเล่นเกียร์    ในขณะเดียวกัน ได้ทำการโมดิฟายอีกเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นการปาดฝาสูบเพื่อเพิ่มกำลังอัดให้มากขึ้นพร้อมกับขัดพอร์ทไอดี-ไอเสียให้ลื่นซึ่งช่วยให้อากาศไหลเข้าได้รวดเร็วขึ้น ควบคู่กับกรองอากาศเปลือยของ K&N และเดินท่ออากาศอะลูมิเนียม นอกจากนี้ก็ต้องปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้เข้ากับเครื่องด้วย เช่น หม้อน้ำกับพัดลมไฟฟ้าก็เอาของ LANTIS V6 มาใช้แทน รวมไปถึงสายหัวเทียนสีฟ้าของ SPLITFIRE ก็สามารถช่วยให้กระแสไฟในการจุดระเบิดดีขึ้น  แถมด้วยขยายท่อ 2.5 นิ้ว และหม้อพักใบปลายของ TANABE แบบวางขวาง      สวมเกียร์ใหม่ V6 มีเฟืองรอบจัด    ช่วงล่างมาสด้าสปีดติดเบรก RX7    สำหรับเกียร์เดิมทีเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ แต่เล่นหนักไปหน่อยจนเกียร์ไหม้ เลยต้องหันมาอาศัยเกียร์ของ LANTIS V6 ซึ่งได้ทดเฟืองอยู่ที่ 4.375 จึงให้รอบที่จัดจ้านขึ้น ผิดกับเกียร์เดิมแบบ 4.1 ที่รอบจะค่อย ๆ ไหลมากกว่า แถมยังมีลิมิเต็ดสลิปไว้ใช้เวลาที่ล้อหนึ่งล้อใดลื่นอีกล้อก็ยังสามารถหมุนได้ ส่วนระบบคลัตช์ได้ปรับเปลี่ยนแผ่นคลัตช์มาเป็นแบบ 3 แฉกที่จับ-ปล่อยได้แน่นอนกว่า    สำหรับระบบช่วงล่างก็ไม่ด้อย เพราะเล่นโช้กแก๊สหน้า-หลังของ MAZDA SPEED ซึ่งสามารถปรับความหนืดแข็ง-อ่อนได้ถึง5 ระดับ พร้อมกับสปริงคุณภาพของ EIBACH ที่ต้องเป็นของสเปกเครื่อง V6 เท่านั้น เพราะถ้าขืนใช้ของสเปกเครื่อง 4 สูบ มีหวังหน้าทิ่มแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องคุมด้วยสตรัทค้ำโช้กของMAZDA SPEED รวมไปถึงเหล็กกันโคลงได้จับเอา LANTIS V6 มาใช้เช่นกัน ส่วนระบบเบรกก็ต้องมั่นใจว่าสามารถหยุดม้าที่มีอยู่ได้ ดังนั้นจึงเลือกที่จะใช้ของ MAZDA RX7 FD ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 4พอร์ท กับจานดิสก์เบรกขนาดใหญ่ ส่วนเบรกหลังแบบพอร์ทเดียวเป็นของ LANTIS V6 เช่นเดียวกับหม้อลมเบรกด้วย    เป็นอีกคันในตระกูล MAZDA ASTINA ตาตี่ซึ่งมีรูปแบบการตกแต่งที่ไม่ออกนอกลู่นอกทาง แต่สามารถยกระดับตัวรถให้มีคุณค่าเทียบเท่ากับสเปกนอกได้เช่นกัน




 







 


แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.

©2013 carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com

789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999