ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Home Car Show Super Car & Import Car Off Road Car Stereo Eenergy Business Wheel & Tires Classifieds Webboard
Sport World Home & Condo Motor Cycle Cycle Bike Review & TestDrive Classic Car Motor Sport Pretty Show Sexy Lady Society News









แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - airrii

หน้า: [1] 2 3
1
ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดภาษี 
สร้างเงินออม...พร้อมคุ้มครองชีวิต

         ปัจจุบันผู้มีรายได้สามารถนำเบี้ยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปี ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการวางแผนภาษีและเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดภาษี  สร้างเงินออม พร้อมคุ้มครองชีวิต โดยประเภทของเบี้ยประกันชีวิตที่สามารถนำเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้ก็มี  2 ประเภท  ได้แก่ เบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไป และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ  ซึ่งมีข้อกำหนดเบื้องต้น ดังนี้



1. เบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไป  (กรมธรรม์อายุ 10 ปีขึ้นไป)
ค่าเบี้ยประกันชีวิตของผู้มีเงินได้หักค่าลดหย่อนและได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
ทั้งนี้ หากคู่สมรสมีการประกันชีวิต และความเป็นสามีภริยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษี ผู้มีเงินได้มีสิทธิหักลดหย่อน สำหรับเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท
ค่าเบี้ยประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้  หักค่าลดหย่อนเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตสำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีกำหนดตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ต้องไม่เกิน 100,000 บาท ประกันลดหย่อนภาษี


2. เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
ค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ หักค่าลดหย่อนในอัตราร้อยละ 15 ของเงินได้ที่นำมาเสียภาษีเงินได้ในแต่ละปี แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี  ทั้งนี้ ต้องเป็นค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และจ่ายผลประโยชน์เงินบำนาญเมื่อผู้มีเงินได้อายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไปถึงอายุ 85 ปีหรือกว่านั้น และเมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เงินที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และเงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

กรณีไม่มีเบี้ยประกันชีวิตตามข้อ 1 สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญไปหักลดหย่อนแทนเบี้ยประกันชีวิตตามข้อ 1 ก่อนได้ ซี่งจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีรวมสูงสุด 300,000 บาท

นอกจากนี้ยังสามารถลดหย่อนภาษีสำหรับลูกกตัญญู คือ ค่าเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรส หักค่าลดหย่อนเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ทั้งนี้ บิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรสต้องไม่มีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้เกิน 30,000 บาท

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
          บุคคลธรรมดามีหน้าที่ต้องยื่นเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้ในทุกปี ภายในวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี  โดยบุคคลธรรมดาที่มีรายได้เกิน 120,000 บาทต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยจะคำนวณจากเงินได้สุทธิประจำปี ซึ่งเกิดจากเงินได้ทั้งปี หักค่าใช้จ่าย และหักค่าลดหย่อน   

วิธีการคำนวณภาษี
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา = [(รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) – เงินบริจาค] x อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
หากรายได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีแต่ถ้าเกินกว่านั้นก็จะเสียภาษีในอัตราก้าวหน้าแบบขั้นบันได

2
ก๊อกอ่างล้างหน้าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในห้องน้ำ ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่หน้าที่การทำงานในการจ่ายน้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถเพิ่มความงามและสไตล์ให้กับห้องน้ำได้อีกด้วย

ประเภทของก๊อกอ่างล้างหน้า
    ก๊อกแบบโยก (Single Handle Faucet): ใช้งานง่ายและสะดวกสบายเพียงแค่โยกขึ้นหรือลงเพื่อปรับอุณหภูมิของน้ำ
    ก๊อกแบบสองทาง (Double Handle Faucet): มีสองท่อสำหรับจัดการน้ำร้อนและน้ำเย็น สามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ
    ก๊อกเซ็นเซอร์ (Sensor Faucet): ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ตรวจจับมือ ทำให้น้ำไหลออกโดยไม่ต้องสัมผัส สะดวกและช่วยลดการใช้น้ำ
    ก๊อกแบบมีปีก (Wall-Mounted Faucet): ติดผนัง สามารถประหยัดพื้นที่และสร้างความทันสมัยให้กับห้องน้ำ



วิธีการเลือกก๊อกอ่างล้างหน้าให้เหมาะสม
1. เลือกดูจากขนาด และดีไซน์
ให้เลือกก๊อกที่มีขนาดเหมาะสมกับอ่างล้างหน้าขนาดเล็กและพื้นที่ในห้องน้ำ โดยดีไซน์ควรเข้ากับสไตล์การตกแต่งของห้อง เช่น หากห้องน้ำมีสไตล์คลาสสิก ควรเลือกก๊อกที่มีรูปทรงที่สวยงามและมีลูกเล่น

2. เลือกวัสดุที่มีคุณภาพ
  1. สแตนเลส (stainless steel)
    ทนทานต่อการกัดกร่อน: สแตนเลสไม่เกิดสนิมและมีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำและสารเคมี
    ดูแลรักษาง่าย: สามารถทำความสะอาดได้ง่ายและไม่ต้องใช้สารเคมีแรงๆ
    ดีไซน์ที่หรูหรา: ให้ลุคที่ทันสมัยและหรูหรา
2. ทองเหลือง (Brass)
    ความทนทาน: ทองเหลืองเป็นวัสดุที่มีความทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน
    มีความสวยงาม: มีลุคคลาสสิกที่สามารถให้ความรู้สึกหรูหรากับห้องน้ำ
    ความสามารถในการป้องกันเชื้อแบคทีเรีย: ทองเหลืองมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติ
3. พลาสติก (Plastic)
    น้ำหนักเบา: ง่ายต่อการติดตั้งและเคลื่อนย้าย
    ราคาไม่แพง: เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
    ไม่เกิดสนิม: ไม่มีปัญหากับการกัดกร่อนจากน้ำ

3. ฟังก์ชันการใช้งานของก๊อกอ่างล้างหน้า
ก๊อกอ่างล้างหน้าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในห้องน้ำ เพราะไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ในการควบคุมการไหลของน้ำเท่านั้น แต่ยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความพึงพอใจในการใช้งาน
1. ควบคุมอุณหภูมิของน้ำ
ก๊อกอ่างล้างหน้าสามารถปรับอุณหภูมิของน้ำได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ โดยทั่วไปก๊อกแบบโยก (Single Handle) จะเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถปรับอุณหภูมิได้ง่าย แค่โยกไปทางขวาหรือตรงกลางเพื่อให้ได้อุณหภูมิที่ต้องการ
2. การประหยัดน้ำ
รุ่นใหม่ๆ ของก๊อกอ่างล้างหน้ามักมีฟังก์ชันการประหยัดน้ำ เช่น ระบบลดการไหลของน้ำ (Flow Restrictor) ซึ่งช่วยให้ใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับน้ำที่พอเพียงในการใช้งานโดยไม่สิ้นเปลือง
3. เซ็นเซอร์อัตโนมัติ
ก๊อกอ่างล้างหน้าแบบเซ็นเซอร์ (Sensor Faucet) ทำงานโดยการตรวจจับการเคลื่อนไหว ทำให้น้ำไหลออกโดยอัตโนมัติเมื่อมีมือเข้ามาใกล้ และหยุดเมื่อมือออกไป ซึ่งช่วยลดการสัมผัสและทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำได้อีกด้วย
4. สวิตช์น้ำร้อนน้ำเย็น
ก๊อกที่มีฟังก์ชันสองทาง (Double Handle Faucet) จะมีสวิตช์สำหรับน้ำร้อนและน้ำเย็นแยกกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความละเอียดมากขึ้น เช่น การล้างมือหรือหน้าที่ต้องการอุณหภูมิที่เฉพาะเจาะจง
5. สายยาง (Pull-out Spray)
บางรุ่นมีฟังก์ชันสายยางที่สามารถดึงออกมาได้ (Pull-out Faucet) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำความสะอาดอ่างล้างหน้าได้ง่ายขึ้น หรือใช้สำหรับการล้างสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในอ่างได้สะดวกยิ่งขึ้น
6. ระบบควบคุมการไหลของน้ำ
ก๊อกบางรุ่นมีระบบควบคุมการไหลของน้ำ (Flow Control) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับความแรงของน้ำได้ตามต้องการ ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมในทุกสถานการณ์
7. ฟังก์ชันการป้องกันการรั่วซึม
ก๊อกที่มีฟังก์ชันป้องกันการรั่วซึมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดน้ำรั่วที่อาจทำให้เกิดปัญหาความเสียหายต่อพื้นและโครงสร้างของบ้าน

การดูแลรักษาก๊อกอ่างล้างหน้า
    ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ: ใช้ผ้านุ่มและน้ำสบู่อ่อน ๆ ในการทำความสะอาดก๊อกเพื่อป้องกันการเกิดคราบสะสม
    หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรง: การใช้สารเคมีที่รุนแรงอาจทำให้ผิวของก๊อกเกิดการกัดกร่อน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสม
    ตรวจสอบรั่วซึม: ควรตรวจเช็คการรั่วซึมเป็นระยะ ๆ หากพบปัญหาควรซ่อมแซมทันที เพราะการรั่วซึมสามารถทำให้เกิดความเสียหายได้
การเลือกและดูแลรักษาก๊อกอ่างล้างหน้าอย่างถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับห้องน้ำ แต่ยังช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายและยืนยาวไปด้วย

3
new doublo 2.0 เป็นนวัตกรรมล่าสุดในวงการความงามที่เน้นการยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย ด้วยการผสานการทำงานของเทคโนโลยี
HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) และ Multipolar RF (Radio Frequency) ซึ่งทั้งสองเทคโนโลยีนี้สามารถทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในด้านการฟื้นฟูผิว



    HIFU (High Intensity Focused Ultrasound):
        HIFU เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการกระตุ้นผิวในระดับลึก โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างความร้อนในชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
ซึ่งมีผลช่วยในการยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย บ่อยครั้ง HIFU ใช้ในบริเวณใบหน้า คอ และลำคอ

    Multipolar RF (Radio Frequency):
        Multipolar RF ใช้คลื่นวิทยุในการกระตุ้นระเบียบการไหลเวียนโลหิตในผิวหนังและการสลายไขมันในชั้นใต้ผิวคล้ายกับการให้ความร้อน ซึ่งทำให้เกิดการกระชับผิวและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนัง
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของ Multipolar RF ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยทำให้ผิวของผู้ใช้มีความสดใสและเรียบเนียน

การทำงานร่วมกันของ HIFU และ Multipolar RF

1. ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการยกกระชับ:
เมื่อ HIFU ทำการกระตุ้นชั้นผิวลึก ทำให้เกิดความร้อนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ความเข้มข้นจากคลื่น RF ช่วยให้กระบวนการนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น
การทำงานร่วมกันนี้ยังช่วยให้มีการยกกระชับที่เด่นชัดยิ่งขึ้น

2. การทำงานร่วมกัน เพิ่มความอบอุ่นที่เหมาะสม:
การใช้ Multipolar RF ร่วมกับ HIFU ทำให้การกระจายความร้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสามารถลดความเจ็บปวดและเพิ่มความสบายขณะทำหัตการได้
ผู้ใช้จะรู้สึกสบายตัวมากขึ้นในระหว่างและหลังการทำหัตถการ

3. ปรับปรุงผลลัพธ์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว:
การผสมผสานเทคโนโลยีทั้งสองนี้ไม่เพียงส่งผลดีต่อรูปลักษณ์โพสต์การทำหัตถการ แต่ยังสนับสนุนการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว โดยช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีได้นานขึ้น

4. ขจัดริ้วรอยและฟื้นฟูผิว:
การทำงานร่วมกันของทั้งสองเทคโนโลยีช่วยให้สามารถเข้าถึงปัญหาผิวที่หลากหลายได้พร้อมกัน เช่น การลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และทำให้ผิวมีความกระชับเรียบเนียน
ข้อดีของ New Doublo 2.0

    ผลลัพธ์ที่มองเห็นได้: เทคโนโลยี HIFU และ Multipolar RF ร่วมกันช่วยให้ผู้ใช้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในระยะเวลาอันสั้น
    ปลอดภัยและไม่รุกราน: นวัตกรรมนี้ใช้เทคโนโลยีที่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและใช้กับผิวหนังได้อย่างปลอดภัย
    การฟื้นตัวที่รวดเร็ว: โดยไม่ต้องพักฟื้นจากการทำหัตถการ ผู้ใช้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที

New Doublo 2.0 เป็นการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในวงการความงามมาผสมผสานกันอย่างลงตัว โดยการทำงานร่วมกันระหว่าง HIFU และ Multipolar RF
ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์จากการยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ปลอดภัยและมีการฟื้นตัวที่รวดเร็ว นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวสวยงามและอ่อนเยาว์

4
ปัญหาฝักบัวเสียจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป หากทุกคนรู้วิธีเปลี่ยนหัวฝักบัว ด้วยตัวเอง โดยบทความนี้จะมาอธิบายแบบเข้าใจง่าย อ่านจบแล้วทำตามได้เลย ติดตามที่นี่

เชื่อว่า “ฝักบัวเสีย” น่าจะเป็นปัญหาที่กวนใจหลายคนไม่น้อย โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนที่จำเป็นต้องใช้น้ำ แต่ฝักบัวเจ้ากรรมกลับไม่มีน้ำไหลออกมาเสียดื้อ ๆ อย่างไรก็ตาม หากทุกคนทราบถึงวิธีเปลี่ยนหัวฝักบัวด้วยตัวเอง ปัญหานี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ เราจึงขออาสามาแนะนำวิธีเปลี่ยนหัวฝักบัวด้วยตัวเอง อธิบายแบบเข้าใจง่ายสุด ๆ ไล่เลียงทีละขั้นตอน ไม่ว่าใครก็ทำตามได้ ติดตามในบทความนี้ได้เลย



สาเหตุของฝักบัวเสีย
    เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน: หัวฝักบัวอาบน้ำมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-10 ปี ดังนั้น เมื่อใช้งานไปครบระยะเวลาดังกล่าว วัสดุต่าง ๆ ที่เป็นส่วนประกอบของฝักบัว เช่น วาล์วฝักบัว พลาสติก ยาง โลหะ ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพตามกาลเวลา
    หัวฝักบัวอุดตัน: น้ำประปาที่ไหลผ่านหัวฝักบัวมักมีสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น หินปูน ตะกรัน ฝุ่นละออง ปะปนมาด้วย โดยสิ่งสกปรกเหล่านี้อาจไปอุดตันตามรูพรุนของหัวฝักบัว ทำให้น้ำไหลออกมาไม่สะดวก ส่งผลให้ฝักบัวเสียได้ในที่สุด
    สายฝักบัวรั่ว: สายฝักบัวเป็นชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างฝักบัวกับท่อน้ำ หากสายฝักบัวชำรุดเสียหาย เช่น รอยแตกร้าว รอยรั่วซึม ก็จะทำให้น้ำรั่วออกจากสายฝักบัวได้

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับการเปลี่ยนฝักบัวด้วยตัวเอง

จากเหตุผลในหัวข้อที่แล้ว การที่ฝักบัวเสียจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากทุกคนทราบวิธีเปลี่ยนหัวฝักบัว ปัญหาดังกล่าวก็จะไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่คอยกวนใจอีกต่อไป โดยก่อนที่จะไปถึงวิธีเปลี่ยนหัวฝักบัว ก็ต้องรู้ก่อนว่าอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับการเปลี่ยนฝักบัวด้วยตัวเองมีอะไรบ้าง โดยสามารถแบ่งเป็นข้อ ๆ ได้ดังต่อไปนี้

    - หัวฝักบัวใหม่
    - ประแจเลื่อน
    - เทปพันเกลียว
    - ผ้าสะอาด
    - ไขควง
    - ถุงมือยาง
    - แว่นตานิรภัย



ขั้นตอนการเปลี่ยนหัวฝักบัวอาบน้ำ
    ขั้นตอนที่ 1: ปิดวาล์วน้ำที่เชื่อมต่อกับฝักบัว เพื่อให้น้ำไหลออกจากหัวฝักบัวได้หมดก่อนถอดออก
    ขั้นตอนที่ 2: ถอดหัวฝักบัวตัวเก่าออก โดยใช้ผ้าพันรอบหัวฝักบัวเพื่อป้องกันไม่ให้เกลียวเสียหายจากการหมุน จากนั้นใช้ประแจเลื่อนหมุนหัวฝักบัวทวนเข็มนาฬิกาจนหลุดออก
    ขั้นตอนที่ 3: วิธีเปลี่ยนหัวฝักบัวด้วยตัวเองขั้นตอนต่อมา คือการทำความสะอาดบริเวณท่อน้ำ โดยใช้ผ้าเช็ดให้สะอาด เพื่อขจัดเศษฝุ่นและสิ่งสกปรก
    ขั้นตอนที่ 4: พันเทปพันเกลียวบนเกลียวของหัวฝักบัวใหม่ เพื่อป้องกันน้ำรั่วซึม โดยให้พันเทปตามเข็มนาฬิกาประมาณ 6 รอบ ควรเปลี่ยนแหวนยางกันซึมชิ้นใหม่ เพื่อกันการรั่วซึมเพิ่มขึ้นอีกชั้น
    ขั้นตอนที่ 5: จากนั้นให้นำหัวฝักบัวใหม่ใส่เข้ากับท่อน้ำ แล้วใช้ประแจเลื่อนหมุนหัวฝักบัวตามเข็มนาฬิกาจนแน่น
    ขั้นตอนที่ 6: ปิดท้ายวิธีเปลี่ยนหัวฝักบัวด้วยการเปิดวาล์วน้ำเพื่อตรวจสอบการรั่วซึม หากไม่มีน้ำรั่วซึม แสดงว่าเปลี่ยนหัวฝักบัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว

5
ประกันลดหย่อนภาษีรู้ไหมว่าเราสามารถซื้อประกันเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000 บาท ใครที่สงสัยว่าต้องซื้อประกันแบบไหนถึงลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000 บาท ถ้าได้เข้ามาอ่านบทความนี้คลายความสงสัยกัน



วิธีลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท แบบที่ 1
หลายคนคงทราบกันดีว่าคุณสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจาก "เบี้ยประกันชีวิตทั่วไป" ได้ 100,000 บาท ในส่วนนี้สามารถรวมกับ "เบี้ยประกันสุขภาพ" ได้สูงสุดอีก 25,000 บาท และเมื่อรวมกับ "เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ" (ที่ลดหย่อนภาษีได้ 200,000 บาทหลัง) ก็จะสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000 บาท
**ประกันบำนาญสามารถซื้อได้ 15% ของรายได้รวมในแต่ละปี

วิธีลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท แบบที่ 2
ถ้าหากคุณมีประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี "เบี้ยประกันชีวิต" หรือ "เบี้ยประกันชีวิต+เบี้ยประกันสุขภาพ" แล้ว แต่ยังไม่เต็มสิทธิ์ 100,000 บาท คุณสามารถนำ "เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ" ที่ลดหย่อนภาษีในส่วนของ 200,000 บาทหลัง มาเติมเต็มในส่วนแรกได้ (ก่อนซื้อประกันบำนาญควรสอบถามตัวแทนหรืออ่านรายละเอียดให้ดีก่อนทำประกัน) **ประกันบำนาญสามารถซื้อได้ 15% ของรายได้รวมในแต่ละปี

วิธีลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท แบบที่ 3
ถ้าหากคุณยังไม่มี "เบี้ยประกันชีวิต" หรือ "เบี้ยประกันสุขภาพ" ใดๆเลย คุณสามารถซื้อ

"ประกันชีวิตแบบบำนาญ" เพื่อนำเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 300,000 บาท เพราะแบบประกันบำนาญบางแบบสามารถลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ 100,000 บาทแรก จนถึง 200,000 บาทหลัง ทั้งนี้การใช้สิทธิ์จากเบี้ยประกันบำนาญต้องไม่เกิน 15% ของรายได้รวมในแต่ละปี




6
ไขมันหน้าท้อง ถือเป็นส่วนเกินของร่างกาย ที่ทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจในรูปร่างและบุคลิกภาพ แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่านั้นคือ ยิ่งมีไขมันหน้าท้องมากเท่าไหร่ โอกาสเกิดโรคต่าง ๆ ก็ยิ่งมีมากขึ้น หลายคนจึงพยายามหาวิธีลดไขมันหน้าท้องหรือไขมันส่วนเกิน โดยการลองผิดลองถูก ทั้งอดอาหาร ออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อลดสัดส่วน



ไขมันหน้าท้องสาเหตุ?

   เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายมีการรับและสะสมสารอาหารประเภทไขมันเข้าสู่ร่างกายเป็นจำนวนมาก โดยที่ไม่สามารถเผาผลาญได้หมดในแต่ละวัน ได้แก่ อาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต น้ำตาลที่ได้รับมากเกินก็จะเปลี่ยนรูปเป็นไขมัน ไม่ใช่เฉพาะไขมัน และเข้าไปเกาะติดอยู่ภายในอวัยวะต่างๆ รวมถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องด้วย เมื่อนานวันมากขึ้น ไขมันชนิดนี้ก็จะมีความแข็งตัวมากยิ่งขึ้น และจะดันให้หน้าท้องของเราให้ยื่นออกมาจนเห็นได้ชัดเจน

          ส่วนสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะไขมันในช่องท้อง นอกจากการรับประทานอาหารที่มากเกินไปแล้วอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการไม่ชอบออกกำลังกายไม่ชอบเคลื่อนไหวร่างกาย และยังพบว่าบางครั้งคนที่ทานน้อยแล้วก็ยังมีโอกาสพบภาวะไขมันในช่องท้องได้

 
วิธีลดไขมันส่วนเกิน

   1. เพิ่มการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที 3-5วัน/สัปดาห์ เช่น การวิ่งจ็อกกิ่ง(jogging) เดินเร็วโดยให้มีเหงื่อออกหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ หรือง่ายๆคือขณะออกกำลังกายพูดเป็นประโยคได้ยากขึ้น

   2. ออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อ โดยฝึกกล้ามเนื้ออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยบริหารกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งน้ำหนักที่ใช้ควรให้สามารถยกได้ประมาณ 12-15 ครั้ง

   3.ควบคุมอาหาร เพื่อเป็นการจำกัดพลังงานไม่ให้มีการสะสมเพิ่มเติมและในผู้ที่มีไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องควรจำกัดการบริโภคไขมันและอาหารที่ให้พลังงานสูง

ในยุคและช่วงเวลาที่เร่งด่วน การดูแลอาหารการกิน การออกกำลังกายหรือแม้แต่การดูแลตัวเอง อาจเป็นสิ่งที่ไม่ตอบโจทย์คนทั่วไปในยุคนี้ เมื่อช่วงเวลาในการดูแลตัวเองมีน้อยลง การหาตัวช่วยที่ดีคือคลินิก ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากกว่า

โปรแกรม EXILIS ULTRA 360  ควบคู่ Emsculpt การสลายไขมัน สร้างกล้ามเนื้อ ของคนยุคใหม่
EXILIS ULTRA 360 คืออะไร?

   ด้วยเทคโนโลยียกกระชับ ที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุเข้มข้น (Volumetric Monopolar Radio Frequency) ร่วมกับ Ultrasound คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ ลงใต้ชั้นผิว ไปสลายไขมันพร้อมยกกระชับ และกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ผ่านมาตรฐาน USFDA (อย.ประเทศสหรัฐอเมริกา)  EXILIS ULTRA 360 ตอบโจทย์คนมีปัญหาไขมันส่วนเกิน คุณแม่หลังคลอด มีปัญหาต้นแขน ต้นขาหย่อนคล้อย มีเซลลูไลท์

Emsculpt คืออะไร?

   เครื่อง Emsculpt ใช้เทคโนโลยี HIFEM หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มข้นสูง เป็นตัวช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมันของคนยุคใหม่ Emsculpt  มีลักษณะพิเศษสามารถส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ ผ่านไขมันใต้ชั้นผิวหนังไปกระตุ้นกล้ามเนื้อได้อย่างกว้างและลึกพร้อมกับเผาผลาญไขมัน ลดไขมันได้ในเวลาเดียวกัน

   Emsculpt ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัยจาก โดยองค์การอาหารและยา (FDA) ทั้งจากประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรปและทั่วโลก

โปรแกรม EXILIS ULTRA 360  ควบคู่ Emsculptเป็นโปรแกรมพิเศษที่คุณหมอต้องแนะนำหนึ่งในตัวช่วยที่กำลังเป็นที่นิยมสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมันในทางกลับกันคือไม่ต้องออกกำลังกายเหมาะสำหรับวิถีชีวิตที่แสนยุ่งวุ่นวายในปัจจุบันมากอีกทั้งยังมีประโยชน์ ในคนที่มีข้อจำกัดในการออกกำลังกายหรือต้องการแก้ไขสัดส่วนเฉพาะจุด

7
ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่ายหลายครั้งที่เราทนเห็นเด็กเล็ก หรือลูกน้อยกินไม่ได้ เบื่อนม น้ำหนักลด นอนซมทั้งวัน ไปโรงเรียนกี่ครั้งควบคุมไม่ได้สักอย่าง ดูแลอย่างดีติดโรคจากสังคมของเด็กเล็กและสถานศึกษา อดีตที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าแม้สถานศึกษาจะดูแลอนามัยดีแค่ไหน ยังมีโรงเรียนสำหรับเด็กเล็ก และประถมศึกษา ปิดพักการเรียนเพื่อคลีนนิ่งระบบทุกตารางนิ้ว จากปัญหาเด็กเล็กติดเชื้อต่างๆ จากการอยู่ร่วมกัน อาทิ โรคมือเท้าปาก โรคไข้หวัดนานาชนิด โรคท้องร่วงโรต้า แม้ฉีดวัคซีนดีเพียงใด บทโรคจะสกิดเด็กน้อย พ่อแม่ยังไม่มีทันรู้ตัว บางครอบครัวยังติดกันไปมาพี่น้อง พ่อแม่ ปู่ย่า ให้เห็นมากมาย



ประกันสุขภาพเด็กเล็กเหมาะกับใคร : เด็กแรกเกิด เด็กต่ำกว่าวัยเรียน และเข้าสู่วัยเรียน ทั้งเพศหญิงและชาย เนื่องจากความเสี่ยงภัยเรื่องค่ารักษาพยาบาลเด็กเล็กต่อครั้งมักใช้เวลารักษาประมาณ 5-7 วัน (Ex. เจ็บป่วยนอนรพ. 5 วัน : ค่าห้องวันละ 4,000, ค่าแพทย์ทั่วไปเริ่มต้นวันละ 1,000 บาท, ค่าพยาบาลวันละ 800, ค่ารักษา ค่าโลหิต น้ำเกลือ ค่ายา ค่าวินิฉัย เอ็กซเรย์ปอดและอวัยวะ 50,000 = รวมค่าใช้จ่ายรักษาครั้งนี้ 79,000 บาท ยังไม่รวมเบ็ดเตล็ด และภาษีมูลค่าเพิ่มอื่นๆ)

หากค่ารักษาครั้งนี้ 79,000 บาท - เบี้ยประกัน 60,000 = XXXX มูลค่าที่คุณไม่ต้องชำระเพิ่มใดๆ - (1,000X5+1,000=6,000 บาท) เพราะยังได้รับค่าชดเชยเฝ้าไข้ลูกน้อยจากการต้องขาดงานของพ่อแม่อีก

ท้ายสุด : โรคในเด็กเล็กส่วนใหญ่ มักเป็นโรคที่คาดไม่ถึง อาทิ โรคไข้หวัด โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ A B C โรคไข้เลือดออก โรค RSV โรคปอด โรคเลือด โรคพร่องเอนไซม์ G6PD โรคลำไส้อักเสบ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบทางเดินหายใจ และอุบัติเหตุอื่นๆ ส่วนใหญ่รุมเร้าปอดและระบบทางเดินหายใจ และกระเพาะอาหารเสมอ เพราะเราไม่มีวันรู้ว่าอวัยวะภายในของลูกน้อยจะเติบโตแข็งแรงทนทานกับความเจ็บป่วยได้เพียงใด จึงมีหลายครอบครัวที่รักลูกน้อยสุดดวงใจ ทำประกันสุขภาพเด็กไว้ตั้งแต่แรกเกิดให้เพียงพอ การทนจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพเด็ก ในราคาประหยัด เสมือนการทนรับความเสี่ยงบางส่วนของลูกน้อยไว้เอง เพราะชีวิตจริงค่ารักษาเด็กต่อครั้งแพงกว่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุเด็กเด็กเล็กเสมอ



8
ก๊อกอ่างล้างหน้าบริเวณอ่างล้างหน้าขนาดเล็กที่ใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน จะค่อย ๆ เสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งาน ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นก็อกน้ำรั่วซึมที่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำโดยไม่จำเป็น และเกิดเป็นคราบสกปรก คราบตะกรัน หรือท่อน้ำภายในก๊อกเป็นสนิม รวมถึงปัญหาสิ่งสกปรกสะสมบริเวณปลายปากก๊อกน้ำที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะใช้น้ำที่ปนเปื้อนสิ่งสกปรกเหล่านั้นทุก ๆ วันโดยไม่รู้ตัว และยังมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกหลากหลายรูปแบบ

ดังนั้นเมื่อใช้งานก๊อกน้ำบริเวณอ่างล้างหน้ามานานจนเกินอายุการใช้งานหรือเริ่มเสื่อมสภาพ ควรทำการเปลี่ยนก๊อกอ่างล้างมือเสียใหม่เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ตามมา เพราะหากยังคงใช้งานต่อไป อาจทำให้เกิดอันตรายกับคุณและคนในครอบครัวได้ โดยวันนี้ TOTO มีวิธีเปลี่ยนก๊อกน้ําซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้กับก็อกน้ำอื่น ๆ มาฝากกัน รับรองว่าเพียงทำตาม 7 ขั้นตอนง่าย ๆ นี้ คุณก็จะได้ใช้ก๊อกน้ำใหม่ที่ทั้งสวยงามและมีประสิทธิภาพ



ประเภทของก๊อกอ่างล้างหน้า

นอกจากก๊อกน้ำแบบก้านโยกที่กล่าวถึงไปแล้ว ก๊อกอ่างล้างหน้ายังแบ่งออกเป็นประเภทอื่น ๆ ได้อีกดังนี้

    ก๊อกน้ำแบบเซ็นเซอร์: ทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของมือ ทำให้เปิด-ปิดน้ำได้โดยอัตโนมัติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและสุขอนามัย
    ก๊อกน้ำแบบผสม: สามารถปรับอุณหภูมิของน้ำได้ ทำให้สามารถใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นได้ตามต้องการ
    ก๊อกน้ำแบบแยก: มีก๊อกสำหรับน้ำร้อนและน้ำเย็นแยกกัน เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิของน้ำอย่างแม่นยำ
    ก๊อกน้ำแบบฝังผนัง: ติดตั้งโดยฝังตัวลงไปในผนัง ทำให้ห้องน้ำดูเรียบง่ายและทันสมัย

วัสดุที่ใช้ผลิตก๊อกน้ำ

    สแตนเลส: มีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม และทำความสะอาดง่าย
    ทองเหลือง: มีความแข็งแรง ทนทาน และให้สัมผัสที่หรูหรา
    เซรามิก: มีความสวยงาม ทนทานต่อรอยขีดข่วน และทำความสะอาดง่าย
    วัสดุผสม: เป็นการผสมผสานระหว่างวัสดุต่าง ๆ เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ต้องการ เช่น ความแข็งแรง ความสวยงาม และน้ำหนักเบา

วิธีเลือกซื้อก๊อกอ่างล้างหน้า
นอกจากรูปลักษณ์และฟังก์ชันแล้ว การเลือกซื้อก๊อกอ่างล้างหน้ายังควรพิจารณาถึงงบประมาณที่ตั้งไว้ด้วย ก๊อกน้ำมีราคาแตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้และฟังก์ชันพิเศษ

ฟังก์ชันพิเศษของก๊อกน้ำ

    ระบบประหยัดน้ำ: ช่วยลดการใช้น้ำโดยไม่จำเป็น
    ระบบปรับอุณหภูมิ: สามารถปรับอุณหภูมิของน้ำได้ตามต้องการ
    ระบบกรองน้ำ: ช่วยกรองสิ่งสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกจากน้ำ

การดูแลรักษาก๊อกน้ำ

    ทำความสะอาดก๊อกน้ำเป็นประจำด้วยน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ
    หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
    ตรวจสอบและขันน็อตให้แน่นเป็นระยะ

9
การทำประกันสุขภาพสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือเคยเป็นโรคร้ายแรงนั้นมีความซับซ้อน และขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้ว โรคบางประเภทอาจทำให้บริษัทประกันปฏิเสธการรับประกันโดยสิ้นเชิง หรือรับประกันแต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น เพิ่มเบี้ยประกัน หรือยกเว้นความคุ้มครองบางโรค ต่อไปนี้คือตัวอย่างโรคที่อาจส่งผลต่อการทำประกันสุขภาพ:

โรคร้ายแรง:

    โรคมะเร็ง: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากยังอยู่ในระยะรักษาหรือมีประวัติการเป็นมะเร็งในระยะเวลาไม่นาน
    โรคหัวใจและหลอดเลือด: เช่น โรคหัวใจขาดเลือด, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้
    โรคไตวายเรื้อรัง: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอยู่ในระยะที่ต้องฟอกไต
    โรคอัลไซเมอร์: และโรคเกี่ยวกับระบบประสาทอื่นๆ
    โรคเอดส์ (HIV):

โรคเรื้อรัง:

    โรคเบาหวาน: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี
    โรคตับแข็ง:
    โรคปอดเรื้อรัง: เช่น ถุงลมโป่งพอง, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
    โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (SLE):
    โรคทางจิตเวช: เช่น โรคจิตเภท, โรคไบโพลาร์

โรคอื่นๆ:

    โรคที่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง: หรือมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำสูง
    โรคทางพันธุกรรม: บางโรคอาจทำให้บริษัทประกันปฏิเสธการรับประกัน

ปัจจัยที่มีผลต่อการพิจารณา:

    ระยะเวลาที่เป็นโรค: หากเป็นโรคมานานแล้ว หรือโรคอยู่ในระยะรุนแรง อาจทำให้บริษัทประกันปฏิเสธการรับประกัน
    ระยะเวลาหลังการรักษา: หากเคยเป็นโรค แต่รักษาหายแล้ว และไม่มีอาการมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง อาจมีโอกาสทำประกันได้
    นโยบายของบริษัทประกัน: แต่ละบริษัทประกันมีนโยบายการรับประกันที่แตกต่างกัน

คำแนะนำ:

    ปรึกษาตัวแทนประกัน: ตัวแทนประกันจะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนประกันที่เหมาะสมกับคุณได้
    เตรียมข้อมูลสุขภาพ: เตรียมข้อมูลสุขภาพของคุณให้พร้อม เพื่อให้บริษัทประกันพิจารณา



เป็นโรคร้ายแรงทำประกันชีวิตได้ไหม

การทำประกันชีวิตสำหรับผู้ที่เป็นโรคร้ายแรงนั้นมีความซับซ้อน และขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้:

    ประเภทของโรคร้ายแรง:
        บางโรคอาจทำให้บริษัทประกันปฏิเสธการรับประกันโดยสิ้นเชิง
        บางโรคอาจทำให้บริษัทประกันรับประกัน แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น เพิ่มเบี้ยประกัน หรือยกเว้นความคุ้มครองบางโรค
    ระยะเวลาที่เป็นโรค:
        หากเป็นโรคมานานแล้ว หรือโรคอยู่ในระยะรุนแรง อาจทำให้บริษัทประกันปฏิเสธการรับประกัน
        หากเคยเป็นโรค แต่รักษาหายแล้ว และไม่มีอาการมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง อาจมีโอกาสทำประกันได้
    นโยบายของบริษัทประกัน:
        แต่ละบริษัทประกันมีนโยบายการรับประกันที่แตกต่างกัน
        บางบริษัทอาจรับประกันโรคบางประเภท แต่บางบริษัทอาจไม่รับประกัน

โดยทั่วไป:

    หากคุณเป็นโรคมะเร็ง, โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคไตวายเรื้อรัง อาจเป็นเรื่องยากที่จะทำประกันชีวิต
    แต่ก็มีบริษัทประกันบางแห่งที่รับประกันผู้ที่หายจากโรคร้ายแรงแล้ว โดยมีระยะเวลารอคอย

คำแนะนำ:

    ปรึกษาตัวแทนประกัน: ตัวแทนประกันจะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนประกันที่เหมาะสมกับคุณได้
    เตรียมข้อมูลสุขภาพ: เตรียมข้อมูลสุขภาพของคุณให้พร้อม เพื่อให้บริษัทประกันพิจารณา

ข้อมูลเพิ่มเติม:

    คุณสามารถติดต่อบริษัทประกันโดยตรง หรือเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ของบริษัทประกันแต่ละแห่ง


10
หลักการในการทำงานของเครื่อง Ulthera
   ulthera SPT คือการใช้นวัตกรรม อัลเทอร่า ที่มี SPT หรือ See – Plan – Treat คือการยิงคลื่นเสียงพลังงานสูงไปใต้ชั้นผิว ให้ผิวเกิดการหดตัว และมีความยกกระชับหน้าขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และอีลาสตินเพื่อฟื้นฟูผิว ซึ่งมีความแม่นยำ และสามารถออกแบบให้เจาะจงกับปัญหา และสภาพผิวของแต่ละคนได้

Ulthera SPT มาจาก See Plan Treat คือเทคนิคในการยิง อัลเทอร่า โดยมีขั้นตอนการทำงาน ดังนี้

S – See

   S หรือ See คือการให้แพทย์สามารถมองเห็นกระบวนการได้ระหว่างการทำหัตถการ (Real-Time visualization) ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถแสดงผ่านหน้าจอได้ชัดเจน ให้แพทย์มองเห็นทุกชั้นผิว และสามารถยิงคลื่น MFU-V (Microfocus Ultrasound with Visualization) เข้าไปที่ชั้นผิว SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ได้อย่างแม่นยำ

P – Plan

   P หรือ  Plan คือ การวางแผน เมื่อแพทย์สามารถมองเห็นปัญหาได้อย่างชัดเจนลึกถึงชั้นผิว จึงสามารถวิเคราะห์ ออกแบบ และแก้ไขปัญหาได้อย่างละเอียด

T – Treat

   T หรือ Treat คือความแม่นยำในการรักษา และการยกกระชับ เมื่อแพทย์สามารถเข้าใจถึงปัญหา ก็จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะผู้เข้ารับบริการแต่ละคนที่มาด้วยปัญหาที่แตกต่างกันออกไป สามารถลดอาการเจ็บปวด หรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้



Ulthera SPT ดีอย่างไร?

    สามารถออกแบบการแก้ไขปัญหาที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละบุคคลได้ เนื่องจากปัญหาผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

    มีความแม่นยำ เพราะแพทย์สามารถเห็นโครงสร้างชั้นลึกถึงชั้นผิวsmas ด้วยเอกสิทธิ์เฉพาะของเครื่อง Ulthera

    ไม่ต้องผ่าตัด Ulthera SPT อาจมีข้อจำกัดอยู่บ้างในเรื่องของราคาที่สูง แต่เมื่อเทียบกับการไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นนาน ๆ ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดการพักฟื้นหลังจากการผ่าตัดได้เป็นอย่างดีและหลังทำไม่มีอาการบวม

    เห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรก Ulthera SPT ถือเป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวที่เห็นผลลัพธ์ได้หลังทำทันที และจะเห็นผลได้ชัดขึ้นใน 1-3 เดือน

Ulthera ราคา เท่าไหร่ ?

ulthera นอกจากขึ้นกับเครื่องแท้แล้ว ยังขึ้นกับฝีมือและเทคนิคของแพทย์เป็นสำคัญ เพราะอาศัยเทคนิคและความเชี่ยวชาญ ของแพทย์ในการสแกน และเล็งการยิงชั้น SMAS รวมถึงเข้าใจปัญหาโครงสร้างของใบหน้า จึงจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีได้จริง และอยู่ได้นาน 1 ปี ต้องอาศัยเทคนิค และความแม่นยำสูงในการทำ

Ulthera เหมาะกับใคร ?

    ผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอยปานกลาง

    ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเรียว กรอบหน้าชัดขึ้น

    ผู้ที่มีร่องแก้ม ร่องมุมปาก แก้มหย่อนคล้อย

    ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ยกคิ้ว หางตา และลดถุงใต้ตา

    ผู้ที่ต้องการกระชับเหนียง คางสองชั้น และลำคอ

    ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แน่นกระชับ รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียน


11
    1.คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และมักมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ไม่คาดคิด ประกันอุบัติเหตุช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ทำให้คุณได้รับการรักษาที่เหมาะสมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน

    2.จ่ายค่าชดเชยรายได้เมื่อไม่สามารถทำงานได้ หากอุบัติเหตุทำให้คุณไม่สามารถทำงานได้ชั่วคราวหรือถาวร ประกันอุบัติเหตุจะมอบค่าชดเชยรายได้ ช่วยให้คุณสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้โดยไม่ลำบาก

    3.ความคุ้มครองสำหรับกรณีพิการหรือเสียชีวิต ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรุนแรงจนถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิต ประกันอุบัติเหตุจะมอบเงินชดเชยให้กับคุณหรือครอบครัว เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและดูแลความเป็นอยู่ของคนที่คุณรัก

    4.คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูและกายภาพบำบัด หลังจากเกิดอุบัติเหตุ การฟื้นฟูสมรรถภาพหรือการทำกายภาพบำบัดอาจต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูง ประกันอุบัติเหตุสามารถช่วยครอบคลุมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้

    5.คุ้มครอง 24 ชั่วโมงทั่วโลก ประกันอุบัติเหตุมักให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลก ดังนั้น ไม่ว่าจะเดินทางหรือทำกิจกรรมใดๆ คุณก็จะได้รับการคุ้มครองเสมอ



    6.ไม่มีข้อจำกัดในการเข้ารักษา คุณสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่คุณต้องการโดยไม่มีข้อจำกัด ทำให้คุณสามารถเลือกสถานที่รักษาที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองได้

    7.คุ้มครองกิจกรรมเสี่ยง บางประกันอุบัติเหตุครอบคลุมกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น กีฬาผาดโผน หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเร็ว ช่วยให้คุณสามารถทำกิจกรรมเหล่านี้ได้อย่างมั่นใจ

    8.การวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด การทำประกันอุบัติเหตุเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินที่รอบคอบ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด คุณจะมีเงินสำรองสำหรับรับมือกับสถานการณ์นั้นๆ

    9.การปกป้องครอบครัวจากภาระทางการเงิน หากคุณเป็นเสาหลักของครอบครัว การทำประกันอุบัติเหตุช่วยปกป้องครอบครัวจากภาระทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นหากคุณต้องเผชิญกับอุบัติเหตุร้ายแรง

    10.ความอุ่นใจในชีวิตประจำวัน ประกันอุบัติเหตุทำให้คุณสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นใจและไร้กังวล เพราะคุณรู้ว่ามีการคุ้มครองสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นทุกเวลา

สรุป การทำประกันอุบัติเหตุเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดในการปกป้องตัวคุณและครอบครัวจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและไร้กังวลเช็คประกันอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

12
ประเภทของโถปัสสาวะชาย

1. โถปัสสาวะชายแบบแขวนผนัง
เป็นโถปัสสาวะที่เหมาะกับห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัด เพราะมีขนาดกะทัดรัดและติดตั้งได้ง่าย โดยใช้ตะขอยึดผนังเพื่อแขวนติดตั้ง และแบบพุกยึดผนังกับโถปัสสาวะ

2. โถปัสสาวะชายแบบตั้งพื้น
เป็นโถปัสสาวะที่สามารถติดตั้งโดยใช้วิธียึดตัวโถเข้ากับพื้นส่วนใหญ่ นิยมใช้โถปัสสาวะที่มีท่อน้ำทิ้งแบบเข้าผนัง เพราะติดตั้งได้ง่ายและสะดวก

จุดเด่นของโถปัสสาวะชาย

ช่วยแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน
โถปัสสาวะชายช่วยให้พื้นที่ห้องน้ำแบ่งเป็นสัดส่วนได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการตกแต่งแบบแยกส่วนเปียก และส่วนแห้ง

ทำความสะอาดง่าย
โถปัสสาวะชาย ช่วยให้การทำความสะอาดง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องคราบที่อาจเกิดขึ้นบนโถสุขภัณฑ์หรือน้ำกระเซ็นเปื้อนพื้น นอกจากนี้ตัวโถปัสสาวะยังมีการเคลือบสาร CEFIONTECT ซึ่งทำให้สุขภัณฑ์เรียบลื่นขจัดสิ่งสกปรกได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับฟลัชวาล์วระบบเซ็นเซอร์ในตัวที่มาพร้อมระบบชำระล้างอัตโนมัติ ช่วยให้คุณไม่ต้องสัมผัสปุ่มกดหรือก้านกดชำระหลังจากใช้งาน ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโรค รวมถึงหมดกังวลกับปัญหาเรื่องการลืมกดชำระไปได้เลย

ประหยัดน้ำ
โถปัสสาวะชายนั้นใช้น้ำน้อยกว่าการชำระล้างของโถสุขภัณฑ์ทั่วไปได้เพิ่มเทคโนโลยี EWATER+ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้น้ำผ่านกระบวนการอิเล็กโตรไลซ์ มีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งทำให้ชำระล้างโถปัสสาวะได้สะอาดหมดจด



5 เทคนิคในการเลือกซื้อโถปัสสาวะชาย

1. พื้นที่สำหรับติดตั้งโถปัสสาวะชาย
ควรเลือกโถปัสสาวะชายให้เหมาะกับขนาดห้องน้ำ โดยโถปัสสาวะแบบตั้งพื้นเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป และได้ทุกวัย ตัวโถจึงมักมีขนาดใหญ่กว่าแบบแขวนผนังที่เหมาะสำหรับห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัด แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันโถปัสสาวะชายแบบตั้งพื้นก็ได้รับการพัฒนาและออกแบบให้มีขนาดเล็กลง เหมาะสำหรับติดตั้งในบ้านมากยิ่งขึ้น

2. ระบบชำระล้าง
ควรเลือกใช้โถปัสสาวะชายที่มีระบบชำระล้างหมดจดโดยไม่ทิ้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ และควรเลือกแบบที่ใช้น้ำน้อยกว่าโถสุขภัณฑ์ทั่วไป ที่จะช่วยประหยัดน้ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

3. ดีไซน์ของโถปัสสาวะชาย
สำหรับผู้ที่ใส่ใจทั้งดีไซน์และการใช้งาน ควรเลือกโถปัสสาวะชายที่ออกแบบอย่างทันสมัย เหมาะสำหรับการตกแต่งหลากหลายสไตล์ตามความชอบของผู้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยสร้างความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

4. ฟังก์ชั่นเสริม
นอกจากระบบชำระล้างและระบบประหยัดน้ำแล้ว การเลือกโถปัสสาวะชายก็ควรดูที่ฟังก์ชั่นอื่น ๆ ด้วย เช่น ระบบเซ็นเซอร์ที่ช่วยชำระล้างอัตโนมัติ ระบบประหยัดไฟ ไปจนถึงระบบที่ช่วยสร้างน้ำบริสุทธิ์ภายในตัวโถ ช่วยให้โถปัสสาวะสะอาดมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี

5. การทำความสะอาด
สุดท้าย คือ การทำความสะอาด ควรเลือกใช้โถปัสสาวะชายที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย มีพื้นผิวเรียบลื่นเป็นพิเศษ ช่วยให้คราบสกปรกและเชื้อโรคที่มองไม่เห็นเกาะติดได้ยาก อีกทั้งยังลดปริมาณการใช้สารเคมีสำหรับทำความสะอาดได้อีกด้วย

วิธีการทำความสะอาดและดูแลโถปัสสาวะชาย
1. ฉีดน้ำยาทำความสะอาดให้ทั่ว
เริ่มต้นด้วยการฉีดน้ำยาทำความสะอาดให้ทั่วโถปัสสาวะชาย โดยเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีฤทธิ์เป็นกรด เพราะน้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นกรดอาจกัดกร่อน และทำลายพื้นผิวให้เป็นรอยได้

2. ปล่อยให้น้ำยาไหลลงทั่วโถปัสสาวะ
ยังไม่ต้องใช้ฟองน้ำทำความสะอาดทันที ควรปล่อยให้น้ำยาทำความสะอาดบางส่วนไหลทั่วโถปัสสาวะ และปล่อยให้น้ำยาไหลลงท่อระบายน้ำเล็กน้อย

3. ใช้ฟองน้ำทำความสะอาด
ใช้ฟองน้ำหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ขัดน้ำยาทำความสะอาดให้ทั่ว ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าหยาบหรือสกปรก เพราะจะทำให้เกิดร่องรอยบนพื้นผิวโถปัสสาวะชายได้

4. ใช้แปรงขนนุ่มขัดบริเวณที่มีคราบสกปรก
นอกจากการใช้ฟองน้ำแล้ว ควรใช้แปรงที่มีขนนุ่ม เช่น แปรงสีฟัน สำหรับขัดซอกมุมที่เข้าไม่ถึง หรือบริเวณที่มีคราบสกปรกเกาะติด

5. ตรวจสอบระบบระบายน้ำ
นอกจากความสะอาดของโถปัสสาวะชายแล้ว ควรตรวจสอบระบบระบายน้ำให้ดีว่าทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหรือไม่ เพราะหากระบบระบายน้ำมีปัญหาก็อาจทำให้โถปัสสาวะชำระล้างไม่หมดจด ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมไปถึงอาจทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียที่มองไม่เห็นสะสมตัวอยู่ได้

โถปัสสาวะชายอาจเป็นสุขภัณฑ์ห้องน้ำที่หลายคนอาจมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วมีความสำคัญกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะช่วยสร้างสุขอนามัยที่ดีภายในบ้าน และยังช่วยประหยัดน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นสุขภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีเพื่อความสะอาดเข้ามาเป็นตัวช่วยในการดูแลรักษาแล้ว ก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานได้ไม่น้อย

13
ความเสี่ยง
        ประกันแบบออมทรัพย์: ความเสี่ยงต่ำ เงินต้นได้รับการคุ้มครอง และมีการจ่ายเงินคืนแน่นอนเมื่อครบกำหนดสัญญา
        การลงทุน: มีความเสี่ยงสูงกว่า ผลตอบแทนอาจผันผวนตามสภาพตลาด การลงทุนมีโอกาสสูญเสียเงินต้น

    ความคุ้มครอง
        ประกันแบบออมทรัพย์: นอกจากผลตอบแทน ยังให้ความคุ้มครองชีวิต หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ครอบครัวจะได้รับเงินประกัน
        การลงทุน: ไม่มีความคุ้มครองชีวิตหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ต้องพึ่งพาการลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเท่านั้น

    ความมั่นคงทางการเงิน
        ประกันแบบออมทรัพย์: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงและไม่ต้องการรับความเสี่ยงในการลงทุน
        การลงทุน: เหมาะสำหรับผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงและต้องการโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงกว่า

    การวางแผนระยะยาว
        ประกันแบบออมทรัพย์: มีระยะเวลาคงที่และการจ่ายเงินคืนตามกำหนด ช่วยให้วางแผนการเงินระยะยาวได้ง่ายสะสมทรัพย์
        การลงทุน: ผลตอบแทนอาจผันผวนและไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่นอน ทำให้การวางแผนระยะยาวอาจซับซ้อนกว่า

    ผลตอบแทน
        ประกันแบบออมทรัพย์: ผลตอบแทนอาจต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุน แต่มั่นคงและรับประกัน
        การลงทุน: มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง แต่ต้องแลกกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น



    สภาพคล่อง
        ประกันแบบออมทรัพย์: การถอนเงินก่อนครบกำหนดอาจมีค่าธรรมเนียมหรือผลตอบแทนลดลง
        การลงทุน: สภาพคล่องขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ เช่น หุ้นมีสภาพคล่องสูงกว่าอสังหาริมทรัพย์

    การบริหารจัดการ
        ประกันแบบออมทรัพย์: ไม่ต้องใช้เวลาหรือความรู้ในการบริหารจัดการ บริษัทประกันจะดูแลทั้งหมด
        การลงทุน: ต้องใช้เวลาและความรู้ในการติดตามและบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนเอง

    ประโยชน์ทางภาษี
        ประกันแบบออมทรัพย์: เบี้ยประกันบางส่วนสามารถนำไปเป็นประกันลดหย่อนภาษีได้
        การลงทุน: อาจมีประโยชน์ทางภาษีในบางกรณี เช่น การลงทุนใน RMF หรือ SSF แต่ต้องมีเงื่อนไขที่ซับซ้อนกว่า

    การถ่ายทอดมรดก
        ประกันแบบออมทรัพย์: สามารถกำหนดผู้รับผลประโยชน์ได้ชัดเจน และกระบวนการส่งต่อเป็นมรดกทำได้ง่าย
        การลงทุน: การถ่ายทอดมรดกจากการลงทุนอาจซับซ้อน ขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ที่ถือครอง

    ความยืดหยุ่น
        ประกันแบบออมทรัพย์: มีความยืดหยุ่นน้อยกว่า เพราะต้องทำตามสัญญาที่กำหนดไว้
        การลงทุน: มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับพอร์ตหรือเปลี่ยนแปลงการลงทุนตามสถานการณ์ได้ตลอดเวลา

การเลือกประกันแบบออมทรัพย์หรือการลงทุนขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ทางการเงิน ความสามารถในการรับความเสี่ยง และความต้องการของแต่ละบุคคล การผสมผสานทั้งสองรูปแบบอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

14
ไทยประกันชีวิต ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ New Normal พัฒนารูปแบบการเสนอขายประกันชีวิต Digital Face to Face( ประกันออนไลน์ ) อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและฝ่ายขาย ขานรับนโยบาย Social Distancing ของภาครัฐ ลดเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19

ไทยประกันชีวิตมุ่งเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions พร้อมเคียงข้างลูกค้าและคนไทยในทุกสถานการณ์ ดังนั้น  เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจทำประกันชีวิตกับบริษัทฯ และสนับสนุนการทำงานของบุคลากรฝ่ายขาย ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19   รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องกับประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต และธนาคาร ในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ.2563

บริษัทฯ จึงพัฒนาระบบการขายประกันชีวิตในรูปแบบ Digital Face-to-Face ซึ่งเป็นรูปแบบการเสนอขายผ่านระบบออนไลน์ สำหรับประกันชีวิตประเภทรายงวด สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ สัญญาเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุ   แต่ไม่ครอบคลุมถึงสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง หรือประกันควบการลงทุน (Unit-Linked / Universal Life) ซึ่งเป็นกรมธรรม์ที่มีความซับซ้อนและมีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

รูปแบบการขาย Digital Face-to-Face ตัวแทนไทยประกันชีวิตสามารถนำเสนอแบบประกันแก่ลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ เฟซบุ๊ก, ไลน์ หรืออีเมล โดยตัวแทนจะกรอกข้อมูลของลูกค้าในใบคำขอเอาประกันภัย และเอกสารประกอบการเสนอขายผ่าน Application TL Pro Plus หลังจากนั้นจึงส่งให้ลูกค้าตรวจสอบความถูกต้องผ่านช่องทางที่ได้นำเสนอขาย ซึ่งลูกค้าจะต้องส่งเอกสารประกอบการทำประกันชีวิต ได้แก่ ภาพบัตรประชาชนพร้อมลงนามรับรอง และภาพถ่ายหน้าตรงของลูกค้าคู่กับบัตรประชาชนให้ตัวแทน โดยตัวแทนจะจัดส่งเอกสารดังกล่าวประกอบกับภาพที่ระบุข้อความตกลงทำประกันชีวิตของลูกค้า เพื่อให้บริษัทฯ พิจารณาผ่าน Application TL Pro Plus 



สำหรับการชำระเบี้ยประกันภัย ลูกค้าเพียงสแกน QR Code ที่ได้รับจากตัวแทน ก็สามารถชำระเบี้ยฯ ผ่าน Mobile Banking ได้ทันที โดยระบบจะส่งใบเสร็จรับเงินชั่วคราวให้ลูกค้าสำหรับเป็นหลักฐานต่อไป ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า ภายหลังจากกรมธรรม์ได้รับการอนุมัติ หรือส่งมอบกรมธรรม์แล้ว บริษัทฯ จะติดต่อลูกค้าทางโทรศัพท์ เพื่อยืนยันการสมัครทำประกันชีวิต รวมถึงแจ้งรายละเอียดแบบประกันอีกครั้ง

บนสถานการณ์ที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของตัวแทนในการเข้าพบลูกค้า ขณะเดียวกันเพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทางและพบปะทั้งของตัวแทนและลูกค้า บริษัทฯ จึงพัฒนาระบบการขายให้สอดรับกับสถานการณ์ เพื่อให้การทำประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น โดยไทยประกันชีวิตมีตัวแทน Life Partner คอยดูแลและให้บริการ และสามารถติดต่อตัวแทนไทยประกันชีวิตทั่วประเทศ อย่าให้ความพะวง เป็นต้นเหตุให้คนที่คุณห่วง และคนที่รักสุดดวงใจ ต้องทุกข์ใจเพราะเราลืมเติมคำว่า อนาคตให้กับครอบครัวอีกเลย ซื้อประกันให้พ่อแม่

15
ถ้าพูดถึงการวางแผนทางเงินแบบเบสิกแล้ว โดยทั่วไปหลายคนจะมีวิธีการออมเงินในรูปแบบการประกันชีวิต โดยการฝากเงินในรูปแบบการประกันชีวิต ซึ่งเป็นการวางแผนทางการเงินแบบความเสี่ยงต่ำ เพื่อรักษาเงินต้นไม่ให้หายไป แต่ก็ต้องยอมรับสิ่งที่ตามมาว่าเราจะได้รับผลตอบแทนที่น้อย ยิ่งปัจจุบันเป็นยุคที่มีอัตราดอกเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น แต่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดลงเรื่อยๆ แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องมองหาแผนทางการเงินใหม่เพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ประกันออมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับพิจารณาในการวางแผน

เปลี่ยนเงินฝากมาเป็นประกันออมทรัพย์ หรือ ประกันสะสมทรัพย์ ดีกว่าอย่างไร
ก่อนอื่น เราจำเป็นต้องทำความรู้จักกับ ประกันออมทรัพย์ หรือ ประกันสะสมทรัพย์ กันก่อน ซึ่งประกันออมทรัพย์เป็นประกันอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีหลักการคือเน้นการสะสมเงิน (ออมเงินในรูปแบบการประกันชีวิต) พร้อมกับความคุ้มครองชีวิตเพิ่มขึ้นมา โดยเราจำเป็นต้องส่งเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่กรมธรรม์ระบุไว้ เมื่อครบกำหนดประกันออมทรัพย์ก็จะจ่ายเงินคืนให้เรา ซึ่งการจ่ายเงินคืนนี้จะเป็นไปตามที่เราตกลง โดยทั่วไปแล้วจะมีการจ่ายคืนเป็นก้อน หรือจ่ายเงินคืนระหว่างทางตลอดสัญญา และในกรณีที่เราเสียชีวิตระหว่างที่ส่งกรมธรรม์ ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินก้อนที่เรียกว่า "จำนวนเงินเอาประกัน" ตามที่ระบุไว้ในกรรมธรรม์
ผลตอบแทนมากกว่า
ผลตอบแทนของประกันออมทรัพย์นั้นเราจำเป็นต้องดูจากผลประโยชน์เกี่ยวกับเงินปันผล เงินคืน และเงินครบกำหนดสัญญา ซึ่งถ้ามีการจ่ายคืนแบบ "คงที่" ตรงนี้เราสามารถคำนวณจำนวนเงินได้ทันที ซึ่งมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ดังนั้นประกันออมทรัพย์จึงเหมาะสำหรับใครที่มีเป้าหมายเพื่อออมเงินในรูปแบบการประกันชีวิต และทำประกันชีวิตไปพร้อมๆ กัน ซึ่งตรงนี้ให้ผลตอบแทนที่มากกว่าและตรงใจ



ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้
เงินที่ได้รับจากประกันออมทรัพย์นั้นจะไม่มีการเสียภาษีใดๆ นั่นหมายถึงเราจะได้รับเงินเต็มจำนวนเมื่อครบกำหนดสัญญาของประกันออมทรัพย์ ทั้งนี้ยังสามารถใช้สิทธิเพื่อลดหย่อนภาษีได้เมื่อประกันออมทรัพย์ที่มีอายุกรรมธรรม์และคุ้มครองมากกว่า 10 ปีขึ้นไป สามารถลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลได้สูงสุดปีละ 100,000 บาท

ได้รับความคุ้มครองเพิ่ม
การวางแผนทางการเงินในรูปแบบประกันออมทรัพย์ นอกจากจะเป็นการสะสมทรัพย์แล้ว ยังมีการคุ้มครองชีวิตเพิ่มเข้ามาด้วย เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือไม่คาดฝันขึ้น ยังมีความคุ้มครองจากประกันออมทรัพย์ที่จะช่วยคุ้มครองดูแลเราและครอบครัว นอกจากนี้ยังสามารถซื้อประกันอื่นๆ เพิ่มเติมได้เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ โดยที่จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล รวมถึงเงินชดเชยรายได้ระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน
การลงทุนในรูปแบบประกันออมทรัพย์ ถือเป็นการลงทุนระยะยาวและสม่ำเสมอ เป็นการสร้างวินัยในการออมในรูปแบบการประกันชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อครบสัญญาตามกรมธรรม์ ผู้ที่ถือประกันจะได้รับผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามกำหนด นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในด้านการลงทุนหรือวางแผนอนาคตได้อย่างมั่นคง นั่นก็คือ สามารถกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำจากมูลค่าเวนคืนเงินสดตามกรมธรรม์ได้ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับใครที่ต้องการทำการลงทุน

การฝากเงินธรรมดาทั่วไปให้ผลตอบแทนที่น้อยมากในปัจจุบัน และยังต้องมีการเสียภาษี ซึ่งประกันเหมาจ่าย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกทางเลือกที่ดี เพื่อเพิ่มเติมผลตอบแทนในระยะยาว และยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ แน่นอนว่าข้อดีนี้เหมาะกับใครที่มีรายได้เข้าเกณฑ์เสียภาษี ที่สำคัญยังเหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาการคุ้มครองชีวิต สุขภาพ รวมถึงอุบัติเหตุ ไว้ให้กับตนเองและครอบครัวอีกด้วย

หน้า: [1] 2 3






 


แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.

©2013 carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com

789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999