ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Home Car Show Super Car & Import Car Off Road Car Stereo Eenergy Business Wheel & Tires Classifieds Webboard
Sport World Home & Condo Motor Cycle Cycle Bike Review & TestDrive Classic Car Motor Sport Pretty Show Sexy Lady Society News









ผู้เขียน หัวข้อ: Nissan Silvia S14 สปอร์ตพันธุ์แรงเต็มพิกัด ^^  (อ่าน 4952 ครั้ง)

กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
Nissan Silvia S14 สปอร์ตพันธุ์แรงเต็มพิกัด ^^
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 07:58:21 PM »
 :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2:

 

Nissan Silvia S14
สปอร์ตพันธุ์แรงเต็มพิกัด
ที่ผ่านมาจะเห็นว่ารถสปอร์ตพันธุ์แรงที่นำเข้ามาขายนั้นมีอยู่น้อยยี่ห้อและไม่กี่รุ่น  โดยเฉพาะค่ายนิสสัน รุ่นที่พอจะเชิดหน้าชูตาจนเป็นที่รู้จักก็มีแต่สกายไลน์ ซึ่งเป็นสปอร์ตตัวแรงที่นักเลงรถต่างยอมรับในสมรรถนะ และเช่นเดียวกัน Nissan Silvia S14 ที่นำมาอวดกันนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่พกความแรงมามากโข เพราะได้สลับลงเครื่องตัวแรงต่างค่าย พร้อมกับโมดิฟายเต็มพิกัด จึงส่งผลให้สามารถตอบสนองความเร็วได้อย่างสะใจ
   สำหรับ Nissan Silvia S14 นั้นเป็นรถปี 1996 บอดี้รหัส  SBS 14  ที่นำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย  ซึ่งสนนราคาป้ายแดงนั้นหลายล้านทีเดียว แม้ขณะนี้กลายเป็นมือสองก็ยังอยู่หลักล้าน  แต่คันนี้ถ้าคนที่รู้จักรถรุ่นนี้ดี แค่แรกเห็นต้องทราบทันทีว่าได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ให้ดูเฉี่ยวขึ้น พร้อมกับเสริมบอดี้พาร์ทให้ปราดเปรียว และที่สำคัญขุมพลังได้ฝังบล็อกเครื่องโตโยต้า รหัส 2 JZ-GTE ที่เล่นโมดิฟายครบสูตร ผนวกกับการสลับเทอร์โบให้ใหญ่ขึ้นตามสเตป       

ปรับโฉมจากหน้าหมูเป็นเหยี่ยว
เสริมหล่อบอดี้ด้วยชุดแต่ง ING
   แค่เห็นรูปทรงของ Silvia S14 โดยรวมก็ต้องบอกว่าพอใจในความเป็นสปอร์ตที่ดีไซน์ออกมาได้อย่างลงตัว ซึ่งเดิมทีหน้าตาของรุ่นนี้ไม่ค่อยถูกใจ  เพราะถูกขนานนามว่า “หน้าหมู” ที่ฟังดูแล้วไม่ค่อยเข้าท่า ไม่สมกับความเป็นรถสปอร์ตเท่าไหร่  และนั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องทำการศัลยกรรมหน้าตาใหม่ให้เฉี่ยวขึ้น ด้วยการปรับแต่งให้เป็น “หน้าเหยี่ยว” ที่ดูแล้วเข้าท่ากว่า
   ต่อมาได้เสริมหล่อด้วยชุดแต่งบอดี้พาร์ทของ ING จากญี่ปุ่น ที่สั่งตรงมาเพื่อเพิ่มมัดกล้ามให้กับเจ้า Silvia ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าที่เปิดช่องกลางทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและช่องด้านข้าง ส่วนฝากระโปรงหน้าแต่งสาดดำให้ดูดุดัน พร้อมมีลูกเล่นด้วยการเจาะช่องระบายความร้อนเครื่องยนต์อย่างมีดีไซน์ แถมด้วยตัวล็อกฝากระโปรงถึง 4 ตัว  ส่วนแก้มข้างจะมีโป่งในตัว และออกแบบให้เว้าได้สวยงาม ขณะที่สเกิร์ตข้างนั้นแนบติดกับชายล่างด้านข้างได้อย่างลงตัว
      มาที่กระจกส่องข้างจับเอาของ Garnador ในแบบเคฟลาร์มาให้ดูสะดุดตาเล่น  เช่นเดียวกับไฟท้ายที่โชว์อยู่ด้านหลัง มาในแบบฝาขาวที่ฝังไฟดวงกลมแบบโดนัทอยู่ภายใน ช่วยให้มีมุมมองมากขึ้น ควบคู่ไปกับกันชนหลังที่เผยให้เห็นความอวบใหญ่ที่มีชายล่างด้านข้างเทลง แถมที่ใต้กันชนยังมีหม้อพักใบปลายขนาดใหญ่ของ Greddy ไว้ส่งเสียงคำรามให้ดูน่าเกรงขาม       

ลง 2JZ-GTE รหัสความแรง
โมเต็มสูตรยัดไส้ในสลับโบใหญ่
   จากการที่ Silvia S14 เป็นรถสปอร์ต แน่นอนว่าความแรงที่ติดตัวมาก็ไม่ใช่น้อย เพราะขุมพลังบล็อกเครื่อง 4 สูบ จากตระกูล SR 20 DET ขนาด 1998 ซี.ซี. แบบ DOHC 16 Valve นั้นสามารถถ่ายทอดแรงม้าออกมาได้ถึง 220 ตัว ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุดที่ 28 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที ซึ่งว่าไปแล้วก็แรงสมตัว แต่สำหรับคันนี้ไม่พอ จึงได้จับยัดบล็อกเครื่องขนาด 6สูบของ 2JZ-GTE แบบ DOHC 24 Valve  เข้าไปแทน  เลยทำให้ต้องขยายห้องเครื่อง
   สำหรับพละกำลังของเครื่อง 2JZ-GTE ตามสเปกให้กำลังสูงสุด 280  แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 4 กก.-ม.ที่3,600 รอบ/นาที ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องเดิมแล้วทั้งแรงม้าและแรงบิดห่างกันพอตัว พร้อมกันนั้นยังได้โมดิฟายขยายไซซ์จาก 3000 ซี.ซี. มาเป็น 3200 ซี.ซี. โดยการคว้านกระบอกสูบสลับลูกสูบฟอร์จ กับก้านสูบของ Egle จากอเมริกา ตามมาด้วยแคมชาฟต์ไอดี ไอเสีย และเฟืองแคมสไลด์ของ HKS ส่วนหัวเทียนเป็นของ HKS เบอร์ 9 ไว้ใช้จุดระเบิด และหม้อน้ำอะลูมิเนียมของ Greddy  รวมไปถึงปั๊มจ่ายน้ำมันนอกถังของ NG8 ถึง 2 ตัว ที่สามารถดูดน้ำมันได้ 400 ลิตร/ชม. และเรกูเลเตอร์ของ Nismo เพื่อส่งไปยังหัวฉีดของ Greddy ขนาด 850 ซี.ซี.จำนวน 6 หัว
   มาที่การปรับแต่งเทอร์โบเดิมที่เป็นเทอร์โบเดี่ยวขนาดพอเหมาะ แต่ได้ทำการขยับมาเป็นเทอร์โบใบใหญ่ของ Greedy รุ่น T88 ที่มีโข่งหลัง 20 G  ที่สามารถอัดอากาศเข้าไปในกระบอกสูบได้มากกว่าเท่าตัว โดยเวสต์เกตของ Greedy Type R ได้ตั้งบูสต์ไว้ที่ 2 บาร์ และโบลว์ออฟวาล์วของ Blitz รุ่น Super Sound อีก 2 ตัว เพื่อให้สามารถปล่อยไอดีที่เหลือทิ้งได้เร็วขึ้น พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ใบไม่เล็กของ HKS ขนาด  4 นิ้ว กับกรองอากาศเปลือยหัวเห็ดของ HKS และสลับลิ้นปีกผีเสื้อมาเป็นของนิสสัน V45 คู่กับท่อรวมไอดีแต่งแบบอะลูมิเนียมของตาสิทธิ์ สวนส้มบางมด   และสุดท้ายได้อาศัยกล่อง F-CON V PRO ของ HKS ไว้ควบคุมความแรง 

ลงชุดคลัตช์แต่งกับเฟืองเกียร์ OS   
ช็อกแอบฯ Tein ติดเบรก Brembo
   สำหรับในส่วนของระบบถ่ายทอดกำลังก็ต้องสามารถรองรับขุมพลังแรงได้  โดยได้คบหากับชุดคลัตช์แต่งที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะรถเรซิ่ง นั่นก็คือ  OS TIPPLE  PLATE ที่มีแผ่นคลัตช์ถึง  3 แผ่น จึงมีประสิทธิภาพในการจับติดแน่นกับฟลายวีลเพื่อให้สามารถถ่ายทอดแรงม้าออกไปได้เต็มที่ และในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะแยกออกจากกันได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้สามารถสับเกียร์ได้ทันใจ ส่งผลกำลังออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้เปลี่ยนเฟืองเกียร์ทั้งชุดเป็นของ OS ด้วย
   มาที่ระบบช่วงล่างก็ต้องเซตให้ลงตัวเช่นกัน ดังนั้นจึงมั่นใจในคุณภาพของช็อกแอบฯ ยี่ห้อ Tein กระบอกเขียว ซึ่งรองรับไว้ทั้งหน้า-หลัง โดยเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวที่ปรับสูง-ต่ำได้ถึง 40 เกลียว ที่สำคัญปรับความหนืดของช็อกแอบฯ ได้ถึง 16 ระดับตามความต้องการ ส่วนระบบเบรกนั้นก็ไม่เป็นรองใคร ด้านหน้าคว้าเอาชุดเบรกจากสนามแข่งยี่ห้อ Brembo ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 4 พอร์ท แต่ด้านหลังเป็นเบรกของ Skyline 32 GTR ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 2 พอร์ท   

ภายในสปอร์ตครบ อุปกรณ์แรง
โชว์เกจยกชุดจากแบรนด์ Defi   
   เมื่อเข้ามาดูภายในห้องโดยสารของ Silvia S14  ที่ไม่ค่อยกว้างขวางตามสไตล์รถสปอร์ต  แต่ก็รับกับการออกแบบให้สมส่วนที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกได้ครบครัน ในขณะเดียวกันได้ทำการตกแต่งตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบสามก้านของ Sparco ที่มาในแบบหนังกลับ จึงจับกระชับมือ หมุนคล่องตัว พร้อมกับหัวเกียร์อะลูมิเนียมขนาดเล็ก รวมไปถึงเบาะนั่งที่เหลือเพียงเบาะคนขับ แต่สลับมาเป็นเบาะบัคเกตซีตของ Recaro แบบหลังแข็งสีแดง (ไม่สามารถปรับเอนได้) ที่ออกแบบให้โอบกระชับลำตัวผู้ขับขี่ได้อย่างดี แถมติดแป้นเหยียบของ Razo  กับ Levoc   
   ส่วนอุปกรณ์สำหรับตรวจสอบความแรงนั้นก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะเกจวัด ซึ่งงานนี้คบหาแต่ยี่ห้อ Defi รุ่นหน้ามืด ที่ฝังเรียงรายอยู่ที่คอนโซลหน้าฝั่งซ้าย ไม่ว่าจะเป็นเกจวัด IN-MF Press ที่มีไว้สำหรับวัดแรงดันน้ำมันตอนบูสต์ 2 บาร์ เกจวัด Fuel Press เกจวัด Oil Press เกจวัด  Oil  Temp.   และเกจวัด Water Temp. ซึ่งเปิดขึ้นหน้าจะสว่างขึ้น  ตามติดมาด้วยพิลลาร์ที่แปะติดอยู่ข้างเสาหน้าข้างขวา ได้ฝังเกจวัดอีกสองตัวเป็นเกจวัด Boost กับเกจวัด  Ext. Temp.
      แค่นั้นไม่พอยังมีเกจวัดรอบตัวใหญ่ของ Defi แบบมีชิฟต์ไลท์ในตัวที่สามารถตั้งรอบเครื่องได้ และไฟของชิฟต์ไลท์จะแสดงผลต่อเมื่อเร่งรอบตามที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง และยังมีตัวปรับบูสต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Ggreddy รุ่น Profect  B-Spec II ที่ง่ายต่อการปรับบูสต์ได้ตามที่ต้องการ  แถมด้วยเทอร์โบไทเมอร์ของ APEXi รุ่นปากกา ที่วางไว้ตรงไหนก็ได้เพราะมีขนาดเล็กแต่ใช้งานดี
     ถึงแม้ว่า Nissan Silvia คันนี้จะปรับแต่งมาจนเต็มสูตร ทำให้สามารถสร้างแรงม้าออกมาได้มากกว่า 700 ตัว ซึ่งแรงระดับนี้น่าจะไว้ใช้ขับแข่งในสนามเท่านั้น 





กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
Re: Nissan Silvia S14 สปอร์ตพันธุ์แรงเต็มพิกัด ^^
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 01, 2014, 04:58:44 PM »
 :-* :-* :-* :-* :-* :-* :-* :-* :-* :-* :-*


Nissan Silvia S14
สปอร์ตพันธุ์แรงเต็มพิกัด
ที่ผ่านมาจะเห็นว่ารถสปอร์ตพันธุ์แรงที่นำเข้ามาขายนั้นมีอยู่น้อยยี่ห้อและไม่กี่รุ่น  โดยเฉพาะค่ายนิสสัน รุ่นที่พอจะเชิดหน้าชูตาจนเป็นที่รู้จักก็มีแต่สกายไลน์ ซึ่งเป็นสปอร์ตตัวแรงที่นักเลงรถต่างยอมรับในสมรรถนะ และเช่นเดียวกัน Nissan Silvia S14 ที่นำมาอวดกันนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่พกความแรงมามากโข เพราะได้สลับลงเครื่องตัวแรงต่างค่าย พร้อมกับโมดิฟายเต็มพิกัด จึงส่งผลให้สามารถตอบสนองความเร็วได้อย่างสะใจ
   สำหรับ Nissan Silvia S14 นั้นเป็นรถปี 1996 บอดี้รหัส  SBS 14  ที่นำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย  ซึ่งสนนราคาป้ายแดงนั้นหลายล้านทีเดียว แม้ขณะนี้กลายเป็นมือสองก็ยังอยู่หลักล้าน  แต่คันนี้ถ้าคนที่รู้จักรถรุ่นนี้ดี แค่แรกเห็นต้องทราบทันทีว่าได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ให้ดูเฉี่ยวขึ้น พร้อมกับเสริมบอดี้พาร์ทให้ปราดเปรียว และที่สำคัญขุมพลังได้ฝังบล็อกเครื่องโตโยต้า รหัส 2 JZ-GTE ที่เล่นโมดิฟายครบสูตร ผนวกกับการสลับเทอร์โบให้ใหญ่ขึ้นตามสเตป       

ปรับโฉมจากหน้าหมูเป็นเหยี่ยว
เสริมหล่อบอดี้ด้วยชุดแต่ง ING
   แค่เห็นรูปทรงของ Silvia S14 โดยรวมก็ต้องบอกว่าพอใจในความเป็นสปอร์ตที่ดีไซน์ออกมาได้อย่างลงตัว ซึ่งเดิมทีหน้าตาของรุ่นนี้ไม่ค่อยถูกใจ  เพราะถูกขนานนามว่า “หน้าหมู” ที่ฟังดูแล้วไม่ค่อยเข้าท่า ไม่สมกับความเป็นรถสปอร์ตเท่าไหร่  และนั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องทำการศัลยกรรมหน้าตาใหม่ให้เฉี่ยวขึ้น ด้วยการปรับแต่งให้เป็น “หน้าเหยี่ยว” ที่ดูแล้วเข้าท่ากว่า
   ต่อมาได้เสริมหล่อด้วยชุดแต่งบอดี้พาร์ทของ ING จากญี่ปุ่น ที่สั่งตรงมาเพื่อเพิ่มมัดกล้ามให้กับเจ้า Silvia ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าที่เปิดช่องกลางทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและช่องด้านข้าง ส่วนฝากระโปรงหน้าแต่งสาดดำให้ดูดุดัน พร้อมมีลูกเล่นด้วยการเจาะช่องระบายความร้อนเครื่องยนต์อย่างมีดีไซน์ แถมด้วยตัวล็อกฝากระโปรงถึง 4 ตัว  ส่วนแก้มข้างจะมีโป่งในตัว และออกแบบให้เว้าได้สวยงาม ขณะที่สเกิร์ตข้างนั้นแนบติดกับชายล่างด้านข้างได้อย่างลงตัว
      มาที่กระจกส่องข้างจับเอาของ Garnador ในแบบเคฟลาร์มาให้ดูสะดุดตาเล่น  เช่นเดียวกับไฟท้ายที่โชว์อยู่ด้านหลัง มาในแบบฝาขาวที่ฝังไฟดวงกลมแบบโดนัทอยู่ภายใน ช่วยให้มีมุมมองมากขึ้น ควบคู่ไปกับกันชนหลังที่เผยให้เห็นความอวบใหญ่ที่มีชายล่างด้านข้างเทลง แถมที่ใต้กันชนยังมีหม้อพักใบปลายขนาดใหญ่ของ Greddy ไว้ส่งเสียงคำรามให้ดูน่าเกรงขาม       

ลง 2JZ-GTE รหัสความแรง
โมเต็มสูตรยัดไส้ในสลับโบใหญ่
   จากการที่ Silvia S14 เป็นรถสปอร์ต แน่นอนว่าความแรงที่ติดตัวมาก็ไม่ใช่น้อย เพราะขุมพลังบล็อกเครื่อง 4 สูบ จากตระกูล SR 20 DET ขนาด 1998 ซี.ซี. แบบ DOHC 16 Valve นั้นสามารถถ่ายทอดแรงม้าออกมาได้ถึง 220 ตัว ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุดที่ 28 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที ซึ่งว่าไปแล้วก็แรงสมตัว แต่สำหรับคันนี้ไม่พอ จึงได้จับยัดบล็อกเครื่องขนาด 6สูบของ 2JZ-GTE แบบ DOHC 24 Valve  เข้าไปแทน  เลยทำให้ต้องขยายห้องเครื่อง
   สำหรับพละกำลังของเครื่อง 2JZ-GTE ตามสเปกให้กำลังสูงสุด 280  แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 4 กก.-ม.ที่3,600 รอบ/นาที ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องเดิมแล้วทั้งแรงม้าและแรงบิดห่างกันพอตัว พร้อมกันนั้นยังได้โมดิฟายขยายไซซ์จาก 3000 ซี.ซี. มาเป็น 3200 ซี.ซี. โดยการคว้านกระบอกสูบสลับลูกสูบฟอร์จ กับก้านสูบของ Egle จากอเมริกา ตามมาด้วยแคมชาฟต์ไอดี ไอเสีย และเฟืองแคมสไลด์ของ HKS ส่วนหัวเทียนเป็นของ HKS เบอร์ 9 ไว้ใช้จุดระเบิด และหม้อน้ำอะลูมิเนียมของ Greddy  รวมไปถึงปั๊มจ่ายน้ำมันนอกถังของ NG8 ถึง 2 ตัว ที่สามารถดูดน้ำมันได้ 400 ลิตร/ชม. และเรกูเลเตอร์ของ Nismo เพื่อส่งไปยังหัวฉีดของ Greddy ขนาด 850 ซี.ซี.จำนวน 6 หัว
   มาที่การปรับแต่งเทอร์โบเดิมที่เป็นเทอร์โบเดี่ยวขนาดพอเหมาะ แต่ได้ทำการขยับมาเป็นเทอร์โบใบใหญ่ของ Greedy รุ่น T88 ที่มีโข่งหลัง 20 G  ที่สามารถอัดอากาศเข้าไปในกระบอกสูบได้มากกว่าเท่าตัว โดยเวสต์เกตของ Greedy Type R ได้ตั้งบูสต์ไว้ที่ 2 บาร์ และโบลว์ออฟวาล์วของ Blitz รุ่น Super Sound อีก 2 ตัว เพื่อให้สามารถปล่อยไอดีที่เหลือทิ้งได้เร็วขึ้น พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ใบไม่เล็กของ HKS ขนาด  4 นิ้ว กับกรองอากาศเปลือยหัวเห็ดของ HKS และสลับลิ้นปีกผีเสื้อมาเป็นของนิสสัน V45 คู่กับท่อรวมไอดีแต่งแบบอะลูมิเนียมของตาสิทธิ์ สวนส้มบางมด   และสุดท้ายได้อาศัยกล่อง F-CON V PRO ของ HKS ไว้ควบคุมความแรง 

ลงชุดคลัตช์แต่งกับเฟืองเกียร์ OS   
ช็อกแอบฯ Tein ติดเบรก Brembo
   สำหรับในส่วนของระบบถ่ายทอดกำลังก็ต้องสามารถรองรับขุมพลังแรงได้  โดยได้คบหากับชุดคลัตช์แต่งที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะรถเรซิ่ง นั่นก็คือ  OS TIPPLE  PLATE ที่มีแผ่นคลัตช์ถึง  3 แผ่น จึงมีประสิทธิภาพในการจับติดแน่นกับฟลายวีลเพื่อให้สามารถถ่ายทอดแรงม้าออกไปได้เต็มที่ และในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะแยกออกจากกันได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้สามารถสับเกียร์ได้ทันใจ ส่งผลกำลังออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้เปลี่ยนเฟืองเกียร์ทั้งชุดเป็นของ OS ด้วย
   มาที่ระบบช่วงล่างก็ต้องเซตให้ลงตัวเช่นกัน ดังนั้นจึงมั่นใจในคุณภาพของช็อกแอบฯ ยี่ห้อ Tein กระบอกเขียว ซึ่งรองรับไว้ทั้งหน้า-หลัง โดยเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวที่ปรับสูง-ต่ำได้ถึง 40 เกลียว ที่สำคัญปรับความหนืดของช็อกแอบฯ ได้ถึง 16 ระดับตามความต้องการ ส่วนระบบเบรกนั้นก็ไม่เป็นรองใคร ด้านหน้าคว้าเอาชุดเบรกจากสนามแข่งยี่ห้อ Brembo ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 4 พอร์ท แต่ด้านหลังเป็นเบรกของ Skyline 32 GTR ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 2 พอร์ท   

ภายในสปอร์ตครบ อุปกรณ์แรง
โชว์เกจยกชุดจากแบรนด์ Defi   
   เมื่อเข้ามาดูภายในห้องโดยสารของ Silvia S14  ที่ไม่ค่อยกว้างขวางตามสไตล์รถสปอร์ต  แต่ก็รับกับการออกแบบให้สมส่วนที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกได้ครบครัน ในขณะเดียวกันได้ทำการตกแต่งตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบสามก้านของ Sparco ที่มาในแบบหนังกลับ จึงจับกระชับมือ หมุนคล่องตัว พร้อมกับหัวเกียร์อะลูมิเนียมขนาดเล็ก รวมไปถึงเบาะนั่งที่เหลือเพียงเบาะคนขับ แต่สลับมาเป็นเบาะบัคเกตซีตของ Recaro แบบหลังแข็งสีแดง (ไม่สามารถปรับเอนได้) ที่ออกแบบให้โอบกระชับลำตัวผู้ขับขี่ได้อย่างดี แถมติดแป้นเหยียบของ Razo  กับ Levoc   
   ส่วนอุปกรณ์สำหรับตรวจสอบความแรงนั้นก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะเกจวัด ซึ่งงานนี้คบหาแต่ยี่ห้อ Defi รุ่นหน้ามืด ที่ฝังเรียงรายอยู่ที่คอนโซลหน้าฝั่งซ้าย ไม่ว่าจะเป็นเกจวัด IN-MF Press ที่มีไว้สำหรับวัดแรงดันน้ำมันตอนบูสต์ 2 บาร์ เกจวัด Fuel Press เกจวัด Oil Press เกจวัด  Oil  Temp.   และเกจวัด Water Temp. ซึ่งเปิดขึ้นหน้าจะสว่างขึ้น  ตามติดมาด้วยพิลลาร์ที่แปะติดอยู่ข้างเสาหน้าข้างขวา ได้ฝังเกจวัดอีกสองตัวเป็นเกจวัด Boost กับเกจวัด  Ext. Temp.
      แค่นั้นไม่พอยังมีเกจวัดรอบตัวใหญ่ของ Defi แบบมีชิฟต์ไลท์ในตัวที่สามารถตั้งรอบเครื่องได้ และไฟของชิฟต์ไลท์จะแสดงผลต่อเมื่อเร่งรอบตามที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง และยังมีตัวปรับบูสต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Ggreddy รุ่น Profect  B-Spec II ที่ง่ายต่อการปรับบูสต์ได้ตามที่ต้องการ  แถมด้วยเทอร์โบไทเมอร์ของ APEXi รุ่นปากกา ที่วางไว้ตรงไหนก็ได้เพราะมีขนาดเล็กแต่ใช้งานดี
     ถึงแม้ว่า Nissan Silvia คันนี้จะปรับแต่งมาจนเต็มสูตร ทำให้สามารถสร้างแรงม้าออกมาได้มากกว่า 700 ตัว ซึ่งแรงระดับนี้น่าจะไว้ใช้ขับแข่งในสนามเท่านั้น 


กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
 :pee: :pee: :pee: :pee: :pee: :pee: :pee: :pee:


Nissan Silvia S14
สปอร์ตพันธุ์แรงเต็มพิกัด
ที่ผ่านมาจะเห็นว่ารถสปอร์ตพันธุ์แรงที่นำเข้ามาขายนั้นมีอยู่น้อยยี่ห้อและไม่กี่รุ่น  โดยเฉพาะค่ายนิสสัน รุ่นที่พอจะเชิดหน้าชูตาจนเป็นที่รู้จักก็มีแต่สกายไลน์ ซึ่งเป็นสปอร์ตตัวแรงที่นักเลงรถต่างยอมรับในสมรรถนะ และเช่นเดียวกัน Nissan Silvia S14 ที่นำมาอวดกันนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่พกความแรงมามากโข เพราะได้สลับลงเครื่องตัวแรงต่างค่าย พร้อมกับโมดิฟายเต็มพิกัด จึงส่งผลให้สามารถตอบสนองความเร็วได้อย่างสะใจ
   สำหรับ Nissan Silvia S14 นั้นเป็นรถปี 1996 บอดี้รหัส  SBS 14  ที่นำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย  ซึ่งสนนราคาป้ายแดงนั้นหลายล้านทีเดียว แม้ขณะนี้กลายเป็นมือสองก็ยังอยู่หลักล้าน  แต่คันนี้ถ้าคนที่รู้จักรถรุ่นนี้ดี แค่แรกเห็นต้องทราบทันทีว่าได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ให้ดูเฉี่ยวขึ้น พร้อมกับเสริมบอดี้พาร์ทให้ปราดเปรียว และที่สำคัญขุมพลังได้ฝังบล็อกเครื่องโตโยต้า รหัส 2 JZ-GTE ที่เล่นโมดิฟายครบสูตร ผนวกกับการสลับเทอร์โบให้ใหญ่ขึ้นตามสเตป       

ปรับโฉมจากหน้าหมูเป็นเหยี่ยว
เสริมหล่อบอดี้ด้วยชุดแต่ง ING
   แค่เห็นรูปทรงของ Silvia S14 โดยรวมก็ต้องบอกว่าพอใจในความเป็นสปอร์ตที่ดีไซน์ออกมาได้อย่างลงตัว ซึ่งเดิมทีหน้าตาของรุ่นนี้ไม่ค่อยถูกใจ  เพราะถูกขนานนามว่า “หน้าหมู” ที่ฟังดูแล้วไม่ค่อยเข้าท่า ไม่สมกับความเป็นรถสปอร์ตเท่าไหร่  และนั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องทำการศัลยกรรมหน้าตาใหม่ให้เฉี่ยวขึ้น ด้วยการปรับแต่งให้เป็น “หน้าเหยี่ยว” ที่ดูแล้วเข้าท่ากว่า
   ต่อมาได้เสริมหล่อด้วยชุดแต่งบอดี้พาร์ทของ ING จากญี่ปุ่น ที่สั่งตรงมาเพื่อเพิ่มมัดกล้ามให้กับเจ้า Silvia ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าที่เปิดช่องกลางทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและช่องด้านข้าง ส่วนฝากระโปรงหน้าแต่งสาดดำให้ดูดุดัน พร้อมมีลูกเล่นด้วยการเจาะช่องระบายความร้อนเครื่องยนต์อย่างมีดีไซน์ แถมด้วยตัวล็อกฝากระโปรงถึง 4 ตัว  ส่วนแก้มข้างจะมีโป่งในตัว และออกแบบให้เว้าได้สวยงาม ขณะที่สเกิร์ตข้างนั้นแนบติดกับชายล่างด้านข้างได้อย่างลงตัว
      มาที่กระจกส่องข้างจับเอาของ Garnador ในแบบเคฟลาร์มาให้ดูสะดุดตาเล่น  เช่นเดียวกับไฟท้ายที่โชว์อยู่ด้านหลัง มาในแบบฝาขาวที่ฝังไฟดวงกลมแบบโดนัทอยู่ภายใน ช่วยให้มีมุมมองมากขึ้น ควบคู่ไปกับกันชนหลังที่เผยให้เห็นความอวบใหญ่ที่มีชายล่างด้านข้างเทลง แถมที่ใต้กันชนยังมีหม้อพักใบปลายขนาดใหญ่ของ Greddy ไว้ส่งเสียงคำรามให้ดูน่าเกรงขาม       

ลง 2JZ-GTE รหัสความแรง
โมเต็มสูตรยัดไส้ในสลับโบใหญ่
   จากการที่ Silvia S14 เป็นรถสปอร์ต แน่นอนว่าความแรงที่ติดตัวมาก็ไม่ใช่น้อย เพราะขุมพลังบล็อกเครื่อง 4 สูบ จากตระกูล SR 20 DET ขนาด 1998 ซี.ซี. แบบ DOHC 16 Valve นั้นสามารถถ่ายทอดแรงม้าออกมาได้ถึง 220 ตัว ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุดที่ 28 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที ซึ่งว่าไปแล้วก็แรงสมตัว แต่สำหรับคันนี้ไม่พอ จึงได้จับยัดบล็อกเครื่องขนาด 6สูบของ 2JZ-GTE แบบ DOHC 24 Valve  เข้าไปแทน  เลยทำให้ต้องขยายห้องเครื่อง
   สำหรับพละกำลังของเครื่อง 2JZ-GTE ตามสเปกให้กำลังสูงสุด 280  แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 4 กก.-ม.ที่3,600 รอบ/นาที ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องเดิมแล้วทั้งแรงม้าและแรงบิดห่างกันพอตัว พร้อมกันนั้นยังได้โมดิฟายขยายไซซ์จาก 3000 ซี.ซี. มาเป็น 3200 ซี.ซี. โดยการคว้านกระบอกสูบสลับลูกสูบฟอร์จ กับก้านสูบของ Egle จากอเมริกา ตามมาด้วยแคมชาฟต์ไอดี ไอเสีย และเฟืองแคมสไลด์ของ HKS ส่วนหัวเทียนเป็นของ HKS เบอร์ 9 ไว้ใช้จุดระเบิด และหม้อน้ำอะลูมิเนียมของ Greddy  รวมไปถึงปั๊มจ่ายน้ำมันนอกถังของ NG8 ถึง 2 ตัว ที่สามารถดูดน้ำมันได้ 400 ลิตร/ชม. และเรกูเลเตอร์ของ Nismo เพื่อส่งไปยังหัวฉีดของ Greddy ขนาด 850 ซี.ซี.จำนวน 6 หัว
   มาที่การปรับแต่งเทอร์โบเดิมที่เป็นเทอร์โบเดี่ยวขนาดพอเหมาะ แต่ได้ทำการขยับมาเป็นเทอร์โบใบใหญ่ของ Greedy รุ่น T88 ที่มีโข่งหลัง 20 G  ที่สามารถอัดอากาศเข้าไปในกระบอกสูบได้มากกว่าเท่าตัว โดยเวสต์เกตของ Greedy Type R ได้ตั้งบูสต์ไว้ที่ 2 บาร์ และโบลว์ออฟวาล์วของ Blitz รุ่น Super Sound อีก 2 ตัว เพื่อให้สามารถปล่อยไอดีที่เหลือทิ้งได้เร็วขึ้น พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ใบไม่เล็กของ HKS ขนาด  4 นิ้ว กับกรองอากาศเปลือยหัวเห็ดของ HKS และสลับลิ้นปีกผีเสื้อมาเป็นของนิสสัน V45 คู่กับท่อรวมไอดีแต่งแบบอะลูมิเนียมของตาสิทธิ์ สวนส้มบางมด   และสุดท้ายได้อาศัยกล่อง F-CON V PRO ของ HKS ไว้ควบคุมความแรง 

ลงชุดคลัตช์แต่งกับเฟืองเกียร์ OS   
ช็อกแอบฯ Tein ติดเบรก Brembo
   สำหรับในส่วนของระบบถ่ายทอดกำลังก็ต้องสามารถรองรับขุมพลังแรงได้  โดยได้คบหากับชุดคลัตช์แต่งที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะรถเรซิ่ง นั่นก็คือ  OS TIPPLE  PLATE ที่มีแผ่นคลัตช์ถึง  3 แผ่น จึงมีประสิทธิภาพในการจับติดแน่นกับฟลายวีลเพื่อให้สามารถถ่ายทอดแรงม้าออกไปได้เต็มที่ และในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะแยกออกจากกันได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้สามารถสับเกียร์ได้ทันใจ ส่งผลกำลังออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้เปลี่ยนเฟืองเกียร์ทั้งชุดเป็นของ OS ด้วย
   มาที่ระบบช่วงล่างก็ต้องเซตให้ลงตัวเช่นกัน ดังนั้นจึงมั่นใจในคุณภาพของช็อกแอบฯ ยี่ห้อ Tein กระบอกเขียว ซึ่งรองรับไว้ทั้งหน้า-หลัง โดยเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวที่ปรับสูง-ต่ำได้ถึง 40 เกลียว ที่สำคัญปรับความหนืดของช็อกแอบฯ ได้ถึง 16 ระดับตามความต้องการ ส่วนระบบเบรกนั้นก็ไม่เป็นรองใคร ด้านหน้าคว้าเอาชุดเบรกจากสนามแข่งยี่ห้อ Brembo ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 4 พอร์ท แต่ด้านหลังเป็นเบรกของ Skyline 32 GTR ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 2 พอร์ท   

ภายในสปอร์ตครบ อุปกรณ์แรง
โชว์เกจยกชุดจากแบรนด์ Defi   
   เมื่อเข้ามาดูภายในห้องโดยสารของ Silvia S14  ที่ไม่ค่อยกว้างขวางตามสไตล์รถสปอร์ต  แต่ก็รับกับการออกแบบให้สมส่วนที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกได้ครบครัน ในขณะเดียวกันได้ทำการตกแต่งตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบสามก้านของ Sparco ที่มาในแบบหนังกลับ จึงจับกระชับมือ หมุนคล่องตัว พร้อมกับหัวเกียร์อะลูมิเนียมขนาดเล็ก รวมไปถึงเบาะนั่งที่เหลือเพียงเบาะคนขับ แต่สลับมาเป็นเบาะบัคเกตซีตของ Recaro แบบหลังแข็งสีแดง (ไม่สามารถปรับเอนได้) ที่ออกแบบให้โอบกระชับลำตัวผู้ขับขี่ได้อย่างดี แถมติดแป้นเหยียบของ Razo  กับ Levoc   
   ส่วนอุปกรณ์สำหรับตรวจสอบความแรงนั้นก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะเกจวัด ซึ่งงานนี้คบหาแต่ยี่ห้อ Defi รุ่นหน้ามืด ที่ฝังเรียงรายอยู่ที่คอนโซลหน้าฝั่งซ้าย ไม่ว่าจะเป็นเกจวัด IN-MF Press ที่มีไว้สำหรับวัดแรงดันน้ำมันตอนบูสต์ 2 บาร์ เกจวัด Fuel Press เกจวัด Oil Press เกจวัด  Oil  Temp.   และเกจวัด Water Temp. ซึ่งเปิดขึ้นหน้าจะสว่างขึ้น  ตามติดมาด้วยพิลลาร์ที่แปะติดอยู่ข้างเสาหน้าข้างขวา ได้ฝังเกจวัดอีกสองตัวเป็นเกจวัด Boost กับเกจวัด  Ext. Temp.
      แค่นั้นไม่พอยังมีเกจวัดรอบตัวใหญ่ของ Defi แบบมีชิฟต์ไลท์ในตัวที่สามารถตั้งรอบเครื่องได้ และไฟของชิฟต์ไลท์จะแสดงผลต่อเมื่อเร่งรอบตามที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง และยังมีตัวปรับบูสต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Ggreddy รุ่น Profect  B-Spec II ที่ง่ายต่อการปรับบูสต์ได้ตามที่ต้องการ  แถมด้วยเทอร์โบไทเมอร์ของ APEXi รุ่นปากกา ที่วางไว้ตรงไหนก็ได้เพราะมีขนาดเล็กแต่ใช้งานดี
     ถึงแม้ว่า Nissan Silvia คันนี้จะปรับแต่งมาจนเต็มสูตร ทำให้สามารถสร้างแรงม้าออกมาได้มากกว่า 700 ตัว ซึ่งแรงระดับนี้น่าจะไว้ใช้ขับแข่งในสนามเท่านั้น 

กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
Re: Nissan Silvia S14 สปอร์ตพันธุ์แรงเต็มพิกัด ^^
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 24, 2014, 01:53:58 PM »
 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8)

Nissan Silvia S14
สปอร์ตพันธุ์แรงเต็มพิกัด
ที่ผ่านมาจะเห็นว่ารถสปอร์ตพันธุ์แรงที่นำเข้ามาขายนั้นมีอยู่น้อยยี่ห้อและไม่กี่รุ่น  โดยเฉพาะค่ายนิสสัน รุ่นที่พอจะเชิดหน้าชูตาจนเป็นที่รู้จักก็มีแต่สกายไลน์ ซึ่งเป็นสปอร์ตตัวแรงที่นักเลงรถต่างยอมรับในสมรรถนะ และเช่นเดียวกัน Nissan Silvia S14 ที่นำมาอวดกันนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่พกความแรงมามากโข เพราะได้สลับลงเครื่องตัวแรงต่างค่าย พร้อมกับโมดิฟายเต็มพิกัด จึงส่งผลให้สามารถตอบสนองความเร็วได้อย่างสะใจ
   สำหรับ Nissan Silvia S14 นั้นเป็นรถปี 1996 บอดี้รหัส  SBS 14  ที่นำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย  ซึ่งสนนราคาป้ายแดงนั้นหลายล้านทีเดียว แม้ขณะนี้กลายเป็นมือสองก็ยังอยู่หลักล้าน  แต่คันนี้ถ้าคนที่รู้จักรถรุ่นนี้ดี แค่แรกเห็นต้องทราบทันทีว่าได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ให้ดูเฉี่ยวขึ้น พร้อมกับเสริมบอดี้พาร์ทให้ปราดเปรียว และที่สำคัญขุมพลังได้ฝังบล็อกเครื่องโตโยต้า รหัส 2 JZ-GTE ที่เล่นโมดิฟายครบสูตร ผนวกกับการสลับเทอร์โบให้ใหญ่ขึ้นตามสเตป       

ปรับโฉมจากหน้าหมูเป็นเหยี่ยว
เสริมหล่อบอดี้ด้วยชุดแต่ง ING
   แค่เห็นรูปทรงของ Silvia S14 โดยรวมก็ต้องบอกว่าพอใจในความเป็นสปอร์ตที่ดีไซน์ออกมาได้อย่างลงตัว ซึ่งเดิมทีหน้าตาของรุ่นนี้ไม่ค่อยถูกใจ  เพราะถูกขนานนามว่า “หน้าหมู” ที่ฟังดูแล้วไม่ค่อยเข้าท่า ไม่สมกับความเป็นรถสปอร์ตเท่าไหร่  และนั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องทำการศัลยกรรมหน้าตาใหม่ให้เฉี่ยวขึ้น ด้วยการปรับแต่งให้เป็น “หน้าเหยี่ยว” ที่ดูแล้วเข้าท่ากว่า
   ต่อมาได้เสริมหล่อด้วยชุดแต่งบอดี้พาร์ทของ ING จากญี่ปุ่น ที่สั่งตรงมาเพื่อเพิ่มมัดกล้ามให้กับเจ้า Silvia ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าที่เปิดช่องกลางทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและช่องด้านข้าง ส่วนฝากระโปรงหน้าแต่งสาดดำให้ดูดุดัน พร้อมมีลูกเล่นด้วยการเจาะช่องระบายความร้อนเครื่องยนต์อย่างมีดีไซน์ แถมด้วยตัวล็อกฝากระโปรงถึง 4 ตัว  ส่วนแก้มข้างจะมีโป่งในตัว และออกแบบให้เว้าได้สวยงาม ขณะที่สเกิร์ตข้างนั้นแนบติดกับชายล่างด้านข้างได้อย่างลงตัว
      มาที่กระจกส่องข้างจับเอาของ Garnador ในแบบเคฟลาร์มาให้ดูสะดุดตาเล่น  เช่นเดียวกับไฟท้ายที่โชว์อยู่ด้านหลัง มาในแบบฝาขาวที่ฝังไฟดวงกลมแบบโดนัทอยู่ภายใน ช่วยให้มีมุมมองมากขึ้น ควบคู่ไปกับกันชนหลังที่เผยให้เห็นความอวบใหญ่ที่มีชายล่างด้านข้างเทลง แถมที่ใต้กันชนยังมีหม้อพักใบปลายขนาดใหญ่ของ Greddy ไว้ส่งเสียงคำรามให้ดูน่าเกรงขาม       

ลง 2JZ-GTE รหัสความแรง
โมเต็มสูตรยัดไส้ในสลับโบใหญ่
   จากการที่ Silvia S14 เป็นรถสปอร์ต แน่นอนว่าความแรงที่ติดตัวมาก็ไม่ใช่น้อย เพราะขุมพลังบล็อกเครื่อง 4 สูบ จากตระกูล SR 20 DET ขนาด 1998 ซี.ซี. แบบ DOHC 16 Valve นั้นสามารถถ่ายทอดแรงม้าออกมาได้ถึง 220 ตัว ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุดที่ 28 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที ซึ่งว่าไปแล้วก็แรงสมตัว แต่สำหรับคันนี้ไม่พอ จึงได้จับยัดบล็อกเครื่องขนาด 6สูบของ 2JZ-GTE แบบ DOHC 24 Valve  เข้าไปแทน  เลยทำให้ต้องขยายห้องเครื่อง
   สำหรับพละกำลังของเครื่อง 2JZ-GTE ตามสเปกให้กำลังสูงสุด 280  แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 4 กก.-ม.ที่3,600 รอบ/นาที ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องเดิมแล้วทั้งแรงม้าและแรงบิดห่างกันพอตัว พร้อมกันนั้นยังได้โมดิฟายขยายไซซ์จาก 3000 ซี.ซี. มาเป็น 3200 ซี.ซี. โดยการคว้านกระบอกสูบสลับลูกสูบฟอร์จ กับก้านสูบของ Egle จากอเมริกา ตามมาด้วยแคมชาฟต์ไอดี ไอเสีย และเฟืองแคมสไลด์ของ HKS ส่วนหัวเทียนเป็นของ HKS เบอร์ 9 ไว้ใช้จุดระเบิด และหม้อน้ำอะลูมิเนียมของ Greddy  รวมไปถึงปั๊มจ่ายน้ำมันนอกถังของ NG8 ถึง 2 ตัว ที่สามารถดูดน้ำมันได้ 400 ลิตร/ชม. และเรกูเลเตอร์ของ Nismo เพื่อส่งไปยังหัวฉีดของ Greddy ขนาด 850 ซี.ซี.จำนวน 6 หัว
   มาที่การปรับแต่งเทอร์โบเดิมที่เป็นเทอร์โบเดี่ยวขนาดพอเหมาะ แต่ได้ทำการขยับมาเป็นเทอร์โบใบใหญ่ของ Greedy รุ่น T88 ที่มีโข่งหลัง 20 G  ที่สามารถอัดอากาศเข้าไปในกระบอกสูบได้มากกว่าเท่าตัว โดยเวสต์เกตของ Greedy Type R ได้ตั้งบูสต์ไว้ที่ 2 บาร์ และโบลว์ออฟวาล์วของ Blitz รุ่น Super Sound อีก 2 ตัว เพื่อให้สามารถปล่อยไอดีที่เหลือทิ้งได้เร็วขึ้น พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ใบไม่เล็กของ HKS ขนาด  4 นิ้ว กับกรองอากาศเปลือยหัวเห็ดของ HKS และสลับลิ้นปีกผีเสื้อมาเป็นของนิสสัน V45 คู่กับท่อรวมไอดีแต่งแบบอะลูมิเนียมของตาสิทธิ์ สวนส้มบางมด   และสุดท้ายได้อาศัยกล่อง F-CON V PRO ของ HKS ไว้ควบคุมความแรง 

ลงชุดคลัตช์แต่งกับเฟืองเกียร์ OS   
ช็อกแอบฯ Tein ติดเบรก Brembo
   สำหรับในส่วนของระบบถ่ายทอดกำลังก็ต้องสามารถรองรับขุมพลังแรงได้  โดยได้คบหากับชุดคลัตช์แต่งที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะรถเรซิ่ง นั่นก็คือ  OS TIPPLE  PLATE ที่มีแผ่นคลัตช์ถึง  3 แผ่น จึงมีประสิทธิภาพในการจับติดแน่นกับฟลายวีลเพื่อให้สามารถถ่ายทอดแรงม้าออกไปได้เต็มที่ และในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะแยกออกจากกันได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้สามารถสับเกียร์ได้ทันใจ ส่งผลกำลังออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้เปลี่ยนเฟืองเกียร์ทั้งชุดเป็นของ OS ด้วย
   มาที่ระบบช่วงล่างก็ต้องเซตให้ลงตัวเช่นกัน ดังนั้นจึงมั่นใจในคุณภาพของช็อกแอบฯ ยี่ห้อ Tein กระบอกเขียว ซึ่งรองรับไว้ทั้งหน้า-หลัง โดยเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวที่ปรับสูง-ต่ำได้ถึง 40 เกลียว ที่สำคัญปรับความหนืดของช็อกแอบฯ ได้ถึง 16 ระดับตามความต้องการ ส่วนระบบเบรกนั้นก็ไม่เป็นรองใคร ด้านหน้าคว้าเอาชุดเบรกจากสนามแข่งยี่ห้อ Brembo ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 4 พอร์ท แต่ด้านหลังเป็นเบรกของ Skyline 32 GTR ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 2 พอร์ท   

ภายในสปอร์ตครบ อุปกรณ์แรง
โชว์เกจยกชุดจากแบรนด์ Defi   
   เมื่อเข้ามาดูภายในห้องโดยสารของ Silvia S14  ที่ไม่ค่อยกว้างขวางตามสไตล์รถสปอร์ต  แต่ก็รับกับการออกแบบให้สมส่วนที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกได้ครบครัน ในขณะเดียวกันได้ทำการตกแต่งตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบสามก้านของ Sparco ที่มาในแบบหนังกลับ จึงจับกระชับมือ หมุนคล่องตัว พร้อมกับหัวเกียร์อะลูมิเนียมขนาดเล็ก รวมไปถึงเบาะนั่งที่เหลือเพียงเบาะคนขับ แต่สลับมาเป็นเบาะบัคเกตซีตของ Recaro แบบหลังแข็งสีแดง (ไม่สามารถปรับเอนได้) ที่ออกแบบให้โอบกระชับลำตัวผู้ขับขี่ได้อย่างดี แถมติดแป้นเหยียบของ Razo  กับ Levoc   
   ส่วนอุปกรณ์สำหรับตรวจสอบความแรงนั้นก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะเกจวัด ซึ่งงานนี้คบหาแต่ยี่ห้อ Defi รุ่นหน้ามืด ที่ฝังเรียงรายอยู่ที่คอนโซลหน้าฝั่งซ้าย ไม่ว่าจะเป็นเกจวัด IN-MF Press ที่มีไว้สำหรับวัดแรงดันน้ำมันตอนบูสต์ 2 บาร์ เกจวัด Fuel Press เกจวัด Oil Press เกจวัด  Oil  Temp.   และเกจวัด Water Temp. ซึ่งเปิดขึ้นหน้าจะสว่างขึ้น  ตามติดมาด้วยพิลลาร์ที่แปะติดอยู่ข้างเสาหน้าข้างขวา ได้ฝังเกจวัดอีกสองตัวเป็นเกจวัด Boost กับเกจวัด  Ext. Temp.
      แค่นั้นไม่พอยังมีเกจวัดรอบตัวใหญ่ของ Defi แบบมีชิฟต์ไลท์ในตัวที่สามารถตั้งรอบเครื่องได้ และไฟของชิฟต์ไลท์จะแสดงผลต่อเมื่อเร่งรอบตามที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง และยังมีตัวปรับบูสต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Ggreddy รุ่น Profect  B-Spec II ที่ง่ายต่อการปรับบูสต์ได้ตามที่ต้องการ  แถมด้วยเทอร์โบไทเมอร์ของ APEXi รุ่นปากกา ที่วางไว้ตรงไหนก็ได้เพราะมีขนาดเล็กแต่ใช้งานดี
     ถึงแม้ว่า Nissan Silvia คันนี้จะปรับแต่งมาจนเต็มสูตร ทำให้สามารถสร้างแรงม้าออกมาได้มากกว่า 700 ตัว ซึ่งแรงระดับนี้น่าจะไว้ใช้ขับแข่งในสนามเท่านั้น 


กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
Re: Nissan Silvia S14 สปอร์ตพันธุ์แรงเต็มพิกัด ><
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2014, 06:46:19 PM »
 :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2: :kacsint2:

 

Nissan Silvia S14
สปอร์ตพันธุ์แรงเต็มพิกัด
ที่ผ่านมาจะเห็นว่ารถสปอร์ตพันธุ์แรงที่นำเข้ามาขายนั้นมีอยู่น้อยยี่ห้อและไม่กี่รุ่น  โดยเฉพาะค่ายนิสสัน รุ่นที่พอจะเชิดหน้าชูตาจนเป็นที่รู้จักก็มีแต่สกายไลน์ ซึ่งเป็นสปอร์ตตัวแรงที่นักเลงรถต่างยอมรับในสมรรถนะ และเช่นเดียวกัน Nissan Silvia S14 ที่นำมาอวดกันนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่พกความแรงมามากโข เพราะได้สลับลงเครื่องตัวแรงต่างค่าย พร้อมกับโมดิฟายเต็มพิกัด จึงส่งผลให้สามารถตอบสนองความเร็วได้อย่างสะใจ
   สำหรับ Nissan Silvia S14 นั้นเป็นรถปี 1996 บอดี้รหัส  SBS 14  ที่นำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย  ซึ่งสนนราคาป้ายแดงนั้นหลายล้านทีเดียว แม้ขณะนี้กลายเป็นมือสองก็ยังอยู่หลักล้าน  แต่คันนี้ถ้าคนที่รู้จักรถรุ่นนี้ดี แค่แรกเห็นต้องทราบทันทีว่าได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ให้ดูเฉี่ยวขึ้น พร้อมกับเสริมบอดี้พาร์ทให้ปราดเปรียว และที่สำคัญขุมพลังได้ฝังบล็อกเครื่องโตโยต้า รหัส 2 JZ-GTE ที่เล่นโมดิฟายครบสูตร ผนวกกับการสลับเทอร์โบให้ใหญ่ขึ้นตามสเตป       

ปรับโฉมจากหน้าหมูเป็นเหยี่ยว
เสริมหล่อบอดี้ด้วยชุดแต่ง ING
   แค่เห็นรูปทรงของ Silvia S14 โดยรวมก็ต้องบอกว่าพอใจในความเป็นสปอร์ตที่ดีไซน์ออกมาได้อย่างลงตัว ซึ่งเดิมทีหน้าตาของรุ่นนี้ไม่ค่อยถูกใจ  เพราะถูกขนานนามว่า “หน้าหมู” ที่ฟังดูแล้วไม่ค่อยเข้าท่า ไม่สมกับความเป็นรถสปอร์ตเท่าไหร่  และนั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องทำการศัลยกรรมหน้าตาใหม่ให้เฉี่ยวขึ้น ด้วยการปรับแต่งให้เป็น “หน้าเหยี่ยว” ที่ดูแล้วเข้าท่ากว่า
   ต่อมาได้เสริมหล่อด้วยชุดแต่งบอดี้พาร์ทของ ING จากญี่ปุ่น ที่สั่งตรงมาเพื่อเพิ่มมัดกล้ามให้กับเจ้า Silvia ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าที่เปิดช่องกลางทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและช่องด้านข้าง ส่วนฝากระโปรงหน้าแต่งสาดดำให้ดูดุดัน พร้อมมีลูกเล่นด้วยการเจาะช่องระบายความร้อนเครื่องยนต์อย่างมีดีไซน์ แถมด้วยตัวล็อกฝากระโปรงถึง 4 ตัว  ส่วนแก้มข้างจะมีโป่งในตัว และออกแบบให้เว้าได้สวยงาม ขณะที่สเกิร์ตข้างนั้นแนบติดกับชายล่างด้านข้างได้อย่างลงตัว
      มาที่กระจกส่องข้างจับเอาของ Garnador ในแบบเคฟลาร์มาให้ดูสะดุดตาเล่น  เช่นเดียวกับไฟท้ายที่โชว์อยู่ด้านหลัง มาในแบบฝาขาวที่ฝังไฟดวงกลมแบบโดนัทอยู่ภายใน ช่วยให้มีมุมมองมากขึ้น ควบคู่ไปกับกันชนหลังที่เผยให้เห็นความอวบใหญ่ที่มีชายล่างด้านข้างเทลง แถมที่ใต้กันชนยังมีหม้อพักใบปลายขนาดใหญ่ของ Greddy ไว้ส่งเสียงคำรามให้ดูน่าเกรงขาม       

ลง 2JZ-GTE รหัสความแรง
โมเต็มสูตรยัดไส้ในสลับโบใหญ่
   จากการที่ Silvia S14 เป็นรถสปอร์ต แน่นอนว่าความแรงที่ติดตัวมาก็ไม่ใช่น้อย เพราะขุมพลังบล็อกเครื่อง 4 สูบ จากตระกูล SR 20 DET ขนาด 1998 ซี.ซี. แบบ DOHC 16 Valve นั้นสามารถถ่ายทอดแรงม้าออกมาได้ถึง 220 ตัว ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุดที่ 28 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที ซึ่งว่าไปแล้วก็แรงสมตัว แต่สำหรับคันนี้ไม่พอ จึงได้จับยัดบล็อกเครื่องขนาด 6สูบของ 2JZ-GTE แบบ DOHC 24 Valve  เข้าไปแทน  เลยทำให้ต้องขยายห้องเครื่อง
   สำหรับพละกำลังของเครื่อง 2JZ-GTE ตามสเปกให้กำลังสูงสุด 280  แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 4 กก.-ม.ที่3,600 รอบ/นาที ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องเดิมแล้วทั้งแรงม้าและแรงบิดห่างกันพอตัว พร้อมกันนั้นยังได้โมดิฟายขยายไซซ์จาก 3000 ซี.ซี. มาเป็น 3200 ซี.ซี. โดยการคว้านกระบอกสูบสลับลูกสูบฟอร์จ กับก้านสูบของ Egle จากอเมริกา ตามมาด้วยแคมชาฟต์ไอดี ไอเสีย และเฟืองแคมสไลด์ของ HKS ส่วนหัวเทียนเป็นของ HKS เบอร์ 9 ไว้ใช้จุดระเบิด และหม้อน้ำอะลูมิเนียมของ Greddy  รวมไปถึงปั๊มจ่ายน้ำมันนอกถังของ NG8 ถึง 2 ตัว ที่สามารถดูดน้ำมันได้ 400 ลิตร/ชม. และเรกูเลเตอร์ของ Nismo เพื่อส่งไปยังหัวฉีดของ Greddy ขนาด 850 ซี.ซี.จำนวน 6 หัว
   มาที่การปรับแต่งเทอร์โบเดิมที่เป็นเทอร์โบเดี่ยวขนาดพอเหมาะ แต่ได้ทำการขยับมาเป็นเทอร์โบใบใหญ่ของ Greedy รุ่น T88 ที่มีโข่งหลัง 20 G  ที่สามารถอัดอากาศเข้าไปในกระบอกสูบได้มากกว่าเท่าตัว โดยเวสต์เกตของ Greedy Type R ได้ตั้งบูสต์ไว้ที่ 2 บาร์ และโบลว์ออฟวาล์วของ Blitz รุ่น Super Sound อีก 2 ตัว เพื่อให้สามารถปล่อยไอดีที่เหลือทิ้งได้เร็วขึ้น พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ใบไม่เล็กของ HKS ขนาด  4 นิ้ว กับกรองอากาศเปลือยหัวเห็ดของ HKS และสลับลิ้นปีกผีเสื้อมาเป็นของนิสสัน V45 คู่กับท่อรวมไอดีแต่งแบบอะลูมิเนียมของตาสิทธิ์ สวนส้มบางมด   และสุดท้ายได้อาศัยกล่อง F-CON V PRO ของ HKS ไว้ควบคุมความแรง 

ลงชุดคลัตช์แต่งกับเฟืองเกียร์ OS   
ช็อกแอบฯ Tein ติดเบรก Brembo
   สำหรับในส่วนของระบบถ่ายทอดกำลังก็ต้องสามารถรองรับขุมพลังแรงได้  โดยได้คบหากับชุดคลัตช์แต่งที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะรถเรซิ่ง นั่นก็คือ  OS TIPPLE  PLATE ที่มีแผ่นคลัตช์ถึง  3 แผ่น จึงมีประสิทธิภาพในการจับติดแน่นกับฟลายวีลเพื่อให้สามารถถ่ายทอดแรงม้าออกไปได้เต็มที่ และในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะแยกออกจากกันได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้สามารถสับเกียร์ได้ทันใจ ส่งผลกำลังออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้เปลี่ยนเฟืองเกียร์ทั้งชุดเป็นของ OS ด้วย
   มาที่ระบบช่วงล่างก็ต้องเซตให้ลงตัวเช่นกัน ดังนั้นจึงมั่นใจในคุณภาพของช็อกแอบฯ ยี่ห้อ Tein กระบอกเขียว ซึ่งรองรับไว้ทั้งหน้า-หลัง โดยเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวที่ปรับสูง-ต่ำได้ถึง 40 เกลียว ที่สำคัญปรับความหนืดของช็อกแอบฯ ได้ถึง 16 ระดับตามความต้องการ ส่วนระบบเบรกนั้นก็ไม่เป็นรองใคร ด้านหน้าคว้าเอาชุดเบรกจากสนามแข่งยี่ห้อ Brembo ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 4 พอร์ท แต่ด้านหลังเป็นเบรกของ Skyline 32 GTR ที่มีคาลิเปอร์ข้างละ 2 พอร์ท   

ภายในสปอร์ตครบ อุปกรณ์แรง
โชว์เกจยกชุดจากแบรนด์ Defi   
   เมื่อเข้ามาดูภายในห้องโดยสารของ Silvia S14  ที่ไม่ค่อยกว้างขวางตามสไตล์รถสปอร์ต  แต่ก็รับกับการออกแบบให้สมส่วนที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกได้ครบครัน ในขณะเดียวกันได้ทำการตกแต่งตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบสามก้านของ Sparco ที่มาในแบบหนังกลับ จึงจับกระชับมือ หมุนคล่องตัว พร้อมกับหัวเกียร์อะลูมิเนียมขนาดเล็ก รวมไปถึงเบาะนั่งที่เหลือเพียงเบาะคนขับ แต่สลับมาเป็นเบาะบัคเกตซีตของ Recaro แบบหลังแข็งสีแดง (ไม่สามารถปรับเอนได้) ที่ออกแบบให้โอบกระชับลำตัวผู้ขับขี่ได้อย่างดี แถมติดแป้นเหยียบของ Razo  กับ Levoc   
   ส่วนอุปกรณ์สำหรับตรวจสอบความแรงนั้นก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะเกจวัด ซึ่งงานนี้คบหาแต่ยี่ห้อ Defi รุ่นหน้ามืด ที่ฝังเรียงรายอยู่ที่คอนโซลหน้าฝั่งซ้าย ไม่ว่าจะเป็นเกจวัด IN-MF Press ที่มีไว้สำหรับวัดแรงดันน้ำมันตอนบูสต์ 2 บาร์ เกจวัด Fuel Press เกจวัด Oil Press เกจวัด  Oil  Temp.   และเกจวัด Water Temp. ซึ่งเปิดขึ้นหน้าจะสว่างขึ้น  ตามติดมาด้วยพิลลาร์ที่แปะติดอยู่ข้างเสาหน้าข้างขวา ได้ฝังเกจวัดอีกสองตัวเป็นเกจวัด Boost กับเกจวัด  Ext. Temp.
      แค่นั้นไม่พอยังมีเกจวัดรอบตัวใหญ่ของ Defi แบบมีชิฟต์ไลท์ในตัวที่สามารถตั้งรอบเครื่องได้ และไฟของชิฟต์ไลท์จะแสดงผลต่อเมื่อเร่งรอบตามที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง และยังมีตัวปรับบูสต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Ggreddy รุ่น Profect  B-Spec II ที่ง่ายต่อการปรับบูสต์ได้ตามที่ต้องการ  แถมด้วยเทอร์โบไทเมอร์ของ APEXi รุ่นปากกา ที่วางไว้ตรงไหนก็ได้เพราะมีขนาดเล็กแต่ใช้งานดี
     ถึงแม้ว่า Nissan Silvia คันนี้จะปรับแต่งมาจนเต็มสูตร ทำให้สามารถสร้างแรงม้าออกมาได้มากกว่า 700 ตัว ซึ่งแรงระดับนี้น่าจะไว้ใช้ขับแข่งในสนามเท่านั้น 




 







 


แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.

©2013 carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com

789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999