ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Home Car Show Super Car & Import Car Off Road Car Stereo Eenergy Business Wheel & Tires Classifieds Webboard
Sport World Home & Condo Motor Cycle Cycle Bike Review & TestDrive Classic Car Motor Sport Pretty Show Sexy Lady Society News









ผู้เขียน หัวข้อ: FORD LASER รถนำเข้าแบบสปอร์ตซีดานสองประตู ^^  (อ่าน 5334 ครั้ง)

กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
 :wonder: :wonder: :wonder: :wonder: :talk: :talk: :talk: :talk: :talk: :talk:


FORD  LASER  1.8 
เพิ่มความแรง BP-T 1800
FORD LASER  รถนำเข้าแบบสปอร์ตซีดานสองประตู โดยมีรูปลักษณ์เฉพาะตัวที่มีดีไซน์ท้ายลาดตูดตัดจึงทำให้ดูแตกต่างไปจากรถยี่ห้ออื่น พร้อมกับขยับความแรงขึ้นด้วยการคว้าเครื่องรหัส  BP-T  1800 ที่ฝังอยู่ในรถแข่งขับสี่ MAZDA 323 GTR และปรับบูสท์หนัก เพื่อให้สามารถเรียกกำลังม้าได้มากขึ้น
        จากรูปลักษณ์ภายนอก FORD LASER ปี 1995 ซึ่งได้ทำให้ดูแตกต่างไปจากเดิมด้วยสเกิร์ตหน้าสีดำเพิ่มเข้าไปที่กันชนหน้า  โดยเป็นเอาของแต่งจากโตโยต้า  วีออสมาดัดแปลงเล็กน้อยใส่เข้าไปแทน  ซึ่งก็ส่งผลให้หน้าตาดูเร้าใจยิ่งขึ้น  ถัดมาที่กระจกส่องด้านข้างก็เปลี่ยนไปเช่นกัน   ได้จับเอากระจกส่องข้างสไตล์   GANADOR   มาไว้มองเพื่อให้ดูสปอร์ตและยังสามารถปรับไฟฟ้าได้ด้วย
ตามมาด้วยล้อแม็กสีขาวขนาดขอบ 17 นิ้วตัดกับตัวรถสีแดง ที่พอจะกล้าโชว์กับใครได้ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพจาก  ENKEI  รุ่นแมงมุม (ขยุมหลังคา) พร้อมรัดด้วยยาง DUNLOP รุ่น DZ101 ขนาด 205/40ZR17 ซึ่งเป็นยางซีรีส์ต่ำแต่มั่นใจได้ว่าวิ่งเร็วแล้วเสียงเงียบไม่กวนเข้าไปข้างใน จากนั้นมาดูที่ด้านหลังที่เป็นทรงท้ายลาดตูดตัด ซึ่งมีกระจกหลังสีดำดูเข้มดี ได้ติดสปอยเลอร์หลังสีดำเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ดูมาดปราดเปรียวกว่าเดิม   แถมด้วยปลายท่อแบบหม้อพักใบปลายขนาด
ใหญ่
มาที่ถึงขุมพลังของ  FORD LASER ได้สลับมาเป็นเครื่อง BP-T 1800 รุ่น GTR ที่มีเทอร์โบในตัว ซึ่งมีแรงม้ามาวิ่ง 210 ตัวในส่วนของเครื่องได้คว้านเปลี่ยนลูกสูบให้ใหญ่ขึ้นเป็นของ    ISUMI   ขนาด 83.5  มม.(เดิม  83.0 มม.) พร้อมกับขยายและขัดลื่นพอร์ทไอดี-ไอเสีย รวมไปถึงได้เปลี่ยนวาล์วให้ใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อยและปิดฝาสูบของ  FORD  แทน  ทางด้านเทอร์โบของ  IHI รุ่น RHF6 นั้นมีขนาดที่เหมาะสมดีอยู่แล้ว  แต่ได้หันมาปรับบูสท์เข้าไปแทนที่ จึงได้บูสท์ที่ 16.8 ปอนด์ เลยทำให้แรงม้าออกมาได้มากถึง 290 ตัว
    แต่ในการนี้ก็ต้องอาศัยกล่องควบคุมสีฟ้าของ e-manage ที่จูนโดยสง่าออโต้สปอร์ต ตลิ่งชั่น พร้อมด้วยอุปกรณ์เสริมต่าง  ๆ ไม่ว่าจะเป็นเวสเกจต์ของ BLITZ TYPE R ควบคู่กับโบล์ออฟวาล์วที่ติดอยู่กับเครื่องโตโยต้า  รหัส 1G-GTE ซึ่งเป็นแบบที่ไม่ระบายอากาศที่เหลือทิ้งแต่ได้ย้อนกลับมาที่ท่อไอดีเพื่อใช้ใหม่  จึงทำให้มีอัตราเร่งที่ต่อเนื่องไม่ต้องรอรอบ  ส่วนอินเตอร์คูลเลอร์ของ  APEXi หนา 3.5 นิ้วคู่กับกรองอากาศเปลือยของ  APEXi  ส่วนหัวเทียน NGK รุ่นแพลททินั่ม No.7 กับสายหัวเทียนของ GTX ยกเว้นหม้อน้ำสั่งทำให้หนาขึ้นพร้อมพัดลมซูบารุตัวเล็กแบบ  7  ใบอีก 2 ตัวซึ่งหมุนเร็วเลยระบายความร้อนได้ดี
มาที่ระบบครัชต์ก็เป็นตัวการสำคัญได้จัดเปลี่ยนแผ่นครัชต์ทองแดงแบบ  4 แฉก และเพิ่มแผ่นกดจาก 2 เป็น 3 แผ่นเพื่อให้สามารถจับได้แนบแน่นยิ่งขึ้น  แถมด้วยการล้างฟลายวีลให้บางลงเพื่อลดน้ำหนัก  เช่นเดียวกับระบบเบรคได้พึ่งคาลิปเปอร์เบรคกับจานดิสถ์ของรถสปอร์ตอย่าง มาสด้า RX7 รุ่นซาวันนา FC ในแบบ  4  พอร์ท    ส่วนช่วงล่างปรับช็อกแอบฯของ  KONI  ถึง  4  ตัว ที่สามารถปรับความหนืดได้ 4 ระดับ พร้อมด้านหน้าใส่สปริงโหลด  2  นิ้วของ TOKICO สีฟ้าส่วนด้านหลังสปริงของ JIC โหลดครึ่งนิ้วที่ช่วยรถหน้าทิ่มท้ายโด่ง
สำหรับภายในรถนั้นได้สรรหาของแต่งมาโชว์และใช้งานได้   โดยเริ่มที่จอมอนิเตอร์ของ GREDDY รุ่น E-01 ที่ต่อเชื่อมกับรีโมทคอนโทรล ซึ่งทำหน้าที่ได้มากมายหลายประการ โดยเฉพาะเป็นตัวปรับบูสท์ไฟฟ้า   ที่สามารถเซ็ทเป็นแบบออโต้ ซึ่งจะต้องเรียนรู้กับเทอร์โบ เพื่อให้ช่วยบูสท์ได้อย่างเหมาะกับการใช้งาน หรือแบบแมนน่วนได้ปรับบูสท์ไว้ที่ 16.8 ปอนด์ และสั่งให้บูสท์มาเร็วหรือช้าได้ โดยตั้งไว้  80  % และเทอร์โบจะทำงานที่  3,500  รอบ  และเมื่อต่อเชื่อมกล่อง  E-MANAGE  ของ GREEDY ก็สามารถปรับจูนน้ำมันให้มาก-น้อยและไฟแก่-อ่อนได้ด้วย
ส่วนเบาะนั่งได้ติดตั้งให้แตกต่างกันโดยเบาะนั่งของคนขับได้สลับเอาเบาะแข่งทรงบักเก็ตชีทของ RECARO  รุ่น  SPG แบบสีดำหลังแข็ง พร้อมกับเข็มขัดจาก SABELT แบบสี่จุด แต่เบาะผู้โดยสารเป็นของ  RECARO  รุ่น  SRT แบบสีดำ และข้างเบาะยังมีที่พักเท้าแขนของ  MAZDA 323 ตัวนอก ที่ต่อเชื่อมกับคอนโซลกลางได้พอดี ซึ่งภายในที่พักเท้าแขนนี้ยังเป็นที่เก็บของและวางแก้วน้ำได้ด้วย
    ทางด้านเกจวัดที่ได้คบหากับเกจวัด BOOST  METER)  กับเกจวัด FUEL  PRESS ซึ่งเป็นของ AUTO METER ส่วนเกจวัดที่ติดอยู่ที่คอพวงมาลัยนั้นเอาใช้วัด EXT.  TEMP  เป็นของ  GREDDY ในแบบหน้ามุกเพราะสามารถอ่านค่าอุณหภูมิย้อนหลังได้  และเทอร์โบทามเมอร์ของ  RAZO  ที่มีระบบ AUTO   สุดท้ายได้ปรับเปลี่ยนแอร์มาเป็นแบบดิจิตอล เป็นของ LATIS  ตัวนอกที่ใช้งานร่วมกับเซนเซอร์ 3จุดที่วัดอุณหภูมิภายนอก ,วัดแสง และวัดอุณหภูมิในตู้แอร์
คงพอจะถูกใจกันบ้างกับฟอร์ด  เลเซอร์ ซึ่งเป็นรถหายากแต่ก็สามารถปรับแต่งให้แรงเต็มพิกัดได้ไม่แพ้ใคร 

ราคาอุปกรณ์แต่ง
1.เครื่องยนต์ BP-T1800 ของ GTR              ราคา  40,000 กว่าบาท
2.ช็อกแอบฯ KONI มือสอง  4 ตัว                   ราคา   7,000    บาท
3.สปริง JIC   2 ตัวสภาพใหม่                 ราคา   2,500    บาท 
4.ปรับแต่งครัชต์                             ราคา   3,400    บาท
5.คาลิเปอร์เบรคและจานดิสถ์ของ RX7            ราคา   3,500    บาท
6.เกจวัดบูสท์ใหม่ของ AUTO METER              ราคา   2,000    บาท
7.เกจวัดแรงดันน้ำมันใหม่ของ AUTO METER        ราคา   2,000    บาท
8.เกจวัด EXT.TEMP ของ GREEDY มือสอง        ราคา   8,000    บาท
9.เทอร์โบทามเมอร์ RAZO ใหม่                 ราคา   1,200    บาท
10.แอร์ดิจิตอลของ LATIS ตัวนอก              ราคา     500    บาท             




กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
Re: FORD LASER รถนำเข้าแบบสปอร์ตซีดานสองประตู ^^
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 08, 2014, 06:35:00 PM »
 :beee: :beee: :beee: :beee: :beee: :beee: :beee:

FORD  LASER  1.8 
เพิ่มความแรง BP-T 1800
FORD LASER  รถนำเข้าแบบสปอร์ตซีดานสองประตู โดยมีรูปลักษณ์เฉพาะตัวที่มีดีไซน์ท้ายลาดตูดตัดจึงทำให้ดูแตกต่างไปจากรถยี่ห้ออื่น พร้อมกับขยับความแรงขึ้นด้วยการคว้าเครื่องรหัส  BP-T  1800 ที่ฝังอยู่ในรถแข่งขับสี่ MAZDA 323 GTR และปรับบูสท์หนัก เพื่อให้สามารถเรียกกำลังม้าได้มากขึ้น
        จากรูปลักษณ์ภายนอก FORD LASER ปี 1995 ซึ่งได้ทำให้ดูแตกต่างไปจากเดิมด้วยสเกิร์ตหน้าสีดำเพิ่มเข้าไปที่กันชนหน้า  โดยเป็นเอาของแต่งจากโตโยต้า  วีออสมาดัดแปลงเล็กน้อยใส่เข้าไปแทน  ซึ่งก็ส่งผลให้หน้าตาดูเร้าใจยิ่งขึ้น  ถัดมาที่กระจกส่องด้านข้างก็เปลี่ยนไปเช่นกัน   ได้จับเอากระจกส่องข้างสไตล์   GANADOR   มาไว้มองเพื่อให้ดูสปอร์ตและยังสามารถปรับไฟฟ้าได้ด้วย
ตามมาด้วยล้อแม็กสีขาวขนาดขอบ 17 นิ้วตัดกับตัวรถสีแดง ที่พอจะกล้าโชว์กับใครได้ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพจาก  ENKEI  รุ่นแมงมุม (ขยุมหลังคา) พร้อมรัดด้วยยาง DUNLOP รุ่น DZ101 ขนาด 205/40ZR17 ซึ่งเป็นยางซีรีส์ต่ำแต่มั่นใจได้ว่าวิ่งเร็วแล้วเสียงเงียบไม่กวนเข้าไปข้างใน จากนั้นมาดูที่ด้านหลังที่เป็นทรงท้ายลาดตูดตัด ซึ่งมีกระจกหลังสีดำดูเข้มดี ได้ติดสปอยเลอร์หลังสีดำเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ดูมาดปราดเปรียวกว่าเดิม   แถมด้วยปลายท่อแบบหม้อพักใบปลายขนาด
ใหญ่
มาที่ถึงขุมพลังของ  FORD LASER ได้สลับมาเป็นเครื่อง BP-T 1800 รุ่น GTR ที่มีเทอร์โบในตัว ซึ่งมีแรงม้ามาวิ่ง 210 ตัวในส่วนของเครื่องได้คว้านเปลี่ยนลูกสูบให้ใหญ่ขึ้นเป็นของ    ISUMI   ขนาด 83.5  มม.(เดิม  83.0 มม.) พร้อมกับขยายและขัดลื่นพอร์ทไอดี-ไอเสีย รวมไปถึงได้เปลี่ยนวาล์วให้ใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อยและปิดฝาสูบของ  FORD  แทน  ทางด้านเทอร์โบของ  IHI รุ่น RHF6 นั้นมีขนาดที่เหมาะสมดีอยู่แล้ว  แต่ได้หันมาปรับบูสท์เข้าไปแทนที่ จึงได้บูสท์ที่ 16.8 ปอนด์ เลยทำให้แรงม้าออกมาได้มากถึง 290 ตัว
    แต่ในการนี้ก็ต้องอาศัยกล่องควบคุมสีฟ้าของ e-manage ที่จูนโดยสง่าออโต้สปอร์ต ตลิ่งชั่น พร้อมด้วยอุปกรณ์เสริมต่าง  ๆ ไม่ว่าจะเป็นเวสเกจต์ของ BLITZ TYPE R ควบคู่กับโบล์ออฟวาล์วที่ติดอยู่กับเครื่องโตโยต้า  รหัส 1G-GTE ซึ่งเป็นแบบที่ไม่ระบายอากาศที่เหลือทิ้งแต่ได้ย้อนกลับมาที่ท่อไอดีเพื่อใช้ใหม่  จึงทำให้มีอัตราเร่งที่ต่อเนื่องไม่ต้องรอรอบ  ส่วนอินเตอร์คูลเลอร์ของ  APEXi หนา 3.5 นิ้วคู่กับกรองอากาศเปลือยของ  APEXi  ส่วนหัวเทียน NGK รุ่นแพลททินั่ม No.7 กับสายหัวเทียนของ GTX ยกเว้นหม้อน้ำสั่งทำให้หนาขึ้นพร้อมพัดลมซูบารุตัวเล็กแบบ  7  ใบอีก 2 ตัวซึ่งหมุนเร็วเลยระบายความร้อนได้ดี
มาที่ระบบครัชต์ก็เป็นตัวการสำคัญได้จัดเปลี่ยนแผ่นครัชต์ทองแดงแบบ  4 แฉก และเพิ่มแผ่นกดจาก 2 เป็น 3 แผ่นเพื่อให้สามารถจับได้แนบแน่นยิ่งขึ้น  แถมด้วยการล้างฟลายวีลให้บางลงเพื่อลดน้ำหนัก  เช่นเดียวกับระบบเบรคได้พึ่งคาลิปเปอร์เบรคกับจานดิสถ์ของรถสปอร์ตอย่าง มาสด้า RX7 รุ่นซาวันนา FC ในแบบ  4  พอร์ท    ส่วนช่วงล่างปรับช็อกแอบฯของ  KONI  ถึง  4  ตัว ที่สามารถปรับความหนืดได้ 4 ระดับ พร้อมด้านหน้าใส่สปริงโหลด  2  นิ้วของ TOKICO สีฟ้าส่วนด้านหลังสปริงของ JIC โหลดครึ่งนิ้วที่ช่วยรถหน้าทิ่มท้ายโด่ง
สำหรับภายในรถนั้นได้สรรหาของแต่งมาโชว์และใช้งานได้   โดยเริ่มที่จอมอนิเตอร์ของ GREDDY รุ่น E-01 ที่ต่อเชื่อมกับรีโมทคอนโทรล ซึ่งทำหน้าที่ได้มากมายหลายประการ โดยเฉพาะเป็นตัวปรับบูสท์ไฟฟ้า   ที่สามารถเซ็ทเป็นแบบออโต้ ซึ่งจะต้องเรียนรู้กับเทอร์โบ เพื่อให้ช่วยบูสท์ได้อย่างเหมาะกับการใช้งาน หรือแบบแมนน่วนได้ปรับบูสท์ไว้ที่ 16.8 ปอนด์ และสั่งให้บูสท์มาเร็วหรือช้าได้ โดยตั้งไว้  80  % และเทอร์โบจะทำงานที่  3,500  รอบ  และเมื่อต่อเชื่อมกล่อง  E-MANAGE  ของ GREEDY ก็สามารถปรับจูนน้ำมันให้มาก-น้อยและไฟแก่-อ่อนได้ด้วย
ส่วนเบาะนั่งได้ติดตั้งให้แตกต่างกันโดยเบาะนั่งของคนขับได้สลับเอาเบาะแข่งทรงบักเก็ตชีทของ RECARO  รุ่น  SPG แบบสีดำหลังแข็ง พร้อมกับเข็มขัดจาก SABELT แบบสี่จุด แต่เบาะผู้โดยสารเป็นของ  RECARO  รุ่น  SRT แบบสีดำ และข้างเบาะยังมีที่พักเท้าแขนของ  MAZDA 323 ตัวนอก ที่ต่อเชื่อมกับคอนโซลกลางได้พอดี ซึ่งภายในที่พักเท้าแขนนี้ยังเป็นที่เก็บของและวางแก้วน้ำได้ด้วย
    ทางด้านเกจวัดที่ได้คบหากับเกจวัด BOOST  METER)  กับเกจวัด FUEL  PRESS ซึ่งเป็นของ AUTO METER ส่วนเกจวัดที่ติดอยู่ที่คอพวงมาลัยนั้นเอาใช้วัด EXT.  TEMP  เป็นของ  GREDDY ในแบบหน้ามุกเพราะสามารถอ่านค่าอุณหภูมิย้อนหลังได้  และเทอร์โบทามเมอร์ของ  RAZO  ที่มีระบบ AUTO   สุดท้ายได้ปรับเปลี่ยนแอร์มาเป็นแบบดิจิตอล เป็นของ LATIS  ตัวนอกที่ใช้งานร่วมกับเซนเซอร์ 3จุดที่วัดอุณหภูมิภายนอก ,วัดแสง และวัดอุณหภูมิในตู้แอร์
คงพอจะถูกใจกันบ้างกับฟอร์ด  เลเซอร์ ซึ่งเป็นรถหายากแต่ก็สามารถปรับแต่งให้แรงเต็มพิกัดได้ไม่แพ้ใคร 

ราคาอุปกรณ์แต่ง
1.เครื่องยนต์ BP-T1800 ของ GTR              ราคา  40,000 กว่าบาท
2.ช็อกแอบฯ KONI มือสอง  4 ตัว                   ราคา   7,000    บาท
3.สปริง JIC   2 ตัวสภาพใหม่                 ราคา   2,500    บาท 
4.ปรับแต่งครัชต์                             ราคา   3,400    บาท
5.คาลิเปอร์เบรคและจานดิสถ์ของ RX7            ราคา   3,500    บาท
6.เกจวัดบูสท์ใหม่ของ AUTO METER              ราคา   2,000    บาท
7.เกจวัดแรงดันน้ำมันใหม่ของ AUTO METER        ราคา   2,000    บาท
8.เกจวัด EXT.TEMP ของ GREEDY มือสอง        ราคา   8,000    บาท
9.เทอร์โบทามเมอร์ RAZO ใหม่                 ราคา   1,200    บาท
10.แอร์ดิจิตอลของ LATIS ตัวนอก              ราคา     500    บาท             


กันตนา

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1881
    • ดูรายละเอียด
Re: FORD LASER รถนำเข้าแบบสปอร์ตซีดานสองประตู ^^
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 13, 2014, 01:26:37 PM »
 :shirty: :shirty: :shirty: :shirty: :shirty: :shirty: :shirty: :shirty:

FORD  LASER  1.8 
เพิ่มความแรง BP-T 1800
FORD LASER  รถนำเข้าแบบสปอร์ตซีดานสองประตู โดยมีรูปลักษณ์เฉพาะตัวที่มีดีไซน์ท้ายลาดตูดตัดจึงทำให้ดูแตกต่างไปจากรถยี่ห้ออื่น พร้อมกับขยับความแรงขึ้นด้วยการคว้าเครื่องรหัส  BP-T  1800 ที่ฝังอยู่ในรถแข่งขับสี่ MAZDA 323 GTR และปรับบูสท์หนัก เพื่อให้สามารถเรียกกำลังม้าได้มากขึ้น
        จากรูปลักษณ์ภายนอก FORD LASER ปี 1995 ซึ่งได้ทำให้ดูแตกต่างไปจากเดิมด้วยสเกิร์ตหน้าสีดำเพิ่มเข้าไปที่กันชนหน้า  โดยเป็นเอาของแต่งจากโตโยต้า  วีออสมาดัดแปลงเล็กน้อยใส่เข้าไปแทน  ซึ่งก็ส่งผลให้หน้าตาดูเร้าใจยิ่งขึ้น  ถัดมาที่กระจกส่องด้านข้างก็เปลี่ยนไปเช่นกัน   ได้จับเอากระจกส่องข้างสไตล์   GANADOR   มาไว้มองเพื่อให้ดูสปอร์ตและยังสามารถปรับไฟฟ้าได้ด้วย
ตามมาด้วยล้อแม็กสีขาวขนาดขอบ 17 นิ้วตัดกับตัวรถสีแดง ที่พอจะกล้าโชว์กับใครได้ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพจาก  ENKEI  รุ่นแมงมุม (ขยุมหลังคา) พร้อมรัดด้วยยาง DUNLOP รุ่น DZ101 ขนาด 205/40ZR17 ซึ่งเป็นยางซีรีส์ต่ำแต่มั่นใจได้ว่าวิ่งเร็วแล้วเสียงเงียบไม่กวนเข้าไปข้างใน จากนั้นมาดูที่ด้านหลังที่เป็นทรงท้ายลาดตูดตัด ซึ่งมีกระจกหลังสีดำดูเข้มดี ได้ติดสปอยเลอร์หลังสีดำเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ดูมาดปราดเปรียวกว่าเดิม   แถมด้วยปลายท่อแบบหม้อพักใบปลายขนาด
ใหญ่
มาที่ถึงขุมพลังของ  FORD LASER ได้สลับมาเป็นเครื่อง BP-T 1800 รุ่น GTR ที่มีเทอร์โบในตัว ซึ่งมีแรงม้ามาวิ่ง 210 ตัวในส่วนของเครื่องได้คว้านเปลี่ยนลูกสูบให้ใหญ่ขึ้นเป็นของ    ISUMI   ขนาด 83.5  มม.(เดิม  83.0 มม.) พร้อมกับขยายและขัดลื่นพอร์ทไอดี-ไอเสีย รวมไปถึงได้เปลี่ยนวาล์วให้ใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อยและปิดฝาสูบของ  FORD  แทน  ทางด้านเทอร์โบของ  IHI รุ่น RHF6 นั้นมีขนาดที่เหมาะสมดีอยู่แล้ว  แต่ได้หันมาปรับบูสท์เข้าไปแทนที่ จึงได้บูสท์ที่ 16.8 ปอนด์ เลยทำให้แรงม้าออกมาได้มากถึง 290 ตัว
    แต่ในการนี้ก็ต้องอาศัยกล่องควบคุมสีฟ้าของ e-manage ที่จูนโดยสง่าออโต้สปอร์ต ตลิ่งชั่น พร้อมด้วยอุปกรณ์เสริมต่าง  ๆ ไม่ว่าจะเป็นเวสเกจต์ของ BLITZ TYPE R ควบคู่กับโบล์ออฟวาล์วที่ติดอยู่กับเครื่องโตโยต้า  รหัส 1G-GTE ซึ่งเป็นแบบที่ไม่ระบายอากาศที่เหลือทิ้งแต่ได้ย้อนกลับมาที่ท่อไอดีเพื่อใช้ใหม่  จึงทำให้มีอัตราเร่งที่ต่อเนื่องไม่ต้องรอรอบ  ส่วนอินเตอร์คูลเลอร์ของ  APEXi หนา 3.5 นิ้วคู่กับกรองอากาศเปลือยของ  APEXi  ส่วนหัวเทียน NGK รุ่นแพลททินั่ม No.7 กับสายหัวเทียนของ GTX ยกเว้นหม้อน้ำสั่งทำให้หนาขึ้นพร้อมพัดลมซูบารุตัวเล็กแบบ  7  ใบอีก 2 ตัวซึ่งหมุนเร็วเลยระบายความร้อนได้ดี
มาที่ระบบครัชต์ก็เป็นตัวการสำคัญได้จัดเปลี่ยนแผ่นครัชต์ทองแดงแบบ  4 แฉก และเพิ่มแผ่นกดจาก 2 เป็น 3 แผ่นเพื่อให้สามารถจับได้แนบแน่นยิ่งขึ้น  แถมด้วยการล้างฟลายวีลให้บางลงเพื่อลดน้ำหนัก  เช่นเดียวกับระบบเบรคได้พึ่งคาลิปเปอร์เบรคกับจานดิสถ์ของรถสปอร์ตอย่าง มาสด้า RX7 รุ่นซาวันนา FC ในแบบ  4  พอร์ท    ส่วนช่วงล่างปรับช็อกแอบฯของ  KONI  ถึง  4  ตัว ที่สามารถปรับความหนืดได้ 4 ระดับ พร้อมด้านหน้าใส่สปริงโหลด  2  นิ้วของ TOKICO สีฟ้าส่วนด้านหลังสปริงของ JIC โหลดครึ่งนิ้วที่ช่วยรถหน้าทิ่มท้ายโด่ง
สำหรับภายในรถนั้นได้สรรหาของแต่งมาโชว์และใช้งานได้   โดยเริ่มที่จอมอนิเตอร์ของ GREDDY รุ่น E-01 ที่ต่อเชื่อมกับรีโมทคอนโทรล ซึ่งทำหน้าที่ได้มากมายหลายประการ โดยเฉพาะเป็นตัวปรับบูสท์ไฟฟ้า   ที่สามารถเซ็ทเป็นแบบออโต้ ซึ่งจะต้องเรียนรู้กับเทอร์โบ เพื่อให้ช่วยบูสท์ได้อย่างเหมาะกับการใช้งาน หรือแบบแมนน่วนได้ปรับบูสท์ไว้ที่ 16.8 ปอนด์ และสั่งให้บูสท์มาเร็วหรือช้าได้ โดยตั้งไว้  80  % และเทอร์โบจะทำงานที่  3,500  รอบ  และเมื่อต่อเชื่อมกล่อง  E-MANAGE  ของ GREEDY ก็สามารถปรับจูนน้ำมันให้มาก-น้อยและไฟแก่-อ่อนได้ด้วย
ส่วนเบาะนั่งได้ติดตั้งให้แตกต่างกันโดยเบาะนั่งของคนขับได้สลับเอาเบาะแข่งทรงบักเก็ตชีทของ RECARO  รุ่น  SPG แบบสีดำหลังแข็ง พร้อมกับเข็มขัดจาก SABELT แบบสี่จุด แต่เบาะผู้โดยสารเป็นของ  RECARO  รุ่น  SRT แบบสีดำ และข้างเบาะยังมีที่พักเท้าแขนของ  MAZDA 323 ตัวนอก ที่ต่อเชื่อมกับคอนโซลกลางได้พอดี ซึ่งภายในที่พักเท้าแขนนี้ยังเป็นที่เก็บของและวางแก้วน้ำได้ด้วย
    ทางด้านเกจวัดที่ได้คบหากับเกจวัด BOOST  METER)  กับเกจวัด FUEL  PRESS ซึ่งเป็นของ AUTO METER ส่วนเกจวัดที่ติดอยู่ที่คอพวงมาลัยนั้นเอาใช้วัด EXT.  TEMP  เป็นของ  GREDDY ในแบบหน้ามุกเพราะสามารถอ่านค่าอุณหภูมิย้อนหลังได้  และเทอร์โบทามเมอร์ของ  RAZO  ที่มีระบบ AUTO   สุดท้ายได้ปรับเปลี่ยนแอร์มาเป็นแบบดิจิตอล เป็นของ LATIS  ตัวนอกที่ใช้งานร่วมกับเซนเซอร์ 3จุดที่วัดอุณหภูมิภายนอก ,วัดแสง และวัดอุณหภูมิในตู้แอร์
คงพอจะถูกใจกันบ้างกับฟอร์ด  เลเซอร์ ซึ่งเป็นรถหายากแต่ก็สามารถปรับแต่งให้แรงเต็มพิกัดได้ไม่แพ้ใคร 

ราคาอุปกรณ์แต่ง
1.เครื่องยนต์ BP-T1800 ของ GTR              ราคา  40,000 กว่าบาท
2.ช็อกแอบฯ KONI มือสอง  4 ตัว                   ราคา   7,000    บาท
3.สปริง JIC   2 ตัวสภาพใหม่                 ราคา   2,500    บาท 
4.ปรับแต่งครัชต์                             ราคา   3,400    บาท
5.คาลิเปอร์เบรคและจานดิสถ์ของ RX7            ราคา   3,500    บาท
6.เกจวัดบูสท์ใหม่ของ AUTO METER              ราคา   2,000    บาท
7.เกจวัดแรงดันน้ำมันใหม่ของ AUTO METER        ราคา   2,000    บาท
8.เกจวัด EXT.TEMP ของ GREEDY มือสอง        ราคา   8,000    บาท
9.เทอร์โบทามเมอร์ RAZO ใหม่                 ราคา   1,200    บาท
10.แอร์ดิจิตอลของ LATIS ตัวนอก              ราคา     500    บาท             





 







 


แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.

©2013 carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com

789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999