ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Home Car Show Super Car & Import Car Off Road Car Stereo Eenergy Business Wheel & Tires Classifieds Webboard
Sport World Home & Condo Motor Cycle Cycle Bike Review & TestDrive Classic Car Motor Sport Pretty Show Sexy Lady Society News









ผู้เขียน หัวข้อ: เคล็ดไม่ลับ การทำ SEO On Page โปรโมทเว็บไซต์ รองรับ Google Search แบบเซียน  (อ่าน 828 ครั้ง)

panda42

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 10
    • ดูรายละเอียด
ความรู้เคล็ดไม่ลับ การทำ SEO On Page โปรโมทเว็บไซต์ รองรับ Google Search แบบเซียน สุดยอดความรู้

แนวทาง การทำ SEO On Page ทำการตลาด สนับสนุน Google Search แบบกูรู ยินดีต้อนรับท่านผู้มีเกียรติทุกท่านวันนี้ผมจะมานำเสนอเกี่ยวกับทำ SEOอ่านอย่างละเอียดได้จากที่นี่ การปรับ SEO ด้วยปัจจัย On Page

  ยุคปัจจุบันการทำ SEO ให้ติดอันดับ Google จะต้องมุ่งเน้นคุณภาพมากยิ่งขึ้น การปรับเว็บด้วยปัจจัย On Page จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการโปรโมทให้เว็บติดอันดับแรกๆ ของ Search Result เพราะกูเกิลอยากได้เว็บที่มีบทความคุณภาพที่มีประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชมมากที่สุด การปรับเอสอีโอเอนเพจจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการดันให้เว็บติดหน้าแรก Google เพราะหากสร้าง Qaulity Content ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม Google ก็จะนำเว็บของเราไปแสดงอยู่อันดับแรกๆ ปัจจุบันกูเกิลได้ปรับปรุงอัลกอริทึมตัวใหม่ที่ชื่อว่า RankBrain ซึ่งเป็นระบบ AI (Artificial Intelligence) ในการจัดอันดับด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ และด้วยระบบการจัดอันดับโดยใช้ RankBrain มุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับเนื้อหาคุณภาพมากกว่าเดิม เว็บที่มีบทความน้อยๆ หรือมีปริมาณหน้าที่ อินเด็กซ์ ไม่มาก แต่เน้นการเพิ่มแบ็คลิงค์มากๆ จะทำอันดับได้ยากขึ้น กลับกันกับเว็บที่มีบทความคุณภาพ และมีจำนวนหน้าเว็บที่ อินเด็กซ์ มากๆ สามารถดันอันดับได้ง่ายขึ้น การปรับให้เว็บมีบทความคุณภาพตามเกณฑ์ Quality Rater Guideline จึงมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งทางกูเกิลก็ได้ออกเอกสารสำหรับตรวจสอบคุณภาพของเว็บไซต์ โดยแบ่งความสำคัญของเนื้อหาด้วยเกณฑ์ที่ Google กำหนดขึ้น หลายๆ คนพอจะเริ่มเข้าใจกันแล้วใช่หรือไม่ครับ ว่าการปรับ On Page คือ การปรับให้เว็บรองรับการทำ SEO โดยมุ่งเน้นที่การปรับทางด้านปัจจัยภายในเว็บเป็นหลักนั่นเองครับ และการปรับออนเพจเอสอีโอก็มีหลายอย่าง เพื่อปรับให้เว็บสนับสนุน Keywords ที่อยากได้ทำอันดับบน SERPs (Search Result Pages) ว่ากันว่าการปรับออนเพจที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยทำให้เว็บติดอันดับเร็ว บางคนอาจยังงงๆ ว่าแค่การปรับหน้าเว็บไซต์ก็สามารถดันอันดับได้แล้วหรือ ผมขอบรรยายดังนี้ ว่า การปรับให้เว็บมีบทความคุณภาพ อย่างแรกเลย ระบบอัลกอริทึมจะรู้ได้ทันทีว่าเว็บที่เราสร้างขึ้นนั้น มีเนื้อหาคุณภาพ เพราะกูเกิลมีข้อมูลเยอะแยะอยู่ในมือ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ จากเว็บไซต์ทั่วโลก มาไว้บน Server ของ Google และเมื่อเราสร้างเว็บไซต์ใหม่ๆ และได้ทำการอิมพอร์ตเข้า Search Engine Console เว็บของเราก็จะถูกกูเกิลนำไปจัดทำดัชนีบนผลการค้นหา หรือที่เรียกว่า Google อินเด็กซ์ ซึ่งการที่เราเพิ่มเว็บเข้าไปในเครื่องมือ Search Console ของกูเกิลนั้น จะส่งเสริมให้กูเกิลนำเว็บของเราไปจัดทำดัชนีได้เร็วยิ่งขึ้น แน่นำว่าเว็บไซต์ใหม่ควรใช้เครื่องมือตัวนี้ หรือบางทีหากไม่นำเข้าไปในเสิร์ทคอนโซลก็อาจสร้าง Links กลับมาหาเว็บ เพื่อทำให้ Google Bots ทำการ Crawled มาเก็บข้อมูลหน้าเว็บของเราไป Index ก็ได้เช่นกันครับ การปรับหน้าเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ จะช่วยส่งเสริมให้เว็บของเราถูกหลักของ RankBrain อีกด้วย เพราะอัลกอริทึมตัวนี้มีความสามารถในการคัดเลือกเว็บคุณภาพเพื่อนำไปจัด อันดับบน Search Result ได้เป็นอย่างดีครับ ซึ่งล่าสุดหัวหน้าปรับปรุงด้าน Search Quality ของกูเกิล ได้ออกมาอธิบายว่าการจัดอันดับเอสอีโอ ยังคงใช้ Content + Links เป็นตัวแปรหลัก และสำหรับ Top 3 กูเกิลจะใช้ Content + Linsk + RankBrain ในการจัดอันดับ ซึ่ง แสดงให้เห็นชัดว่า Content มีความสำคัญต่อการทำอันดับเอสอีโอมากๆ รองลงมาก็จะเป็นเรื่องของ Links ส่วนเว็บที่ต้องการทำให้ติดอันดับ Top 3 ก็ต้องปรับให้เว็บมีคุณภาพไปอีกขั้น คือ มีเนื้อหาคุณภาพ มีลิงค์คุณภาพ แล้วต้องรองรับการจัดอันดับด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์อีกด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจว่าเว็บที่อยู่หน้าแรก จะขยับขึ้น ลงช้า เพราะมีการคัดกรองคุณภาพของเว็บหลายวิธีการ เพื่อจัดอันดับเว็บที่มีคุณภาพมากที่สุดอยู่อันดับบนสุด การปรับเอสอีโอออนเพจในยุคนี้ ยังต้องทำให้เว็บสนับสนุน User ทุกด้าน เพราะกูเกิลออกมากล่าวอยู่บ่อยๆ ว่าต้องทำเว็บให้พึงพอใจยูสเซอร์ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับยูสเซอร์ หรือที่เรียกว่า UX (User Experience) ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากๆ และมันสัมพันธ์กับอันดับ Google มากๆ เพราะยูสเซอร์ ทำให้เว็บไซต์มีค่าตัวเลขต่างๆ ที่กูเกิลนำมาใช้วัดคุณภาพของเว็บดีขึ้นนั่นเองครับ ไม่ว่าจะเป็นสถิติในส่วนของ Search Console หรือ Analytics ล้วนแต่เป็นตัวแปรหลักที่กูเกิลนำมาใช้จัดอันดับ และเอาข้อมูลเหล่านั้นมาตรวจสอบคุณภาพของเว็บตามเกณฑ์ที่กูเกิลกำหนดไว้

เขียนเนื้อหายังไงให้ถูกใจ Google

  เทคนิคการเขียนบทความให้พอใจ Google คือ การสร้างบทความให้ครอบคลุมทั้งหมดที่สอดคล้องกับเรื่องที่กำลังนำเสนอ เช่น หากเรากำลังสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับการทำ "อาหาร" เราก็ต้องบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับกรรมแนวทางการทำอาหาร แต่ละเมนู รวมทั้งเขียนอธิบายเกี่ยวกับเครื่องปรุงของเมนูอาหารนั้นๆ ตลอดจนเทคนิคขั้นตอนการปรุงอาหารให้อร่อย เป็นต้น คือ ต้องชี้แจงให้ผู้ติดตามได้รับความรู้จริงๆ และสามารถนำเอาความรู้ที่ได้จากการอ่านบทความของเรา ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้นั่นเองครับ อย่างไรก็ตามจุดสำคัญอีกอย่างของการสร้างบทความให้มีคุณภาพในสายตาของ Google คือ การโปรโมทให้คนเข้าอ่านบทความของเรามากๆ แม้ว่าบทความจะดีแค่ไหน มีรายละเอียดลึกซึ้งแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีคนอ่านเลย หรือ มีน้อย หน้าเว็บไซต์ หรือ หน้าเนื้อหาของเราก็จะติดอันดับต้นๆ ของ Google ได้ยากครับ เพราะยุคปัจจุบัน กูเกิลเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับยูสเซอร์ เป็นอันดับแรก เว็บไหนก็ตามที่มีคนเข้าเว็บมากๆ ย่อมจะมีอันดับที่ดีตามมาครับ บางทีอาจไม่ต้องสร้างลิงค์กลับมายังเว็บหลักด้วยซ้ำ สรุป การเขียนบทความคุณภาพในมุมมองของ Google คือ การเขียน Content ที่มีรายละเอียดครบถ้วน รวมทั้งมีการสืบทอดประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อ่าน อีกทั้งต้องโปรโมทให้คนเข้าอ่านเนื้อหาปริมาณมากๆ เท่านี้ เราก็สามารถเป็น Expert Writer ในวิสัยทัศน์กูเกิลได้แล้วละครับ

วิธีการปรับ On-Page SEO ให้เว็บไซต์

  การปรับเอสอีโอออนเพจแบบง่ายที่สุด และเป็นกระบวนการการดันอันดับแรกๆ เลยก็คือ การปรับให้ Title ของเว็บ Meta Description และ Meta Keywords รวมทั้งการเน้นคำ ประโยค ประโยค ให้รองรับ Keyword ที่เราอยากได้ทำ SEO ครับ การปรับไตเติ้ลของเว็บ ควรแทรกคีย์เวิร์ดหลักที่ต้องการโปรโมทให้ติดหน้าแรก Google เข้าไปด้วย ซึ่ง อันดับความสำคัญของ ข้อความ หรือ ประโยค ของไตเติ้ลจะเรียงจากซ้ายไปขวาครับ นั่นมีความหมายว่า หากเราอยากได้เน้นคีย์เวิร์ดอะไร ก็กำหนดให้อยู่ด้ายซ้ายมือสุดไว้ครับ แต่บางที ต้องให้ความสำคัญของ การทำให้ประโยคหน้าชอบด้วยครับ บางที การนำ Main Keyword ของเว็บไปอยู่ด้านหน้าสุด อาจไม่ทำให้ประโยคหน้าสนใจ ทำให้คนเห็นแล้วอาจคลิกเข้าอ่านเว็บไซต์ลดลงได้ครับ การที่คนค้นหาแล้วเจอเว็บของเรา ไม่ว่าจะเป็นหน้าหลัก หรือหน้ารอง หากมีผู้ใช้งานทำการคลิกเข้าอ่านเนื้อหาภายในเว็บ จะทำให้เว็บของเราได้รับแต้มข้อมูลของ Google Search Console ในส่วนของ Analytics for Search ซึ่ง กูเกิลจะเข้าใจว่าเว็บของเราเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดอะไรมากที่สุด และมีคนสนในคลิกเข้าเว็บไซต์ของเราจากลุ่มคีย์เวิร์ดไหน เพื่อนำเว็บของเราไปจัดอันดับในกลุ่มคีย์เวิร์ดที่มีผู้ใช้งานค้นหาและคลิ กเข้าอ่านเว็บบ่อยๆ ครับ และยิ่งมีคนคลิกเข้าอ่านเว็บของเรามากเท่าไหร่ ย่อมทำให้เว็บของเรามีค่า CTR (Click Through Rate) สูงยิ่งขึ้น และค่า CTR นี่เอง ทางเจ้าหน้าที่ Google อย่าง Andrey Lipattsev ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมปรับปรุงในด้าน Search Quality ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Search Marketing ของอเมริกาว่า Click-through-rates as a ranking signal ซึ่งสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญทางด้าน SEO อย่าง Rand Fishkin ที่ออกมาให้แนวคิด พร้อมทั้งได้ทำการทดลองเกี่ยวกับค่า CTR ว่ามีผลต่อการจัดอันดับค่อนข้างมาก รวมไปถึงการ Click เข้าเว็บผ่านการ Search Query เป็นปัจจัยที่ทำให้ติดอันดับรวดเร็วและมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล แม้ว่าทีมเวิร์คของ Google บางคน เช่น Gary Illyes ทำงานด้าน Standup Trends Analyst at Google หรือ Jonh Mueller ทำงานด้าน Webmaster Trends Analyst at Google. For webmaster help. ซึ่งไม่ได้อยู่ในแผนกการปรับปรุงระบบ Core Algorithm ได้ออกมาพูดว่า CTR และการคลิกเข้าเว็บไม่ได้เป็นปัจจัยในการจัดอันดับ Google Ranking แต่เมื่อหัวหน้าทีมปรับปรุงทางด้านคุณภาพของกูเกิลออกมายืนยัน ก็เชื่อมั่นว่าถูกต้องแล้ว อีกทั้งมันก็สัมพันธ์กับการทดลองเกี่ยวกับ SEO จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก หรือแม้แต่ตัวผมเอง ก็เข้าใจว่าปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่ออันดับดูเหมือนจะมาก และอาจเป็นตัวแปรหลักด้วยซ้ำไปครับ แม้ว่า Andrey Lipattsev จะออกมายืนยันว่า Google ยังคงใช้ Content + Link เป็นปัจจัยหลักในการจัดอันดับเอสอีโอ และจะใช้ Content + Link + RankBrain ในการจัดอันดับเอสอีโอ Top 3 ก็ตาม จากการทดสอบหลายๆ ครั้ง พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่ออันดับที่เร็ว แรง มีประสิทธิภาพสูงสุด คือ ปริมาณ Traffic ที่เข้าสู่เว็บไซต์จากที่ตั้งที่ไม่เหมือนกันทางด้านภูมิศาสตร์ และยิ่งเป็น Search Engine Traffic ยิ่งจะส่งผลทำให้เว็บติดอันดับเอสอีโอ ได้เร็วมากๆ และทราฟฟิคมีแต่จะส่งผลดีเท่านั้น ไม่เหมือนลิงค์อาจส่งผลเสียต่ออันดับเว็บได้ หากมีการ Update Algorithm แล้วระบบอัลกอริทึมเข้าใจว่าลิงค์นั้นๆ ไร้คุณภาพ ก็อาจทำให้เว็บมีอันดับที่แย่ลงได้ แน่นอนถ้าเป็นทราฟฟิคจะไม่เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว เพราะทราฟฟิคที่มาจากคนจริงๆ ย่อมจะส่งผลดีต่อเว็บเสมอ และกูเกิลจะบันทึกสถิติเหล่านั้นไว้ตลอดเวลา ตราบใดที่เรายังคงใช้งาน ชื่อเว็บ นั้นๆ อยู่ครับ เห็นไมละครับในแง่ของ SEO หากเราพูดเกี่ยวกับอะไรสักหัวข้อ มันจะแตกแขนงออกไปหลายๆ หัวข้อย่อย และหลายๆ ปัจจัย จากการประเมินผลและทดสอบเกี่ยวกับ SEO Factors มาสักพัก จริงๆ แล้วประเมินผลมายาวนานหลายปี และเห็นว่า Google มีแนวโน้นที่จะใช้คน หรือ ยูสเซอร์ เป็นปัจจัยชี้วัดคุณภาพของเว็บ เหตุผลหลักที่ Google ทำแบบนี้ เพราะนักทำ SEO สายดำ หรือที่เรียกว่า Black Hat นั้น ไม่สามารถใช้ขั้นตอนการสแปม เพื่อให้มีคนเข้าเว็บปริมาณมากๆ ได้ อีกทั้งไม่สามารถทำให้คนค้นหาจาก Search Engine พูดง่ายๆ กูเกิลเลือกใช้ปัจจัยชี้วัดคุณภาพของเว็บด้วยจำนวนผู้ใช้งาน รวมทั้งพฤติกรรมต่างๆ ของผู้ใช้งานในเว็บหนึ่งๆ ครับ ซึ่งระยะหลังเราจะได้ยินคำว่า UX (User Experience) จากเว็บเอสอีโอต่างประเทศอยู่บ่อยๆ ครับ

การปรับ On-Page ที่ดีต้องมีเนื้อหาครอบคลุม

  หลายๆ คนอาจเข้าใจว่าการปรับ On-Page ที่ดี คือการปรับแต่งเฉพาะในส่วนของ Title , Meta Description และ Meta Keywords รวมไปถึงการเน้นประโยคในประโยคที่มีคีย์เวิร์ดหลักของเว็บเท่านั้นๆ จริงๆ แล้วหากเป็นเมื่อหลายปีก่อนอาจจะใช้แค่การปรับเท่าที่กล่าวมาข้างต้นก็เพียง พอแล้ว แต่การทำเอสอีโอยุคปัจจุบันการปรับแค่นี้ยังไม่เพียงพอต่อคำว่าคุณภาพในสาย ตาของ Google เพราะคำว่าคุณภาพในมุมมองของกูเกิล คือ การทำให้เว็บมีเนื้อหาที่ครบคลุมเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ อย่างสมบูรณ์แบบ ตลอดจนสามารถสืบทอดประสบการณ์ของผู้เขียนเข้าไปในเนื้อหาอีกด้วย เพื่อผู้อ่านได้รับประโยชน์สูงสุดจากการอ่านข้อมูลภายในเว็บไซต์ อีกทั้งในยุคปัจจุบันเราไม่มีความจำเป็นต้องเน้นคำ หรือ ข้อความ มากมาย เหมือนสมัยก่อน Google ก็เข้าใจได้ว่าเรากำลังสร้างบทความเกี่ยวกับอะไร และอยากได้นำเสนอให้กับผู้เยี่ยมชมในกลุ่มไหน คีย์เวิร์ดอะไร และใครบ้างควรได้อ่านบทความของเรา ซึ่งเรื่องพวกนี้กูเกิลเขาปรับปรุงระบบอัลกอริทึมและระบบปัญญาประดิษฐ์มารองรับ การสร้างเว็บของเรา เพื่อออกสู่วิสัยทัศน์ผู้ใช้งานทั่วไปอยู่แล้วครับ ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเขียนบทความได้ดีแค่ไหน ถูกใจกูเกิลและผู้เยี่ยมชมมากน้อยเพียงใด เพราะผู้ใช้งานคือผู้บอกให้กูเกิลทราบว่าเว็บเรามีคุณภาพหรือไม่ จากสถิติคนเข้าเว็บ ระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในหน้าเว็บ (Time Session) ค่าอัตตราตีกลับ (Bounce Rate) ปริมาณการเปิดหน้าเว็บไซต์ (PageView) ตำแหน่งของผู้ใช้งาน (Geography) สถิติเหล่านี้สะท้อนถึงคุณภาพของเว็บได้เป็นอย่างดีครับ และมุ่งมั่นห้ามคัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นมาโพสต์ลงในหน้าเว็บของเราเด็ดขาด เพราะ Google จะคิดว่าเว็บของเราเป็น Duplicate Content หรือเป็น Spam Content ได้ครับ หากต้องการอ้างอิงบทความจากเว็บไซต์อื่น ให้ทำการเขียนใหม่ตามความเข้าใจของเราครับ แน่นอนว่าคุณอาจเคยเจอเว็บที่คัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นมาแล้วมีอันดับเอสอีโอ ที่เจ๋งกว่าเว็บต้นฉบับ เช่น Sanook , Kappok , mthai บางทีเว็บเหล่านี้ก็คัดลอกบทความจากเว็บอื่นมา แล้วให้เครดิตกับเว็บต้นฉบับ แต่อันดับเอสอีโอดันสุดยอดกว่า ไม่ต้องสงสัยกันครับ เพราะเว็บพวกนี้เป็นเว็บขนาดใหญ่มีจำนวนผู้ใช้งานเข้าเว็บปริมาณมากมาย มากมายก่ายกอง และด้วยปริมาณทราฟฟิคมากๆ ทำให้กูเกิลเข้าใจว่ามีคุณภาพมากกว่าครับ ยังไงถ้าเป็นเว็บใหม่ หรือเว็บไม่ใหญ่ ไม่ควรคัดลอกบทความจากเว็บอื่นมาเป็นอันขนาดครับ เพราะอาจทำให้เว็บมีอันดับร่วงไปจากเดิมได้ครับ

ปรับ On-Page ที่ดีต้องแชร์บทความไปยัง Facebook

  แม้ว่ายุคปัจจุบัน Google จะปรับปรุงระบบอัลกอริทึมไปอย่างรวดเร็ว มีระบบอัลกอริทึมใหม่ๆ ออกมาเยอะแยะ อีกทั้งได้ปรับปรุงระบบ Algorithm ให้มีขีดความสามารถในการคัดเลือกคุณภาพของเว็บได้มากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าการเขียนบทความ
คุณภาพอย่างเดียวก็สามารถติดอันดับแรกๆ ของ Main Keyword และ Niche Keyword บ้างอาจเรียก Long tial keywords ได้ แต่ระดับการแข่งขันเอสอีโอของแต่ละคีย์เวิร์ดย่อมแตกต่างกันออกไป สำหรับคีย์ที่มีการแข่งขันสูงๆ และมีคนค้นหามากๆ มีตัวเลขเกิดขึ้นเยอะแยะในแต่ละวันของคีย์เวิร์ดนั้นๆ การที่เราอาศัยแค่เขียนเนื้อหาดีอย่างเดียวอาจไม่สามารถรับประกันในการทำให้ติด อันดับแรกๆ ของ Search Result ได้ครับ เพราะว่ากูเกิลไม่ได้มองแค่คุณภาพของบทความ ความยาวของบทความ ความลึกซึ้งของบทความ เพียงอย่างเดียว เพราะบางทีเนื้อหาที่มีรายละเอียดเยอะ แต่บางครั้งคนไม่ชอบอ่านก็มี Google จึงใช้ User เข้ามาตัดสินว่าเว็บไหนมีคุณภาพ เนื้อหาไหนควรอยู่อันดับต้นๆ ของ SERPs เริ่มเข้าใจกันบ้างแล้วใช่ไหมครับว่า การสร้างเว็บคุณภาพด้วยการสร้างเนื้อหา
คุณภาพ มีความจำเป็นต้องมีคนอ่าน ยิ่งคนอ่านเยอะเท่าไหร่ ยิ่งแสดงว่ามีคุณภาพมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าหากเราสร้างบทความที่ดี เว็บของเราก็จะติดอันดับคีย์เวิร์ดรองหลายๆ คีย์ และผู้ค้นหาจะเจอหน้าย่อยของเราได้มากขึ้น แต่การรอให้ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นต
รูปที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องเคล็ดไม่ลับ การทำ SEO On Page โปรโมทเว็บไซต์ รองรับ Google Search แบบเซียน
ไขข้อข้องใจ การทำ SEO On Page ทำการตลาด รองรับ Google Algorithm แบบกูรู
อ้างอิงจาก: ทำ SEO
แท็ก: ทำ SEO
อ้างจาก: ทำ SEO
เคล็ดไม่ลับ การทำ SEO On Page โปรโมทเว็บไซต์ รองรับ Google Search แบบเซียน
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/สูตรการทำ-SEO-แบบใหม่
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/คำถามก่อนจ้างทำ-SEO
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: Hamony Office หมู่ 1 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 50210
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com





 







 


แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome
1440*900 resolutions.

©2013 carshowsociety.com
Web Creative Design by Qisza.com

789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
มือถือ : 08-4659-4999