หน้าแรก » รีวิวรถ/Review -TestDrive » HONDA » New Honda City 1.5 CNG ขับคล่องตอบสนองลงตัวประหยัดสุด...สุด ... |
22-เมษายน | 1497 |
|
New Honda City 1.5 CNG
ขับคล่องตอบสนองลงตัวประหยัดสุด...สุด ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมาได้เคยทดสอบอย่างเป็นทางการกับ New Honda City 1.5 CNG มาแล้ว ซึ่งขับกันในช่วงสั้น ๆ แบบไปเช้าเย็นกลับ โดยรวมยอมรับว่าถูกใจในความประหยัดเช่นเดียวกับครั้งนี้ พร้อมกับสมรรถนะในการขับขี่ที่ตอบสนองได้อย่างลงตัว แต่ด็อปลงบ้างในช่วงใช้ก๊าซ และช่วงล่างนุ่มนวลใช้ได้ รวมถึงทรงตัวนิ่งในทุกเส้นทาง รูปทรงเฉี่ยวหรูพอตัว ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี ใหม่ ได้รับการดีไซน์ให้มีความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว โดยให้ความโดดเด่นตั้งแต่มุมด้านหน้าที่ลาดลง ดีไซน์กันชนให้ลู่ลม พร้อมกับกระจังหน้าและไฟหน้าแบบ Solid Wing ที่แฝงอารมณ์แบบสปอร์ต ส่วนเส้นสายด้านข้างจะมีความลึกและคมชัด ขณะที่ ด้านหลังจะเน้นลายเส้นที่ต่อเนื่อง เชื่อมต่อไฟท้ายด้วยคิ้วฝากระโปรงเพิ่มให้รถดูกว้างขึ้น และไฟท้ายแบบ Brilliant cut ที่น่ามอง ภายในห้องโดยสารดูแล้วยอมรับว่าล้ำสมัยและมีความสปอร์ตในตัว พร้อมตกแต่งด้วยสีเบจช่วยให้หรูขึ้นและสว่างตา แต่ในรุ่น V CNG AT ที่คอนโซลหน้าแบบ Piano Black โดยออกแบบคอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกันกับคอนโซลกลางแบบ T Zone พร้อมสวิตช์เลือกปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานได้ระหว่างน้ำมันและก๊าซ CNG ไฟแสดงสถานการณ์ใช้และปริมาณก๊าซ ส่วนพื้นที่ด้านหลังกว้างสบายยิ่งขึ้น โดยขยายพื้นที่บริเวณหัวไหล่เพิ่มขึ้นอีก 40 มิลลิเมตรกับ พื้นที่วางขาด้านหลังเพิ่มอีก 60 มิลลิเมตร และเบาะนั่งหลังยังเอนได้สบาย ขุมพลัง 1500 ติดก๊าซ CNG ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,500 ซีซี.แบบ i-VTEC รองรับทั้งระบบน้ำมันเชื้อเพลิงและระบบการจ่ายเชื้อเพลิงแบบก๊าซ CNG โดยระบบน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที ส่วนระบบก๊าซ CNG ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 127 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที ผสานกับระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่ขยายอัตราทดเกียร์ให้กว้างขึ้น พร้อมระบบ G-Design Shift ช่วยให้อัตราเร่งตอบสนองได้เร็วยิ่งขึ้น สำหรับระบบก๊าซ CNG ให้ความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการติดตั้งมาจากโรงงาน โดยถังก๊าซ CNG มีความจุ 65 ลิตร ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูงทนทานต่อก๊าซแรงดันสูง พร้อมจุดยึดถังก๊าซและโครงสร้างตัวถังแน่นหนาตามมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมแผงกั้นถังก๊าซเพื่อแบ่งสัดส่วนพื้นที่ติดตั้งถังก๊าซกับห้องสัมภาระด้านท้ายที่ต้องเหลือน้อยลง ขณะที่ตำแหน่งหัวรับเชื้อเพลิง CNG ได้รับการออกแบบให้อยู่ใกล้กับจุดเติมน้ำมัน พร้อมลิ้นป้องกันการไหลย้อนกลับของก๊าซ ขับประหยัดกว่าที่คิด หลังจากได้รถ Honda City 1.5 CNG รุ่น V มาลองขับในครั้งนี้ ทำให้มีเวลาในการสังเกตุมากขึ้น โดยเฉพาะการออกแบบภายในห้องโดยสารน่าจะดีกว่านี้ ซึ่งไม่ค่อยถูกใจหน้าปัดเครื่องเสียงที่มีขนาดเล็กเกินไปเป็นแบบขาว-ดำดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ และอีกอย่างพวงมาลัยน่าจะเป็นแบบมัลติฟังชั่นควบคุมเครื่องเสียงได้ แต่นี้ไม่มีมาให้เลย ส่วนที่โดนใจน่าจะเป็นคุณภาพของเครื่องเสียงที่หลังจากได้เปิดเล่น MP 3 สามารถทำงานได้น่าพอใจ ไม่ต้องมาโหลดใหม่หลังจากดับเครื่องยนต์ เมื่อเทียบกับฮอนด้า แจ๊สใหม่ จะต้องถอดปลั๊กเสียบยูเอสบีใหม่ทุกครั้งที่ดับเครื่อง ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร แต่ในซีตี้รุ่นนี้สามารถเล่นเพลงได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญเสียงที่ออกมาจากลำโพงที่ให้มา 6 ตัวหนักแน่นด้วยเสียงเบสที่กระหึ่มพอตัว พร้อมกับลำโพงทวิตเตอร์ที่อยู่ข้างมือเปิดประตูสามารถให้รายละเอียดเสียงได้ดี รวมแล้วเสียงเพลงที่ออกมาฟังเพราะได้อารมณ์ ในการลองขับครั้งนี้ ได้มีโอกาสขับไปทำงาน พร้อมกับช่วงวันหยุดได้ขับไปท่องเที่ยว ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แถวสมุทรสงครามในแบบไปเช้าเย็นกลับ ระยะทางไป-กลับประมาณ 300 กม. ก็เพียงพอกับการรับรู้ถึงสมรรถนะของฮอนด้า ซีตี้ ซีเอ็นจี และสะดวกสบายตั้งแต่สตาร์ทรถเพียงกดปุ่มเครื่องก็ติดแล้ว ซึ่งช่วงแรกจะใช้น้ำมันจนเครื่องวอร์มได้ทีแล้วจึงปรับเปลี่ยนเป็นก๊าซโดยอัตโนมัติ ส่วนการทำงานของเครื่องยนต์ของรุ่นนี้จะมีกล่องอีซูยูควบคุมถึง 2 ตัว โดยแยกการทำงานในขณะที่ใช้น้ำมันจะใช้อีซียูตัวที่ 1 หลังจากเปลี่ยนเป็นระบบก๊าซ ถึงจะใช้อีซูยูตัวที่ 2 ซึ่งจะประมวลผลแม่นยำในการจ่ายก๊าซอย่างเหมาะสม พร้อมกับช่วยตัดการจ่ายก๊าซทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือระบบทำงานผิดปกติ สำหรับเส้นทางได้ใช้ถนนบรมราชชนนีผ่านนครปฐม แต่ไม่ได้เร่งรีบมากนัก เลยขับแบบใช้งานทั่วไปใช้ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 100-110 กม./ชม. ซึ่งเพียงพอกับการเดินทางไปต่างจังหวัดใกล้ ๆ เพราะสามารถให้กำลังอย่างต่อเนื่องพร้อมกับเกียร์ CVT ใหม่ที่ทำงานอย่างราบรื่นให้จังหวะในการเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลทำให้เร่งความเร็วขึ้นได้เรื่อย ๆ แต่ถ้าเป็นช่วงที่ต้องเร่งแซงรถคันอื่นก็สามารถผ่านไปได้อย่างสบาย หากใช้ความเร็วอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นช่วงชะลอถ้าจะแซงคงต้องกดคันเร่งให้มาก เพื่อจะได้ลากรอบให้สูงราว 4,000 กว่ารอบ ถึงจะผ่านได้อย่างมั่นใจ ทั้งนี้เพราะกำลังของเครื่องเวลาใช้ก๊าซจะน้อยกว่าขณะใช้น้ำมันประมาณ 18 แรงม้าพร้อมกับแรงบิดที่หายไป 18 นิวตันเมตร ทำให้สมรรถนะดรอปลงแต่ไม่มาก ขณะเดียวกันถ้าขับไปเรื่อย ๆ จะไม่รู้สึกแตกต่างกันมากนัก จะพอรับรู้ได้บ้างในช่วงที่เร่งเครื่องจะมีการตอบสนองที่ช้ากว่าเล็กน้อย และขับสบายยิ่งขึ้นเพราะพวงมาลัยเป็นแบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ทำให้เบามือในช่วงความเร็วต่ำ และหนักมือขึ้นในเวลาที่ใช้ความเร็วสูง ที่สำคัญถ้าต้องการเปลี่ยนเลน หรือเร่งแซง การบังคับเลี้ยวให้ความแม่นยำได้ดีทีเดียว ส่งผลให้ขับได้คล่องตัว เช่นเดียวกับระบบเบรกที่ให้ความนุ่มเท้ากดลึกนิดหนึ่งแต่เอาอยู่ได้อย่างสบาย และระหว่างทางขณะขับที่ความเร็ว 100 กม./ชม.ได้ลองสลับเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเพียงแค่กดปุ่มที่สวิตซ์เลือกชนิดเชื้อเพลิงจะเห็นว่าไฟแสดงสถานะการใช้เชื้อเพลิงจะทำการกระพริบอยู่สักพัก เพราะระบบกำลังทำการประมวลผล เพื่อให้เปลี่ยนจากก๊าซไปใช้น้ำมันสอดคล้องสัมพันธ์กันไม่มีอาการสะดุดให้รู้สึกแม้แต่น้อย ซึ่งไม่ว่าจะลองสลับเปลี่ยนจากก๊าซมาน้ำมัน หรือน้ำมันมาก๊าซไป-มาอยู่หลายครั้งก็ยังให้ความเนียนราบรื่น ในส่วนของช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท กับด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม โดยได้รับการปรับเซ็ททั้งโช้คและสปริงด้านหลังให้มีค่าเคสูงขึ้นกว่าเดิม เรียกว่าให้มีความแข็งมากขึ้น เพื่อรองรับน้ำหนักของถังก๊าซที่มีน้ำหนักพอตัว ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ท้ายรถห้อย แต่ถึงอย่างนั้นไม่ได้ทำให้การขับรู้สึกกระด้างตามไปด้วย กับให้ความนุ่มนวลใช้ได้จะมีสะเทือนบ้างเล็กน้อยในช่วงรอยต่อของถนนและทางขุรขระ ที่สำคัญให้การทรงตัวที่หนึบขึ้นเวลาที่ใช้ความเร็วเข้าโค้ง และยิ่งกว่านั้นด้านหลังยังติดครอสบาร์ ซี่งเป็นคานเสริมความแข็งแกร่ง ที่ช่วยเพิ่มการทรงตัวให้ดียิ่งขึ้นทำให้เวลาขับเร็ว ๆ ระดับ 140 กม./ชม.รถยังวิ่งนิ่งได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ในรุ่นนี้ยังมีระบบ ECO Coaching มาให้ด้วย เพื่อให้ผู้ขับได้เรียนรู้พฤติกรรมการขับที่ประหยัดยิ่งขึ้น เพราะสังเกตุการเปลี่ยนสีที่มาตรวัดถ้าเป็นสีเขียวถือว่าใช้ได้ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องรู้จักใช้คันเร่งให้เป็นแบบค่อย ๆ กดคันเร่งเติมความเร็ว และหัดคุมคันเร่งให้นิ่งจริง ๆ แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ระบบก๊าซระบบ ECO Coaching จะไม่ทำงาน ต้องยอมรับว่าถูกใจกับฮอนด้า ซีเอ็นจี ทั้งรูปทรงโดยรวมที่ปราดเปรียว ภายในนั่งสบายกว้างพอตัว สมรรถนะการขับขี่น่าพอใจ ที่สำคัญให้ความประหยัดจากการใช้ก๊าซได้มากทีเดียว และสามารถรับรู้ได้จริง เพราะระยะทางไป-กลับครั้งนี้เฉลี่ยออกมาราว 65 สตางค์ต่อกม. คาดไม่ถึงว่าจะเชฟเงินในกระเป๋าได้ขนาดนี้ เอาเป็นว่ารุ่นท๊อปราคา 711,000 บาท น่าสนเหมือนกัน ข้อมูลทางเทคนิค เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว i-VTEC ความจุ 1497 กระบอกสูบXช่วงชัก 73X89.4 อัตราส่วนกำลังอัด 10.3:1 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดมัลติพอยท์ PGM-FI กำลังสูงสุด (น้ำมัน) 120 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด (ก๊าซ) 102 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ CVT ระบบรองรับ หน้า/หลัง แม็กเฟอร์สัน สตรัท อิสระพร้อมเหล็กกันโคลง / ทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape ระบบเบรกหน้า/หลัง ดิสถ์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน / ดรัมบรก มิติตัวรถยาว xกว้างx สูง (มม.) 4,440x1695x1,471 ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 40 ถังบรรจุก๊าซ CNG (ลิตร) 65 |
เรื่องอื่นๆ ในหมวด |
aion-v-24nov24
|
New Audi A7 Sportback 2018 ใหม่ Audi A7 Sportback 2018 โฉมใหม่ พร้อมถล่มตลาดรถหรู 4 ประตู ทรงคูเป้ ในไทยที่งาน Motor Show 2018 และคู่แข่ง Audi A7 Sportback 2018 โฉมใหม่.. |
Mercedes-Benz SLC In March 2016, 20 years on from the birth of its segment.. |
Mercedes-Benz SLC43 AMG There need be no contradiction between high driving dynamics and low fuel consumption... |
Mercedes-Benz S600 Pullman Maybach Guard The absolute flagship model from Mercedes-Maybach with face-to-face.. |
ทั้งหมด -»» |
|
แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome 1440*900 resolutions. ©2013 carshowsociety.com Web Creative Design by Qisza.com |
789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 มือถือ : 08-4659-4999 |