หน้าแรก » รีวิวรถ/Review -TestDrive » MITSUBISHI » All New Mitsubishi Triton รูปทรงมีมิติแรงต่อเนื่องทรงตัวนิ่ง... |
9-มิถุนายน | 1591 |
|
All New Mitsubishi Triton
ถึงเวลากับรูปโฉมใหม่ของ All New Mitsubishi Triton ซึ่งดีไซน์ให้มีรูปทรงปราดเปรียว พร้อมภายในกว้างนั่งสบายแต่งแบบทูโทนให้อารมณ์สปอร์ตมากขึ้น และจุดขายน่าจะอยู่ที่ขุมพลังดีเซล แบบไมเวค วีจี เทอร์โบอลูมินัม อัลลอย บล็อก ขนาด 2.4 ลิตรที่ให้กำลัง 181 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดสามารถตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างต่อเนื่องและช่วงล่างแน่นปึก รูปทรงมีมิติแรงต่อเนื่องทรงตัวนิ่ง รูปทรงดีไซน์สามมิติ ในการออกแบบเป็นแบบ 3 มิติ ให้ความรู้สึกแตกต่างกันเมื่อมองจากด้านหน้า ด้านบน และด้านข้าง พร้อมการออกแบบที่โค้งมนกับเส้นสายที่ลงตัวจากกระจังหน้า ชุดไฟหน้าและกันชนหน้า ส่วนกระจังหน้าโครเมียมแบบช่องแนวตั้งมีครีบระหว่างช่อง พร้อมไฟหน้าดีไซน์เรียวยาวเฉี่ยวกว่าเดิมในแบบโปรเจคเตอร์ HID ทั้งไฟสูงและไฟต่ำพร้อมไฟเดย์ไลท์อยู่ที่ขอบด้านบน ขณะที่ด้านข้างรุ่นดับเบิ้ลแค็บมาในสไตล์ J-Line พร้อมกระจกมองข้างโครเมียมแบบมีไฟเลี้ยวในตัวและล้ออัลลอยดีไซน์สไตล์ตัว V แบบ 6 ก้าน ขนาด 17 นิ้ว ส่วนด้านหลังมีความโค้งมนทันสมัย พร้อมไฟท้ายสไตล์รถเก๋งให้ทอดยาวไปจนถึงด้านข้าง และไฟเบรกดวงที่ 3 บริเวณฝาท้ายกระบะติดกล้องถอยหลังที่มีขนาดเล็ก และกันชนหลังดีไซน์ให้ทันสมัยลงตัว สามารถเป็นทั้งบันไดและกันชนในชิ้นเดียวกัน ภายในทูโทนอารมณ์สปอร์ต ห้องโดยสารออกแบบให้กว้างขวางสะดวกสบาย โดยตกแต่งแบบทูโทนด้วยสีดำและสีเทาให้อารมณ์สปอร์ตและผสมผสานระหว่างสีดำแบบ Piano Black กับการตกแต่งแบบ ซิลเวอร์ เดคคอเรชั่น ขณะที่มาตรวัดแบบ Combination meter ปรับแสงสว่างหน้าปัดได้ 8 ระดับ พร้อมจอแสดงผลข้อมูล และพวงมาลัยสไตล์ 3 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่นที่มีสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงกับควบคุมความเร็วอัตโนมัติ กับแป้นเกียร์แบบขั้นบันได ด้านความบันเทิงติดตั้งวิทยุ ซีดี MP3 ดีวีดี พร้อมจอภาพแบบระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้วระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย กับระบบนำทาง พร้อมช่อง USB และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา ส่วนเบาะนั่งหน้าพนักพิงให้ความกว้างและยาวขึ้นเพื่อโอบรับกับสรีระ พร้อมเบาะคนขับสามารถปรับสูง-ต่ำได้ และปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง แต่เบาะนั่งหลังพนักพิงเอนน้อยไปถ้าเอนมากกว่านี้จะนั่งสบายยิ่งขึ้น รวมถึงระบบกุญแจอิมโมบิไลเซอร์ กับระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ขับนิ่งอัตราเร่งต่อเนื่อง เครื่องยนต์ใหม่แบบอลูมินัม อัลลอย บล็อกแบบ 4 สูบ ขนาด 2,442 ซีซี. DOHC 16 วาล์วที่สำคัญนำระบบวาล์วแปรผันแบบ MIVEC มาใช้เป็นครั้งแรกในเครื่องดีเซล พร้อมกับวีจีเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที กับแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึง20% ในการทดสอบครั้งนี้ได้ใช้รถ Mitsubishi Triton 2.4 GLS-LTD แบบ 4 WD รุ่น Double Cab ซึ่งให้ความสะดวกสบายด้วยระบบกุญแจอัฉริยะ KOS แค่เดินไปที่รถสามารถเปิดประตูได้เลย และเข้าไปนั่งเหยียบเบรกกดปุ่มสตาร์ทเครื่องก็ติดแล้ว ไม่ต่างจากรถเก๋ง ที่สำคัญเสียงเครื่องเงียบขึ้น เพราะเล่นติดวัสดุซับเสียงในหลาย ๆ จุด ช่วงแรกของการขับพอจะรับรู้ได้ถึงกำลังช่วงตีนต้นที่ไม่ค่อยพุ่งเท่าไหร่ เพราะเทอร์โบทำงานชักช้าไปหน่อยทำให้ต้องรอรอบกว่าจะมาได้เกือบ 2000 รอบถึงจะสามารถวิ่งได้กระฉับกระเฉงมากขึ้น แต่เมื่อรถลอยตัวแล้วคราวนี้เรียกกำลังออกมาได้อย่างสบาย และนั้นทำให้ความเร็วที่100 กม./ชม.ใช้เวลาไม่มาก พร้อมกับเหลือบดูความเร็วที่ 100 กม./ชม.ที่ 1900 รอบ จัดว่าประหยัดขึ้นจริง ๆ พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละจังหวะได้อย่างต่อเนื่องนุ่มนวลไม่มีอาการสะดุด ทำให้เวลาเพิ่มความเร็วมาที่ 130 กม./ชม.ที่2500 รอบทำได้อย่างที่ต้องการ ในช่วงรอบกลางจัดว่าอัตราเร่งมาอย่างลื่นไหลพอตัว ทำให้เวลาเร่งแซงรถคันอื่นผ่านไปได้สบาย แต่บางครั้งที่ใช้คิกดาวน์กับตอบสนองไม่ดีเท่าที่ควร และถ้าจะให้ขับสนุกขึ้นต้องหันมาเล่นเกียร์แบบแมนนวล ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เอง โดยใช้รอบในแต่ละเกียร์ประมาณ 2500 รอบ จะรับรู้ได้ทันทีว่าสามารถเรียกกำลังออกมาได้เร็วขึ้น สำหรับช่วงล่างได้รับการปรับปรุงใหม่พร้อมการติดตั้งคานเหล็กกันกระแทกเพิ่มความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยด้านเป็นแบบปีกนก 2 ชั้น ส่วนด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อนติดตั้งเหนือเสื้อเพลา พร้อมโช้คอัพไซส์ใหญ่และยังออกแบบจุดยึดรวมทั้งปรับตั้งแหนบใหม่ จึงส่งผลให้ช่วงล่างทรงตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และระหว่างที่ขับอยู่บนมอเตอร์เวย์ความเร็วระดับ 120 กม./ชม.ต้องยอมรับว่าภายในห้องโดยสารเก็บเสียงได้ดี และเมื่อความเร็วขึ้นมาที่ 140 กม./ชม. ซึ่งถ้าเป็นกระบะรุ่นอื่นต้องรู้สึกมีอาการหวิวบ้าง แต่สำหรับไทรทันกับไม่รู้สึก เพราะให้การทรงตัวที่หนึบแน่นเหมือนรถวิ่งไม่เร็วเท่าไหร่ แค่นั้นยังไม่พอเมื่อความเร็วเขยิบมาที่ 160 กม./ชม. รถยังวิ่งนิ่งอยู่เลย แต่ถึงอย่างนั้นพอมาถึงเส้นทางระหว่างบ้านบึง-ระยอง ซึ่งถนนส่วนใหญ่จะมีทั้งรอยปะและขุรขระตลอดทาง ทำให้รับรู้ถึงช่วงล่างที่มีความแข็งกระด้างไปหน่อย เพราะทุกครั้งที่ขับผ่านทางขุรขระจะมีแรงสะเทือนและเสียงขึ้นมาทันที ซึ่งในรุ่นดับเบิ้ลแค๊ปน่าจะเซ็ทช่วงล่างให้นุ่มนวลมากกว่านี้ เพราะเน้นนั่งมากกว่าบรรทุก ขณะที่ระบบเบรกในแบบหน้าดิสถ์หลังดรัมสามารถตอบสนองได้ทันทีเพียงแค่เหยียบเบรกไม่มาก สำหรับมิตซูบิชิ ไทรทันใหม่ รุ่นดับเบิ้ลแค๊ป ส่วนใหญ่จะเน้นใช้งานอเนกประสงค์มากกว่าใช้บรรทุก ภายในให้ความสะดวกสบายอย่างรถยนต์นั่ง สมรรถนะตอบสนองได้ดี เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งรุ่นท็อปนี้ราคาอยู่ที่ 1,008,000บาท ดูจะสูงไปสักหน่อย |
เรื่องอื่นๆ ในหมวด |
New Audi A7 Sportback 2018 ใหม่
|
Mercedes-Benz SLC In March 2016, 20 years on from the birth of its segment.. |
Mercedes-Benz SLC43 AMG There need be no contradiction between high driving dynamics and low fuel consumption... |
Mercedes-Benz S600 Pullman Maybach Guard The absolute flagship model from Mercedes-Maybach with face-to-face.. |
TRA สถาบันสอนขับรถแข่ง ที่กล้ายืนยัน ว่าดีที่สุดในเมืองไทย TRA สถาบันสอนขับรถแข่ง ที่กล้ายืนยัน ว่าดีที่สุดในเมืองไทย.. |
ทั้งหมด -»» |
|
แสดงผลได้กับ IE9+/Firefox/Chrome 1440*900 resolutions. ©2013 carshowsociety.com Web Creative Design by Qisza.com |
789/4 ซ.ลาดพร้าว 48 แยก 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 มือถือ : 08-4659-4999 |