7-มิถุนายน  |   2184

All New Mazda 2 ขับสนุกแรงเกินตัว..หนึบแน่นทุกโค้ง       ถึงจะเป็นอีโคคาร์แต่สำหรับ All New Mazda 2 สกายแอคทีฟ กับมีจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะขุมพลังคลีนดีเซลเทอร์โบ 1500 ซีซี ที่ให้กำลัง 105 แรงม้ากับให้พลังแรงบิดสูงในรอบต่ำ  พร้อมรูปทรงโฉบเฉี่ยวสะท้อนเส้นสายที่ลงตัว ภายในเน้นโทนดำเพิ่มความสปอร์ตนั่งกระชับมีฟังชันท์การใช้งานครบ และขับสนุกให้ความคล่องตัวสูง รูปโฉมเฉี่ยวลงตัว     ในการออกแบบของมาสด้า 2 ใหม่ยังคงมาสไตล์โคโดะ ไฟหน้าฮาโลเจนแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ทรงกลม พร้อมเส้นของกระจังหน้าแบบใหม่ที่ดูแข็งแรงมากขึ้นในสไตล์สามมิติ และสะท้อนเส้นสายบนตัวถังที่เริ่มต้นที่ซุ้มล้อด้านท้ายที่ดูแข็งแรงและค่อยๆถ่ายทอดมาตามเส้นสายด้ายข้างของตัวถังไปสู่ด้านหน้าของตัวรถ ขณะที่ด้านข้างเด่นด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด16 นิ้วปัดหน้า และฝากระโปรงท้ายเป็นส่วนเชื่อมผสานพื้นผิวของชิ้นงานสองส่วนด้านท้ายช่วยเน้นความสวยงามของเส้นสายและพื้นผิวการออกแบบด้านหลังตัวรถ  พร้อมกับไฟท้ายที่เน้นความโฉบเฉี่ยวลากผ่านไปบนฝากระโปรงท้ายรับเข้ากันกับบริเวณติดป้ายทะเบียนได้ทุกแบบ  ภายในโทนดำทันสมัย     ภายในเน้นโทนเข้มสีดำสไตล์ ALL BLACK และเน้นคุณภาพที่ประณีต ใช้วัสดุเกรดพรีเมียมผสมผสานกับวัสดุที่ทันสมัย โดยแผงอุปกรณ์ตกแต่งภายในใช้สีและการเคลือบเงาเพื่อความสวยงาม ตกแต่งผิววัสดุด้วยลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์ โดดเด่นด้วยหน้าจอแบบ Active Driving Display ที่แสดงข้อมูลในการขับขี่กับความเร็วขณะขับขี่ พร้อมหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลของเครื่องเสียงและข้อมูลการทำงานอื่นๆ และหน้าปัดมาตรวัดทรงกลมขนาดใหญ่ กับปุ่มควบคุม Center Commander สามารถเลือกดูข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอ พร้อมระบบ Voice Commander ที่สั่งการทำงานต่างๆ ด้วยเสียง และระบบ MZD Connect ทำงานผสานกับ Smart Phone  ส่วนคอนโซลกลางรูปแบบใหม่ติดตั้งปุ่มควบคุมเครื่องเสียง   ขณะที่เบาะนั่งสีดำเป็นแบบบักเก็ตชีทแต่งด้ายแดงเดินตะเข็บคู่ DOUBLE LINNIG STITCH เพิ่มอารณ์สปอร์ต  และเบาะนั่งหลังแยกพับซ้าย-ขวา 60:40 ได้  แต่ติที่สวิทซ์เปิดกระจกที่ดูไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าไหร่ ขับสนุกแรงจัดคล่องตัว        ขุมพลังเครื่องสกายแอคทีฟคลีนดีเซล SKYACTIV-D เจนเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้าขนาด 1500 ซีซี มาพร้อมเทอร์โบแปรผันที่มีน้ำหนักเบา และมีอัตราส่วนการอัดต่ำเพียง 14.8:1  ให้กำลังสูงถึง 105 แรงม้า และให้แรงบิดสูง 250 นิวตัน-เมตร เทียบเท่าเครื่องเบนซินขนาด 2500 ซีซี  พร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ในการทดสอบ All New Mazda 2  มีทั้งรุ่นซีดาน 4 ประตู  และรุ่นแฮทช์แบลค์ 5 ประตู รวมทั้งหมด 20  คัน ซึ่งได้เลือกใช้เส้นทางโดยรอบของจังหวัดเชียงราย เริ่มตั้งแต่โรงแรมเลอเมอริเดียน จนวนกลับมาที่เดิม รวมระยะทางไป-กลับประมาณ  178.5 กม. ซึ่งมีให้สัมผัสทางตรงและเส้นทางโค้งในช่วงที่ขึ้นดอยตุง ทำให้รับรู้ถึงสมรรถนะของทั้งอัตราเร่งที่ตอบสนองได้แรงเกินคาด และช่วงล่างที่เซ็ทมาหนึบแน่นผ่านฉลุยได้ทุกโค้ง        ถึงจะเป็นเครื่องดีเซลที่จับมาใส่กับอีโคคาร์ แต่มาในแบบคลีนดีเซลทำให้พอสตาร์ทเครื่องจะรู้สึกได้ว่าเครื่องเดินเงียบมากไม่ได้ยินเสียงเข้ามาภายในห้องโดยสารเลย และเมื่อถึงเวลาที่ออกตัวแรงบิดที่ให้มาถึง 250 นิวตันที่ 1500-2500 รอบต่อนาที ตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้สามารถลากน้ำหนักตัวรถที่ 1,142 กก.ได้อย่างสบายหายห่วง    และนั้นทำให้รับรู้ถึงสมรรถนะได้ทันทีตั้งแต่กดคันเร่ง  เพราะ รถสามารถพุ่งออกตัวไปได้อย่างเร็วทันใจ ซึ่งแค่เริ่มต้นก็ถูกใจแล้ว และเมื่อเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นจะเห็นได้ว่าเรียกกำลังออกมาได้ง่าย ๆ โดยที่เกียร์สกายแอคทีฟแบบ 6 สปีด สามารถเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละจังหวะได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่องทำให้ความเร็วที่ 100 กม./ชม.ใช้เวลาแป๊ปเดียว  ระหว่างเดินทางระดับความเร็วที่ผ่านหน้าจอแบบ Active Driving Display  ทำให้มองเห็นชัดเจนและเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วประมาณ 120 กม./ชม.ที่ 2100 รอบ ซึ่งใช้รอบเครื่องไม่มากบ่งบอกได้ถึงความประหยัด แต่เมื่อหันมาเล่นโหมดเปลี่ยนเกียร์เองในแบบ + -  สามารถลากรอบได้มากขึ้น แต่กับรู้สึกถึงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่ตอบสนองช้ากว่าเล็กน้อย ในการทำความเร็วแต่ละช่วงจาก 80 -120 กม./ชม. กับเครื่องขนาด 1500 ซีซีแบบติดเทอร์โบแปรผัน สามารถเรียกกำลังวังชาออกมาได้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้รู้สึกขับสนุกเวลาเติมคันเร่งจะรับรู้ได้เลยว่าติดเท้า โดยเฉพาะในช่วงรอบกลางไปจนถึงปลาย ทำให้สามารถวิ่งความเร็วได้มากกว่า 170 กม./ชม. ผ่านมาถึงเส้นทางโค้งที่จะขึ้นไปทางดอยตุง ซึ่งจะเป็นอีกบทพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของช่วงล่างที่มาสด้าได้ชื่อว่าเจ๋งจริงในเรื่องนี้ และถึงจะเป็นรถเล็กแต่ทำออกมาได้ดี เพราะมีให้ลองขับหลายรูปแบบทั้งโค้งขึ้นเขา ลงเขา และโค้งเอส  แต่ดีที่ช่วงล่างเซ็ทมาแบบแน่นปึกทำให้เวลาเข้าโค้งพลิกพลิ้วได้อย่างใจ  ยิ่งในรุ่นแฮทแบ็ลครับรู้ได้เลยว่าเซ็ทช่วงล่างมาแข็งกว่าทำให้ขับสนุกยิ่งขึ้น ถ้าเป็นโค้งกว้างหน่อยเร่งสปีดเข้าได้เลย พร้อมกับหักพวงมาลัยไฟฟ้าที่ให้น้ำหนักกำลังดีไปตามทิศทางของโค้ง รับรองขับผ่านโค้งได้อย่างสบาย  และที่สำคัญยังมีตัวช่วยอย่างระบบ DSC ที่ควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ จึงไว้วางใจได้ แต่สำหรับรุ่นซีดานกับให้ความนุ่มนวลมากกว่า  ในช่วงที่ผ่านเข้าตัวเมืองเมื่อเจอสัญญานไฟแดง ทำให้รถต้องจอดหยุดนิ่ง จากนั้นระบบ i-STOP เข้ามาทำงานทันที โดยเครื่องยนต์จะดับอย่างอัตโนมัติ ขณะที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถยังคงทำงานตามปกติไม่ว่าจะเป็นระบบปรับอากาศ หรือเครื่องเสียง เพราะอาศัยพลังงานไฟฟ้าจาก i-ELOOP ซึ่งทั้งสองระบบจะทำงานคู่กัน เพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น          แต่เมื่อสังเกตุระบบ i-STOP จะใช้เวลาไม่นานเครื่องจะติดขึ้นมาเอง ซึ่งตรงนี้น่าจะช่วยให้ประหยัดได้ไม่มาก และจะรับรู้ได้เวลาที่เครื่องติดจะมีแรงกระชากให้รู้สึกได้  ยิ่งถ้าขับในกรุงเทพฯเจอจราจรติดขัดเครื่องต้องติด ๆ ดับ ๆ อยู่หลายครั้งอาจทำให้รำคาญได้บ้าง แต่ตรงนี้สามารถตัดระบบดังกล่าวออกได้ โดยมีปุ่มปลดระบบอยู่ที่คอนโซลหน้า         นับว่าเป็นรถไซส์เล็กที่พิษสงเกินตัว เพราะมาสด้า 2 ใหม่ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่สนุกสนานคล่องตัว ทั้งนี้เพราะอาศัยเครื่องดีเซลติดเทอร์โบ ทำให้สามารถเรียกกำลังออกมาได้อย่างต่อเนื่องพร้อมกับช่วงล่างที่ทรงตัวนิ่งและนุ่มนวลใช้ได้  ในราคารุ่นท๊อป 790,000 บาท แต่ค่าตัวดูจะแพงเกินรุ่น