ธนายุทธ เตชะเสน

เจาะกลยุทธ์ยกระดับVolkswagen

                แม้จะมียอดจำหน่ายรถยนต์ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับค่ายรถยนต์แบรนด์ยอดนิยมในเมืองไทยก็ตาม แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารถยนต์แบรนด์Volkswagen ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนพันธุ์ผู้นิยมรถยนต์สมรรถนะสูงจากประเทศเยอรมนีมาอย่างต่อเนือง

ล่าสุดทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณธนายุทธ เตชะเสน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ในเครือ “ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป” ผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ Volkswagenที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่นาน โดยมีเป้าหมายหลักที่จะยกระดับการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย  รวมถึงการขยายตลาดให้เติบโตเพิ่มขึ้น

ยกระดับการทำตลาดในด้านใดบ้าง

                “เราพยายามโฟกัสไปที่ลูกค้าเฉพาะกลุ่มและแต่ละรายให้มากที่สุด เช่น กลุ่มรถตู้รุ่นคาราเวล จะเข้าถึงความต้องการลูกค้าว่า ต้องการแบบไหน แม้ที่ผ่านมาเราทำมาโดยตลอดก็ตาม แต่จะใส่ใจมากขึ้น ทั้งด้านความปลอดภัยและคุณภาพ เช่น อุปกรณ์ที่ตกแต่งเพิ่ม มีการคัดเลือกวัสดุและซัพพายเออร์ โดยต้องใช้วัสดุคุณภาพสูง ตัวอย่างเช่น พาดิชั่นคอนโซลกลาง เราเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในปัจจุบันที่ใช้พลาสติกขึ้นรูป ขณะที่ค่ายรถอื่นรวมถึงร้านตกแต่งรถตู้ทั่วไป จะใช้ไม้มาต่อขึ้นรูป ซึ่งมีน้ำหนักมากและใช้ไปนานๆ จะเกิดเชื้อรา”

                เหตุใดรถตู้โฟล์คที่ค่ายเกรย์นำมาขายมีราคาถูกกว่า

“รถพวกนี้จะนำเข้ามาจากอังกฤษส่วนของโพลค์เราจะนำเข้าจากเยอรมนีโดยตรง และการที่ผู้นำเข้ารถอิสระทำราคาได้ต่ำกว่าเรานั้นอาจทำให้ผู้ใช้ที่ไม่เข้าใจ ตัดสนใจซื้อมาขับ แต่หารู้ไม่ว่า เมื่อใช้ไปสักพักจะเกิดปัญหาวิ่งไม่ออกและเสียง เนื่องจากเป็นรถที่ไม่มีการปรับสมรรถนะให้เหมาะกับเมืองไทย โดยเฉพาะตัวกรองน้ำมัน เนื่องจากที่อังกฤษใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 แต่น้ำมันเมืองไทยยังเป็นมาตรฐานยูโร เมื่อใช้งานไปสักพักรถจะวิ่งไม่ได้ และความเสียหายจะตามมา”

 ตั้งเป้ายอดขายปี 2556 ไว้เท่าไหร่

                “เป้าขายก็เช่นกัน เรามีการยกระดับขึ้น โดยตั้งไว้ที่ 1,000 คันแบ่งเป็นรถตู้ทุกรุ่นรวมกัน 700 คัน โดยรถตู้ของเรามีขาย 3 รุ่น คือ คาราเวล บิสสินิสไลน์ (ตู้กั้นช่วงยาว) ขนาด11 ที่นั่ง ตั้งเป้าขาย 600 คัน คาราเวล ทัวร์ริ่ง (ช่วงยาวแต่ไม่มีตู้กั้น) เหมาะกับครอบครัวใหญ่ และมัลติแวน (ช่วงสั้น) ที่มีขนาดสั้นกว่าตู้ช่วงยาวประมาณ 30 ซม.นั่งได้ 7  ที่นั่ง ตั้งเป้าขายรวมกัน100 คัน  ที่เหลือเป็นรถเก๋งทั้งซีรอกโคและกอล์ฟ จีทีไอรวมกัน  300 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว15 %”

                ปีนี้จะเปิดรถรุ่นใหม่กี่รุ่น

                “ปิกอัพพรีเมียม รุ่นอะมาร็อก เรานำมาทดลองตลาดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยแจ้งกับโฟล์คเยอรมนีว่า ตลาดปิกอัพของไทยมีขนาดใหญ่ปีที่ผ่านมียอดขายกว่า 600,000 คัน น่าจะนำมาลองตลาด ปรากฎว่าปิกอัพราคา1.98 ล้านบาท มีลูกค้าสนใจจอง 20 คัน ซึ่งเป็นผลจากการมีสมรรถนะโดดเด่น ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ให้แรงบิด420  นิวตัน-เมตร 177 แรงม้า เกียร์ออโต้ 8 สปีด ประหยัดน้ำมันและวิ่งเกิน 200 กม.ต่อชม. ใหญ่กว่าปิกอัพทุกยี่ห้อที่ขายในเมืองไทยขณะนี้ นั่งสบายทุกที่นั่ง จากตรงนี้ทำให้เห็นว่า ในอนาคตเรามีแผนที่จะทำตลาดปิกอัพรุ่นนี้อย่างจริงจังและจะทำรูปแบบเดียวกับคาราเวลที่สั่งรถเปล่าเข้ามาแล้วติดตั้งพาร์ทของไทยกว่า 40% เพื่อให้รับสิทธิ์ภาษี 0%จะทำให้รถราคาถูกลง และแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ อีกรุ่นที่จะนำเข้าคือ บีทเทิลปี 2014 เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ใหม่ คงมาช่วงปลายปีนี้”

                นโยบายการยกระดับการบริการหลังการขายนั้น คุณธนายุทธ เตชะเสน บอกว่าโชว์รูมและศูนย์บริการปัจจุบันมีอยู่ 13 แห่ง (กทม. 6 แห่ง/ต่างจังหวัด 7 แห่ง) เพียงพอต่อการให้บริการลูกค้า ขณะเดียวกันได้ออกแคมเปญซื้อรถโฟลค์ไปขับรับฟรีค่าบำรุงรักษาฟรี 5 ปี 150,000 กม.ส่วนรถที่หมดระยะรับประกันบริษัทได้นำอะไหล่ “อีโคโนมี่พาร์ท” หรือแอฟเตอร์มาร์เก็ตพาร์ท ที่มีราคาถูกกว่า แต่คงคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตราโพลค์มาเป็นทางเลือก และจะเร่งเพิ่มจำนวนพาร์ทต่างๆ ให้ครอบคลุมมากขึ้น