17-พฤษภาคม  |   1724

ฮอนด้านำทีมเยาวชนไทย - ญี่ปุ่นตะลุยอาณาจักรฮอนด้า ทวินริง โมเตกิ          กรุงเทพฯ วันที่ 6 พฤษภาคม 2557 - บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น จัดกิจกรรมค่ายแลกเปลี่ยนเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น “ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คิดส์" โดยมีเยาวชนไทย 6 คนผู้ชนะจากโครงการประกวด "ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์ 2013" และเยาวชนญี่ปุ่น 6 คนผู้ชนะจากโครงการฮอนด้า คิดส์ ไอเดีย คอนเทสต์ ครั้งที่ 11 ร่วมเปิดประสบการณ์แห่งความคิดสร้างสรรค์ เมื่อเร็วๆ นี้ ณ อาณาจักรฮอนด้า ทวินริง โมเตกิ จังหวัดโตชิกิ ประเทศญี่ปุ่น          อาณาจักรฮอนด้า ทวินริง โมเตกิ ณ เมืองโมเตกิ ในมณฑลโตชิกิ บนเทือกเขาฮักโกะ มีพื้นที่จำนวน 640 เฮกเตอร์ โดยพื้นที่ร้อยละ 35 เป็นสนามแข่งรถทวินริง โมเตกิ ซึ่งนับเป็นสนามแข่งรถยนต์ระดับโลกอย่าง MotoGP ที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นอย่างกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมบนเทือกเขาและป่าโปร่ง  แนวคิดหลักในการสร้างอาณาจักร ฮอนด้า ทวินริง โมเตกิ คือ การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ โดยพยายามรักษาธรรมชาติและการอนุรักษ์ตามหลักนิเวศน์วิทยาให้คงสภาพดั้งเดิมไว้มากที่สุด ดังนั้นการออกแบบจึงมุ่งเน้นเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผู้คน และสัตว์ป่าที่อาศัยให้น้อยที่สุด โดยเน้นประโยชน์ 2 ด้าน คือ เพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีของยนตรกรรม ควบคู่กับการอนุรักษ์และการจัดการสิ่งแวดล้อม อาทิ การตรวจสอบมลภาวะ ด้านอากาศ น้ำ เสียง ความสั่นสะเทือนอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการดูแลและคุ้มครองสัตว์ป่า ต้นไม้ ร่องน้ำ และอื่นๆ รวมถึงการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้ในการจัดการขยะ การบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น          ที่ฮอนด้า ทวินริง โมเตกิ ยังประกอบด้วยสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ 1) สนามแข่ง 2) ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์ เปรียบเสมือนเส้นทางแห่งความฝันของฮอนด้า ที่ได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษของฮอนด้า 3) ป่าเฮลโล วูดส์  เป็นป่าโอ๊คและนัท ที่เด็กๆ ผู้มาเยี่ยมชมจะได้ค้นพบสิ่งแปลกใหม่ และการทดลองสร้างสรรค์งานศิลปะจากวัสดุในป่าในสวนป่าแห่งนี้ 4) ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยของฮอนด้า 5) การพักค้างแรมแบบแคมป์ปิ้ง (Auto camp) ที่พักค้างแรมที่ครอบครัวสามารถนำรถเข้าไปจอดพร้อมกับการเต้นท์พักแรม เพื่อสัมผัสบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติอย่างใกล้ชิด          เยาวชนไทยและญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 12 คน ได้ร่วมกิจกรรมเสริมการเรียนรู้อันหลากหลายและสร้างสรรค์แรงบันดาลใจภายในอาณาจักรฮอนด้า ทวินริง โมเตกิ อาทิ ชมการจัดแสดงพัฒนาการของอาซิโม หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ที่สุดในโลกของฮอนด้า และการสาธิต U3-X อุปกรณ์ขับเคลื่อนส่วนบุคคลที่ใช้เทคโนโลยีควบคุมสมดุลที่พัฒนาต่อยอดจากงานวิจัยในโครงการพัฒนาหุ่นยนต์อาซิโม ทั้งยังได้ท่องโลกแห่งเทคโนโลยีประดิษฐกรรมยานยนต์ของฮอนด้าในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่เก็บรวบรวมยนตรกรรมของฮอนด้าทุกชิ้นกว่า 60 ปีใน “ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์” และสนุกกับกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการสำรวจป่า Hello Woods เพื่อปลูกจิตสำนึกของเยาวชนได้ตระหนักถึงคุณค่าของป่าและเข้าใจในการดำรงชีวิตอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์ สิ่งมีชีวิตและธรรมชาติในโลกแห่งเทคโนโลยีล้ำหน้า         มร. ชูอิจิโระ คุโบะ ผู้จัดการทั่วไป สำนักกิจกรรมเพื่อมนุษยธรรม บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า "ฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์เป็นโครงการประกวดที่สอดคล้องกับแนวคิดของ มร.โซอิจิโร่ ฮอนด้า ที่เชื่อในพลังแห่งความฝัน "จินตนาการ" คือพลังขับเคลื่อนให้เราไปข้างหน้า ผลงาน ของเด็กๆ ล้วนเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ผู้ใหญ่คิดไม่ถึง รู้สึกประทับใจที่เด็กคิดผลงานเพื่อสังคม โดยเฉพาะผลงานของเด็กไทยสะท้อนชัดเจนว่า คิดเพื่อคนอื่น เน้นการช่วยเหลือคนอื่น ส่วนผลงานของเด็กญี่ปุ่นเน้นเรื่องจิตวิญญาณ ซึ่งอาจจะเกิดจาสภาวะสังคมการใช้ชีวิตที่กดดัน เด็กจึงเกิดจินตนาการ เพื่อสนองความต้องการของเด็กภายใต้สภาวะสังคมที่บีบคั้น บางผลงานมีความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้ได้จริง เช่น "บ้าน ECO-HOUSE ในอนาคต" ของด.ช.วะคะมะยะชิ เค็นโตะ หรือ "สกู๊ตเตอร์เพื่อคนตาบอด" ของด.ช.รติภัทร นภานุรักษ์ สำหรับค่ายเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ผมรู้สึกประทับใจที่เด็กๆ ทั้ง 12 คน มีความสุข มีเสียงหัวเราะ มีรอยยิ้ม แม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษากัน แต่ก็ยังสื่อสารกันได้ผ่านกิจกรรมที่ทำร่วมกัน แม้ว่าทรัพยากรธรรมชาติจะมีอยู่อย่างจำกัด แต่ความฝันของเด็กไม่จำกัด ถ้าเด็กๆ มีความฝัน และความคิดที่เอื้อต่อผู้อื่น ผู้ใหญ่ให้การส่งเสริม เด็กก็สามารถสานฝันให้เป็นจริง โลกเราก็จะน่าอยู่ขึ้น"         น้องดา ด.ญ.ลลิตา ศรีประจักษ์ อายุ 8 ขวบ ที่ตัวเล็กสุดในทริป เล่าถึงประสบการณ์ในญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิตว่า "ชอบอาซิโมที่ขยับตัวได้ หนูอยากเป็นคนคิดอาซิโม เพราะคนคิดจะได้ดังไปด้วย ชอบเกมที่เล่นกับเพื่อนๆ ญี่ปุ่นที่ Hello Woods เป็นเกมที่ทำให้สนิทกันมากขึ้น ขอบคุณฮอนด้าที่สนับสนุนให้หนูได้มาที่นี่ และได้รู้จักคนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก รู้สึกประทับใจที่คนญี่ปุ่นใจดี โตขึ้นหนูอยากเป็นครูสอนศิลปะ อยากให้ทุกคนมีจินตนาการ คิดอะไรใหม่ๆ ค่ะ"         น้องกีกี้ ด.ญ.กรสุจิต ภู่ชม เล่าถึงความประทับใจในตัวคนญี่ปุ่นว่า "ประทับใจความเป็นอยู่ในเรื่องความมีระเบียบ เช่น การข้ามถนนก็จะต้องรอสัญญาณถึงจะข้าม เรื่องการแยกขยะขวดพลาสติกที่เห็นได้ทุกที่ในญี่ปุ่น รู้สึกสนุกและมีความสุขที่ได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ เด็กญี่ปุ่นก็พยายามเข้าใจเรา เราก็พยายามเข้าใจเขา ทั้งที่เขาพูดภาษาญี่ปุ่น เราพูดภาษาไทย มีใช้ภาษาอังกฤษบ้างเล็กน้อย แต่ก็เข้ากันได้ดีค่ะ ขอบคุณฮอนด้าที่จัดโครงการเพื่อเด็กแบบนี้ ขอให้ฮอนด้าจัดกิจกรรมแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ เพื่อให้คนต่อๆ ไปได้มีประสบการณ์ดีๆ แบบพวกหนูที่ได้มาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนร่วมโครงการเดียวกันในญี่ปุ่น โตขึ้นหนูอยากเป็นดีเจ เพราะเสียงเพลงสามารถช่วยบำบัดคนได้ค่ะ"         น้องอาร์ม ด.ช.รติภัทร นภานุรักษ์ เล่าว่า "ชอบอาซิโมโชว์มาก ทึ่งว่าอาซิโมทำได้ไง มีความสามารถเยอะมาก ชอบทั้งลีลาการเตะบอล ท่าเต้น การย่อเท้าวิ่ง เป็นหุ่นยนต์ที่เดินได้เหมือนคนมาก อยากจับมือกับอาซิโม ประทับใจการนำเสนอผลงานบนเวทีเดียวกับเด็กญี่ปุ่น ตอนแรกก็รู้สึกเกร็งจนไม่รู้จะสรุปยังไง แต่ก็ผ่านไปด้วยดี เพื่อนญี่ปุ่นก็ใจดี เอาขนมจากบ้านมาให้ด้วย ขอขอบคุณฮอนด้าและทีมงานที่สนับสนุนให้พวกเรามีวันนี้ รู้สึกดีมาก มันทำให้เรากล้าขึ้นมาก ปีหน้าจะส่งประกวดอีก จะขอเป็นที่หนึ่ง อนาคตผมอยากเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์เพื่อสอนให้ทุกคนรู้จักการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ครับ"         ด้านเด็กญี่ปุ่นก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน ด.ญ.เอะซะคิ โคะโนะคะ บอกว่าตอนแรกก่อนมาก็ตื่นเต้นมาก แต่พอมาเจอกัน รู้สึกว่าทุกคนเป็นเพื่อนกันได้ ถ้ามีโอกาสอยากให้มาเที่ยวญี่ปุ่นอีก ขอบคุณสำหรับค่าย 2 วันที่ผ่านมา ด.ช.อิโต โมะโตะยะ เล่าว่าก่อนมาตอนรู้ว่าต้องมาเข้าค่ายกับคนไทย ยอมรับว่ากลัว แต่พอมาจริงๆ คนไทยน่ารักมาก ใจดี สนุก ปีหน้าจะมาประกวดอีกเพื่อเอารางวัลที่ 1 จะได้มาเข้าค่ายกับฮอนด้าอีก  เกี่ยวกับโครงการ ฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์         โครงการ “ฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2548 มีต้นกำเนิดจากโครงการ ฮอนด้า คิดส์ ไอเดีย คอนเทสต์ ของบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนรู้จักใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการรักความท้าทาย กล้าที่จะทำความฝันให้เป็นจริง โดยเปิดรับไอเดียสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคตที่สนุก สร้างสรรค์ และมีประโยชน์ต่อสังคมของเยาวชนระดับประถมศึกษาจากทั่วประเทศ ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และรางวัลทัศนศึกษาประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9